เอเยนซี-ปฏิทินปี 2012 ถือเป็นซีซันที่ศึกกอล์ฟ แอลพีจีเอ ทัวร์ ต้องจารึกหน้าประวัติศาสตร์ใหม่ไว้อีกหนึ่งบท สำหรับโปรสาวชาวเอเชีย เมื่อ ชิน จิไย โปรชาวเกาหลีใต้ สร้างความฮือฮาซิวแชมป์กอล์ฟเมเจอร์สุดท้ายของปี รายการ “วีเมนส์ บริติช โอเพน” ที่สนามรอยัล ลิเวอร์พูล กอล์ฟ คลับ ในประเทศอังกฤษ วันอาทิตย์ที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยทิ้งห่างอันดับ 2 อย่าง ปาร์ค อินบี เพื่อนร่วมชาติถึง 9 สโตรก ที่สกอร์ 9 อันเดอร์พาร์
นอกจากอดีตมือ 1 ของโลกแดนกิมจิ จะสร้างสถิติใหม่ส่วนตัวเป็นก้านเหล็กสาวคนแรกที่สามารถซิวแชมป์ 2 รายการต่อกันในช่วง 2 อาทิตย์ หลังจากสุดสัปดาห์ก่อนเพิ่งประกาศศักดิ์ดาครองแชมป์ “คิงส์มิลล์ แชมเปียนชิป” ที่เมืองมะกัน ยังเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ที่โปรชาวเอเชีย สามารถผนึกกำลังยึดหัวหาดซิวแชมป์เมเจอร์ทั้ง 4 รายการ ในแอลพีจีเอ ทัวร์ ของปี 2012 มาครองได้ทั้งหมด พร้อมตอกย้ำความยิ่งใหญ่อย่างเป็นทางการให้กับวงการกอล์ฟหญิง
ก่อนหน้านี้ มีข้อถกเถียงว่า แท้จริงแล้ว ปัก เซ รี ยอดนักกอล์ฟฮอลออฟเฟมจากเกาหลีใต้ ที่โผล่คว้าแชมป์เมเจอร์ 2 รายการในปี 1998 หรือ เจิง หยานี โปรมือ 1 โลกจากไต้หวัน ที่สร้างชื่อทำทริปเบิลแชมป์เมเจอร์ปี 2010 กันแน่ที่เป็นฝ่ายบุกเบิกความหวังในการซิวโทรฟี่ใหญ่ยักษ์ 4 ทั้งรายการในแอลพีจีเอ ทัวร์ ของก้านเหล็กเอเชีย
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะหมดยุคของ ปัก เซ รี เปลี่ยนผ่านมาสู่ เจิง หยานี กระทั่งโปรจากไต้หวันเริ่มผลงานดรอปลงในซีซันล่าสุด แต่รากฐานของความหวังและแรงบันดาลที่ทั้งคู่ได้ปูไว้กลายเป็นจุดเริ่มต้นยุคทองของก้านเหล็กสาวเอเชียในปีนี้อย่างสมบูรณ์แบบ
ไล่เรียงมาตั้งแต่แชมป์ช่วงต้นปี “คราฟท์ นาบิสโก แชมเปียนชิป” เมื่อเดือนมีนาคม ของ ยู ซัน-ยัง จากเกาหลีใต้ ตามมาด้วยเดือนมิถุนายน “เวกแมนส์ แอลพีจีเอ แชมเปียนชิป” ที่นิวยอร์ก ของ ซานซาน เฟิง โปรสาวแดนมังกร และอีก 2 ทัวร์นาเมนต์ใหญ่อย่าง “ยูเอส วีเมนส์ โอเพน” ที่ ชอย นายอน อีกหนึ่งนักกอล์ฟสาวกิมจิซิวมานอนกอด บวกกับรายการล่าสุดของ ชิน จิไย ที่แดนผู้ดี
