xs
xsm
sm
md
lg

เปิดแฟ้ม 5 ทีมมหากาฬ "เลเกอร์ส" แต่งทัพสู้ "ฮีท"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

“แชค-เพนนี” ดูโอแมจิก
เอเยนซี - แอลเอ เลเกอร์ส สร้างความฮือฮาในตลาดผู้เล่นศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ช่วงหน้าร้อน เมื่อคว้ามาได้ทั้ง สตีฟ แนช และดไวท์ ฮาวเวิร์ด ทำให้ขุมกำลังถือว่าลงตัวสุดมีลุ้นไล่ล่า "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" ฤดูกาล 2012/13 โดย "Bleacherreport" เว็บไซต์ดังแดนมะกัน รวบรวม 5 แฟรนไชส์ที่ผสมผสานผู้เล่นสร้างเป็นทีมมหากาฬขึ้นมา ดังบรรทัดต่อจากนี้

1. ออร์แลนโด แมจิก (ปี 1994-95)
ชาวเมืองออร์แลนโด ฝากความหวังลุ้นแชมป์ไว้กับ 3 ซูเปอร์สตาร์ในยุคนั้นนำโดย ชาคิล โอนีล, เพนนี ฮาร์ดอเวย์ และโฮเรซ แกรนท์ โดยรายหลังมีประสบการณ์แชมป์กับ ชิคาโก บูลส์ ซึ่งในส่วนของ "แชค" แม้เพิ่งเข้าลีกแค่ 2 ปี แต่มีดีกรีออลสตาร์ 2 สมัยซ้อน และรุคกี แห่งปี (ปี 1993) ประสานงานเพื่อนนำ แมจิก จบฤดูกาลปกติ ด้วยสถิติชนะ 57 แพ้ 25 เกม เป็นอันดับ 1 ฝั่งตะวันออก จากนั้น "แชค-เพนนี-โฮแกรนท์" นำต้นสังกัดเข้ารอบชิง ครั้งแรก ทว่าพ่าย ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ 0-4 เกม ปีถัดมาแมจิกไปถึงรอบชิงแชมป์สาย ก่อนปราชัยบูลส์ราบคาบ หลังจบซีซัน แชค ลาไปเล่นให้เลเกอร์ส ประสานงาน โคบี ไบรอันท์ กวาดแชมป์สามสมัยซ้อนในปี 2000-2002

2 ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ (ปี 1996-97)
ไม่ได้ลุ้นแชมป์กับ ฟิลาเดลเฟีย เซเวนตีซิกเซอร์ส และฟีนิกซ์ ซันส์ ทำให้ ชาร์ลส บาร์คลีย์ โยกมาผนึกกำลัง ไคลด์ เดร็กซ์เลอร์ และฮาคีม โอลาจูวอน เพื่อช่วย ฮุสตัน ร็อคเก็ตส์ ครองแชมป์สมัยที่ 3 ติดต่อกันให้ได้ (ทีมเป็นแชมป์ปี 1994-1995) ทว่าโปรเจคสวยหรูเจออุปสรรคตั้งแต่พรีซีซัน เมื่อ "เซอร์ ชาร์ลส" ก่อเรื่องทะเลาะวิวาทกับ ชาร์ลส โอคลีย์ ฟอร์เวิร์ด นิวยอร์ก นิกส์ เป็นเหตุให้ถูกแบนและปรับเงิน 5 พันเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 1.5 แสนบาท) อีกทั้งฤดูกาลดังกล่าว บาร์คลีย์ ต้องเผชิญกับปัญหาบาดเจ็บ ลงสนามได้เพียง 53 จาก 82 เกม ท้ายที่สุดแล้วแม้ "จรวด" พวยพุ่งไปถึงรอบรองชนะเลิศสายตะวันตก แต่ก็พ่ายราบคาบต่อ ซีแอตเทิล ซูเปอร์โซนิกส์ 0-4 เกม

