xs
xsm
sm
md
lg

โอกาสเท่ากัน ก็ต้องใช้ให้เท่ากัน / วันปีย์ สัจจมาร์ค

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”

 สัปดาห์ที่ผ่านมาต้องบอกว่าเป็นอีกครั้ง อีกครั้ง และอีกครั้ง ที่รอรี แมคอิลรอย ทำให้เราชัดเจนกับคำว่า "มือหนึ่งของโลก” มากขึ้นไปเรื่อยๆ เปรียบเสมือนการย้ำแล้วย้ำอีกว่าเขาคือมือหนึ่งอย่างแท้จริง เพราะว่าช่วงนี้ฮอตเหลือเกิน ทำอะไรก็ดูดีไปหมด ลุ้นแชมป์แทบจะทุกรายการที่ลงแข่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีบุคคลที่ทำให้เรานึกถึงพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว ซึ่งเป็นบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างมากนั่นคือ ไทเกอร์ วูดส์ นั่นเอง
 
ตั้งแต่เทิร์นโปร ไทเกอร์ เคยทำให้วงการกอล์ฟสั่นสะเทือนด้วยการคว้าแชมป์ปีละ 3-7 รายการมาตลอดทศวรรต เรียกได้ว่าลุ้นแชมป์ตลอดเวลา หรือต่อให้ไม่ได้แชมป์ก็น้อยมากที่จะหลุดจากลีดเดอร์บอร์ดหน้าแรก ด้วยผลงานระดับพระกาฬนี้ทำให้เขาครองบัลลังก์มือหนึ่งของโลกมาหลายปี แถมในช่วงนั้นยังมีคะแนนสะสมอันดับโลกแบบที่เรียกได้ว่าไม่ต้องลุ้น เนื่องจากทิ้งไม่เห็นฝุ่น แต่เขาก็ต้องแลกมาด้วยการฝึกฝนอย่างหนักมาเป็นระยะเวลานาน เขาเสียสละเวลาส่วนตัวไปกับการฝึกซ้อม การพัฒนาวงสวิง ราวกับว่ายอมแลกด้วยทุกอย่างเพื่อจะได้มายืน ณ จุดนี้ 

มาถึงวันนี้เด็กหนุ่มจากไอร์แลนด์นามว่า รอรี แม็คอิลรอย คนนี้ ได้เดินกึ่งวิ่งตามขั้นบันไดสู่บัลลังก์โลกที่ไทเกอร์เคยก้าวผ่านมาก่อน เป็นลำดับและเหตุการณ์สู่ความยิ่งใหญ่ในอีกหลายปีข้างหน้า รอรี่ ทำให้เรารู้สึกถึงตอนที่ ไทเกอร์ กำลังเริ่มสร้างปรากฎการณ์ รู้สึกเหมือนกับว่า "เอาแน่...มาแน่ๆ” จากที่ รอรี ได้เคยกล่าวเอาไว้เมื่อตอนที่คว้าแชมป์ระดับอาชีพครั้งแรกว่า "เขาต้องการจะเป็นมือหนึ่งของโลก” และในวันนี้เขาก็พิสูจน์ให้เห็นอย่างไร้ข้อกังขาว่าเขาคู่ควรกับมันจริงๆ อีกทั้งยังมีแต้มสะสมที่เริ่มจะทิ้งห่างออกไปเรื่อยๆ ฟอร์มก็ดูดีขึ้นเรื่อยๆ เรียกได้ว่าชั่วโมงนี้...ใครก็ฉุดยากครับ และที่มันกว่านั้นก็คือเมื่อ รอรี หันหลังกลับไปดู ก็จะเห็นชายเสื้อแดงตามไล่บี้ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เขาคนนั้นไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นเจ้าของบัลลังก์คนเดิมที่กำลังมาทวงคืนนั่นเอง
 
ทั้งหลายทั้งปวงก็สามารถยืนยันได้ว่าไม่มีอะไรยากเกินความพยายาม ไม่มีใครเก่งมาตั้งแต่เกิด สิ่งที่ ไทเกอร์ และ รอรี มีเหมือนกันก็คือ "ทัศนคติและความมุมานะพยายามที่จะแก้ไขข้อผิดพลาดของตัวเอง รวมถึงปรับปรุงเกมกอล์ฟให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา" หรือจะเรียกว่ากระหายความสำเร็จก็ว่าได้ และสำหรับนักกอล์ฟทั่วไปแล้ว นักกอล์ฟสองคนนี้พิสูจน์ให้เราได้บทเรียนว่าความพยายามและความสำเร็จนั้นเป็นเพื่อนบ้านกันจริงๆ อย่าลืมนะครับ "ทุกคนอาจจะมีโอกาสเท่ากัน แต่ใช้มันไม่เท่ากัน"
กำลังโหลดความคิดเห็น