หากนับรวม ณ ปัจจุบัน จากการตระเวนแข่งตลอดปฏิทินทัวร์ปี 2012 มาแล้วทั้งหมด 21 รายการ บรรดาก้านเหล็กสาวชาวเอเซียร่วมใจกันซิวแชมป์มาครองอย่างพร้อมเพรียง 14 ทัวร์นาเมนต์ ซึ่ง 1 ใน 14 รายการที่ว่ามี “โปรแหวน” พรอนงค์ เพชรล้ำ นักกอล์ฟขวัญใจชาวไทยเจ้าของแชมป์รายการอย่างเป็นทางการ “เอชเอสบีซี บราซิล คัพ” เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม ที่กรุงริโอ เด จาเนโร ประเทศบราซิล
ยิ่งไปกว่านั้น หากนับแค่ 8 รายการล่าสุดของปี ตำแหน่งแชมป์ยังตกเป็นของโปรกอล์ฟจากดินแดนโลกตะวันออกถึง 7 รายการ และอีก 1 ทัวร์นาเมนต์ที่หลุดมือไป คือแชมป์ของ ลิเดีย โค นักกอล์ฟอเมเจอร์ในศึก “แคนาเดียน วีเมนส์ โอเพน” เมื่อเดือนสิงหาคม และถึงแม้โปรวัย 16 ปี จะเป็นชาวนิวซีแลนด์ ยังเธอเองก็มีเชื้อสายเกาหลีใต้ในสายเลือดอีกเช่นกัน
โดย ชิน จีไย ผู้ตอบโจทย์สุดหินของนักกอล์ฟเอเชียในการเติมเต็มประวัติศาสตร์ เปิดเผยหลังกลับมาหวดอีก 36 หลุมในการแข่งขันวันที่ 4 ว่า ไม่คิดมาก่อนว่าตนเองจะได้แชมป์รายการนี้ รู้สึกตื่นเต้นกับผลงานและสกอร์ของตนเองมาก “ฉันได้พูดไว้ก่อนแข่งว่า เป้าหมายคือเก็บวันละ 1 อันเดอร์พาร์ จบ 4 วันด้วยสกอร์ 4 อันเดอร์พาร์ นั่นคือสิ่งที่พอใจ แต่จากสกอร์ที่ออกมามันน่าประหลาดใจมาก สนามนี้มีความยากสูง แต่ฉันมีความสุขที่สามารถเล่นจบในวันอาทิตย์และเป็นแชมป์ในที่สุด”
ส่วนประเด็นคำถามที่เธอเองสามารถเป็นคำตอบสุดท้ายในการซิวแชมป์ “บริติช โอเพน” เป็นเมเจอร์ที่ 4 ทำสถิติที่ยิ่งใหญ่ อดีตมือ 1 โลก กล่าวด้วยความตื้นตันว่า “ฉันคิดว่าในรายการทัวร์ของ แอลพีจีเอ มีโปรชาวเอเชียได้สิทธิ์เข้าร่วมแข่งหลายราย และนั่นถือเป็นโอกาสสูงที่จะเป็นผู้ชนะได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันพิเศษสุด ฉันบอกไม่ถูกเลย ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้ลงเล่นศึกเมเจอร์ 2 รายการหลังสุด แต่กลับมาเล่นทีนี่และเป็นแชมป์ ฉันรู้ดีว่าการซ้อมหนักทำให้ได้แชมป์ และนักกอล์ฟรายอื่นๆ ก็ซ้อมหนักเหมือนกันแต่ทำไมเหตุการณ์นี้จึงมาเกิดขึ้นกับฉัน”
จากนี้เหลือการแข่งเพียง 8 รายการ ซึ่งพอดีกับโปรแกรมที่เป็นใจกลับมาตระเวนทัวร์ในแถบเอเชียอีกครั้ง จึงเป็นที่น่าติดตามว่าก้านเหล็กในดินแดนฝั่งตะวันออกจะรักษาฟอร์มเยี่ยมไปจนถึงศึกใหญ่ “ซีเอ็มอี กรุ๊ป ไตเติลโฮลเดอร์” ที่คัดเอาแชมป์แต่ละรายการมาดวลกันช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ได้ดีแค่ไหน และดีพอครองแชมป์สุดท้ายของปีด้วยหรือไม่