3. บอสตัน เซลติกส์ (ปี 2007-08)
เซลติกส์ ก็ไม่ได้สัมผัสแชมป์นับตั้งแต่ปี 1985-86 กระทั่งความหวังของแฟนๆ เรืองรองขึ้นมา จากการที่ทีมไปเซ็นสัญญากับ เควิน การ์เน็ตต์ ฟอร์เวิร์ดสตาร์ มินเนโซตา ทิมเบอร์วูล์ฟส และ เรย์ อัลเลน การ์ดมือปืน ซูเปอร์โซนิกส์ เมื่อหน้าร้อนปี 2007 มาประสานเป็น "บิ๊กทรี" ร่วมกับ พอล เพียร์ซ อีกทั้ง ราจอน รอนโด การ์ดจ่ายดาวรุ่งถือเป็นกำลังเสริมช่วยทีมกวาดชัย 66 จาก 82 เกมในฤดูกาลปกติ เข้าเพลย์ออฟไปฝ่าด่านทั้ง แอตแลนตา ฮอว์คส, คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส และดีทรอยต์ พิสตันส์ ก่อนเจอ แอลเอ เลเกอร์ส คู่ปรับตลอดกาลที่นำมาโดย โคบี และโค้ชในตำนานอย่าง ฟิล แจ็คสัน แต่ที่สุดแล้ว "บิ๊กทรี" นำ "แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี" มากำนัลแก่สาวกในชั่วข้ามปีจนได้

4. ไมอามี ฮีท (ปี 2010/11)
วงการบาสเกตบอลสั่นสะเทือน เมื่อ เลอบรอน เจมส์ ตัดสินใจผละ คาวาเลียร์ส จูงมือ คริส บอช พาวเวอร์ ฟอร์เวิร์ด โตรอนโต แร็พเตอร์ส โยกเข้าถิ่นอเมริกันแอร์ไลน์ส อารีนา ผนึกกำลัง ดีเวย์น เหว็ด แต่ความสำเร็จหาใช่สร้างได้ในชั่วข้ามคืนเสมอไป ฮีท ทะลุถึงรอบชิงก็จริง แต่พ่ายให้ความเก๋า ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ 2-4 เกม อย่างไรก็ตาม ความพยายามมิได้หดหาย "บิ๊กทรี" ประสานงานกันเข้าฝักนำพาแฟรนไชส์เข้าถึงรอบชิงเป็นปีที่สองติดต่อกัน คราวนี้ไม่ทำให้แฟนๆ ผิดหวังสยบความห้าวของ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ที่มี เควิน ดูแรนท์ กับ รัสเซล เวสต์บรูก เป็นตัวชูโรงลงได้ 4-2 เกม คว้าแชมป์สมัยที่ 2 ของประวัติศาสตร์ทีมต่อจากเมื่อปี 2006

5. แอลเอ เลเกอร์ส (ปี 2012-13)
บ้อท่าตกรอบแรกสองฤดูกาลซ้อนๆ ทำให้ เลเกอร์ส คิดการณ์ใหญ่เทรด 4 ทางดึงตัว ดไวท์ ฮาวเวิร์ด มาจากแมจิก ก่อนหน้านี้ทีมเพิ่งไปเทรด สตีฟ แนช การ์ดมือทองมาจากซันส์ เท่ากับว่า ไมค์ บราวน์ มี "จตุรเทพ" (โคบี, แนช, ฮาวเวิร์ด, เพา กาซอล) พ่วงอีกหนึ่งจอมขยันอย่าง เมตตา เวิลด์ พีช ลงสนามพร้อมทาบรัศมี "แชมป์เก่า" ฮีท รวมทั้งต่อกรทีมดาวรุ่งมาแรงอย่าง "โอเคซี" ทางฝั่งตะวันตก ซึ่งการรวมกันเฉพาะกิจหนนี้คงเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวในซีซัน 2012/13 เหตุจากเลเกอร์ส ไม่มีพื้นที่ใน "เพดานเงินเดือน" เหลือพอให้เก็บ 5 สตาร์ไว้ใช้งานต่อในปีถัดไป นี่ถือเป็นภารกิจภาคบังคับในการกระชากแชมป์แบบทันท่วงที น่าสนใจว่า บราวน์ จะผสมสูตรเคมีดังกล่าวให้ลงตัวได้หรือไม่ โดยมีเก้าอี้หัวหน้าโค้ชของตัวเองเป็นเดิมพัน
“เดล็กซ์เลอร์-ฮาคีม-บาร์คลีย์” ทรีโอจรวด
“เพียร์ซ-เค.จี.-อัลเลน” นำแชมป์สู่บอสตัน
“บิ๊กทรีฮีท” รวมกันเฉพาะกิจ
“ฮาวเวิร์ด” จิ๊กซอว์เติมแกร่งเลเกอร์ส
กำลังโหลดความคิดเห็น