คอลัมน์ “The Golf Touch” โดย “วันปีย์ สัจจมาร์ค”
สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ทราบถึงอาการหลังจากการทำเบอร์ดี้กันไปพอหอมปากหอมคอ วันนี้ลองมาศึกษาภาวะเหตุการณ์ก่อนที่จะได้เหวี่ยงกำปั้นดีใจแบบ ไทเกอร์ วูดส์ กันสักหน่อยว่ากว่าจะได้เบอร์ดี้มานั้นยากลำบากเพียงใด หรือสำหรับบางคนแล้วอาจจะง่ายกว่าที่คิด ซึ่งจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดมาจากการเสริฟลูกออกมาจากแท่นทีนั่นเอง และเพื่อให้ท่านผู้อ่านนึกภาพตามได้ชัดๆ ผมขอแบ่งเป็น 4 ประเภทในการออกเดินทางตามหาเบอร์ดี้
1. ไดร์ฟตรงและไกล ดูๆแล้วนี่เป็นคุณสมบัติที่นักกอล์ฟหลายคนหมายปอง คุณลุงเฟรด คัพเพิลส์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของนักกอล์ฟกลุ่มนี้ ด้วยวงสวิงที่ดูง่ายๆ นุ่มนวล แต่ก็มีครบทั้งระยะและทิศทาง โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ตีได้ระยะดี เมื่อเล่นช็อตที่สองก็มักจะมีโอกาสหยิบเหล็กที่สั้นกว่าคนอื่น รวมถึงในกรณีนี้ทิศทางดีด้วยอีกต่างหาก ซึ่งหมายความว่าลูกของนักกอล์ฟคนนี้จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีและมีโอกาสตีลูกให้ขึ้นไปอยู่ในระยะหวังผลได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนพัตต์ดีด้วย เบอร์ดี้ก็ลุ้นได้ไม่ยากเลย
2. ไดร์ฟตรงแต่ไม่ไกล นักกอล์ฟประเภทนี้มีให้พบเห็นกันเป็นจำนวนมาก ข้อดีของการไดร์ฟตรงก็คือ ท่านจะได้เล่นช็อตต่อไปจากหญ้าสั้นแน่ๆ และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียคะแนนในเขตอุปสรรคด้านข้าง ส่วนเรื่องของระยะแม้ว่าจะตีสั้นกว่าคนอื่น แต่เราก็ต้องหาจุดแข็งมากลบให้ได้ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้และสมควรให้ความสำคัญมากๆ ก็คือการเป็น "นักเลงหัวไม้" หมายถึงการตีหัวไม้ 3, หัวไม้ 5, ไฮบริด รวมไปถึงบรรดาเหล็กยาว ให้แม่นยำเข้าไว้ แล้วท่านจะไม่มีจุดอ่อนในตัวอีกต่อไป ตอนนี้ก็มีสถานะไม่ต่างจากนักกอล์ฟในประเภทแรกแล้ว ไม่เชื่อไปถาม คอรีย์ เพวิน ได้ ทุกวันนี้เขาก็ยังต่อสู้ใน พีจีเอ ทัวร์ ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
3. ไดร์ฟไม่ตรงแต่ยังไกลอยู่ นักกอล์ฟประเภทไดร์ฟมันส์ไว้ก่อนมีอยู่มากมาย บับบา วัตสัน, เซอร์จิโอ การ์เซีย รวมไปถึง ไทเกอร์ วูดส์ ก็อยู่ในข่ายนี้ทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วนักกอล์ฟกลุ่มนี้จะเป็นประเภทใช้ความรู้สึกในการเล่นสูง และสามารถชดเชยความผิดพลาดด้วยการเล่นช็อตแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถหวังผลได้เมื่อต้องเล่นจากรัฟ ตีออกจากแนวต้นไม้ หรือจากเขตอุปสรรคที่ไม่เสียคะแนนต่างๆ ด้วยการแก้ไขที่ยอดเยี่ยมทำให้เปอร์เซ็นต์การได้เบอร์ดี้ก็ยังมีอยู่เช่นเดียวกัน
4. ไดร์ฟไม่ตรงไม่พอแถมยังไม่ไกลอีก โอเคครับ! ต้องยอมรับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งกับการหวังเบอร์ดี้ด้วยการออกสตารท์ลักษณะนี้ ถ้าไม่มีช็อตสองที่มหัศจรรย์หรือช็อตสามที่เพอร์เฟค อย่างเช่น ตีไปอยู่ข้างกรีนแล้วชิพลงหลุมไปเลย หรือตีขึ้นกรีนจนได้แล้วลากยาวจากหน้ากรีนลง ก็ต้องบอกว่างานช้างครับ สิ่งที่ควรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งก็คือ "ลูกสั้นขั้นเทพ” ต้องหวังทำคะแนนจากรอบกรีน รวมไปถึงการพัตต์ระยะไกลอีกด้วย
ก่อนเดินขึ้นทีออฟหลุมถัดไป ไม่ว่าจะท่านจะเป็นนักกอล์ฟในกลุ่มใดก็ตาม "โอกาส" ที่จะได้เบอร์ดี้นั้นไม่ต่างกัน แต่เมื่อไดร์ฟออกไปแล้วสิ่งที่ต่างกันคือ "โอกาส" แต่ทุกคนก็ยังหวังทำคะแนนได้ด้วยรูปแบบการชดเชยการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญคือต้องยอมรับและมองให้ออกว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน จะได้พัฒนาและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด
สัปดาห์ที่ผ่านมาเราได้ทราบถึงอาการหลังจากการทำเบอร์ดี้กันไปพอหอมปากหอมคอ วันนี้ลองมาศึกษาภาวะเหตุการณ์ก่อนที่จะได้เหวี่ยงกำปั้นดีใจแบบ ไทเกอร์ วูดส์ กันสักหน่อยว่ากว่าจะได้เบอร์ดี้มานั้นยากลำบากเพียงใด หรือสำหรับบางคนแล้วอาจจะง่ายกว่าที่คิด ซึ่งจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทั้งหมดมาจากการเสริฟลูกออกมาจากแท่นทีนั่นเอง และเพื่อให้ท่านผู้อ่านนึกภาพตามได้ชัดๆ ผมขอแบ่งเป็น 4 ประเภทในการออกเดินทางตามหาเบอร์ดี้
1. ไดร์ฟตรงและไกล ดูๆแล้วนี่เป็นคุณสมบัติที่นักกอล์ฟหลายคนหมายปอง คุณลุงเฟรด คัพเพิลส์ เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของนักกอล์ฟกลุ่มนี้ ด้วยวงสวิงที่ดูง่ายๆ นุ่มนวล แต่ก็มีครบทั้งระยะและทิศทาง โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่ตีได้ระยะดี เมื่อเล่นช็อตที่สองก็มักจะมีโอกาสหยิบเหล็กที่สั้นกว่าคนอื่น รวมถึงในกรณีนี้ทิศทางดีด้วยอีกต่างหาก ซึ่งหมายความว่าลูกของนักกอล์ฟคนนี้จะอยู่ในตำแหน่งที่ดีและมีโอกาสตีลูกให้ขึ้นไปอยู่ในระยะหวังผลได้ง่ายขึ้น ยิ่งถ้าเป็นคนพัตต์ดีด้วย เบอร์ดี้ก็ลุ้นได้ไม่ยากเลย
2. ไดร์ฟตรงแต่ไม่ไกล นักกอล์ฟประเภทนี้มีให้พบเห็นกันเป็นจำนวนมาก ข้อดีของการไดร์ฟตรงก็คือ ท่านจะได้เล่นช็อตต่อไปจากหญ้าสั้นแน่ๆ และไม่ต้องเสี่ยงต่อการเสียคะแนนในเขตอุปสรรคด้านข้าง ส่วนเรื่องของระยะแม้ว่าจะตีสั้นกว่าคนอื่น แต่เราก็ต้องหาจุดแข็งมากลบให้ได้ สิ่งที่น่าจะเป็นไปได้และสมควรให้ความสำคัญมากๆ ก็คือการเป็น "นักเลงหัวไม้" หมายถึงการตีหัวไม้ 3, หัวไม้ 5, ไฮบริด รวมไปถึงบรรดาเหล็กยาว ให้แม่นยำเข้าไว้ แล้วท่านจะไม่มีจุดอ่อนในตัวอีกต่อไป ตอนนี้ก็มีสถานะไม่ต่างจากนักกอล์ฟในประเภทแรกแล้ว ไม่เชื่อไปถาม คอรีย์ เพวิน ได้ ทุกวันนี้เขาก็ยังต่อสู้ใน พีจีเอ ทัวร์ ได้อย่างไม่มีปัญหาใดๆ
3. ไดร์ฟไม่ตรงแต่ยังไกลอยู่ นักกอล์ฟประเภทไดร์ฟมันส์ไว้ก่อนมีอยู่มากมาย บับบา วัตสัน, เซอร์จิโอ การ์เซีย รวมไปถึง ไทเกอร์ วูดส์ ก็อยู่ในข่ายนี้ทั้งหมด ส่วนใหญ่แล้วนักกอล์ฟกลุ่มนี้จะเป็นประเภทใช้ความรู้สึกในการเล่นสูง และสามารถชดเชยความผิดพลาดด้วยการเล่นช็อตแก้ไขที่มีประสิทธิภาพสูงเช่นกัน อีกทั้งยังสามารถหวังผลได้เมื่อต้องเล่นจากรัฟ ตีออกจากแนวต้นไม้ หรือจากเขตอุปสรรคที่ไม่เสียคะแนนต่างๆ ด้วยการแก้ไขที่ยอดเยี่ยมทำให้เปอร์เซ็นต์การได้เบอร์ดี้ก็ยังมีอยู่เช่นเดียวกัน
4. ไดร์ฟไม่ตรงไม่พอแถมยังไม่ไกลอีก โอเคครับ! ต้องยอมรับว่าน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งกับการหวังเบอร์ดี้ด้วยการออกสตารท์ลักษณะนี้ ถ้าไม่มีช็อตสองที่มหัศจรรย์หรือช็อตสามที่เพอร์เฟค อย่างเช่น ตีไปอยู่ข้างกรีนแล้วชิพลงหลุมไปเลย หรือตีขึ้นกรีนจนได้แล้วลากยาวจากหน้ากรีนลง ก็ต้องบอกว่างานช้างครับ สิ่งที่ควรปฏิบัติเป็นอย่างยิ่งก็คือ "ลูกสั้นขั้นเทพ” ต้องหวังทำคะแนนจากรอบกรีน รวมไปถึงการพัตต์ระยะไกลอีกด้วย
ก่อนเดินขึ้นทีออฟหลุมถัดไป ไม่ว่าจะท่านจะเป็นนักกอล์ฟในกลุ่มใดก็ตาม "โอกาส" ที่จะได้เบอร์ดี้นั้นไม่ต่างกัน แต่เมื่อไดร์ฟออกไปแล้วสิ่งที่ต่างกันคือ "โอกาส" แต่ทุกคนก็ยังหวังทำคะแนนได้ด้วยรูปแบบการชดเชยการเล่นที่แตกต่างกันออกไป ที่สำคัญคือต้องยอมรับและมองให้ออกว่าเราอยู่ในกลุ่มไหน จะได้พัฒนาและแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุด