"เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด ออกโรงชมบรรยากาศบิ๊กแมตช์หลังเปิดบ้านยันเสมอ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด สุดมันส์ ชี้โปรแกรมโหด 3 นัดที่ต้องเจอทีมหัวตารางติดๆกัน อย่างน้อยต้องมี 5 แต้มเพื่อคว้าแชมป์สปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีกปีนี้ พร้อมลุ้นกวาด 3 แชมป์ มูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ และ โตโยต้า ลีกคัพ
ควันหลงหลังจบเกมการแข่งขันศึกฟุตบอล สปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก คู่บิ๊กแมตช์ระหว่างจ่าฝูง “กิเลนผยอง” เอสซีจี เมืองทองฯ ยูไนเต็ด เปิดรังเอสซีจี สเตเดียม เสมอกับแชมป์เก่า “ประสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไปอย่างสนุก 1-1 "เสี่ยเป้" รณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผอ.สโมสรเอสซีจี เมืองทองฯ ได้ออกมาเผยถึงเกมที่ผ่านมาว่า
“ก็เป็นเรื่องปรกติสำหรับเวลาที่เจอกับทีมหัวตารางด้วยกัน อย่างที่บอกว่าก็เป็นเกมหนึ่งที่ต้อง 3 แต้ม เราได้ก็ดีแต่ต้องไม่เสีย แต่ก็ถือว่าพลังแฟนบอลเราวันนี้ทุกคน ช่วยให้เราสู้ถึงแม้จะเหลือ 10 คนก็ตาม ก็ต้องขอบคุณจริงๆเพราะมันไม่ใช่แค่เกมส์วันเดียว แต่เป็นมหากาพย์ถือ 2 วัน
"และต้องขอบคุณแฟนบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ด้วยที่ช่วยให้บรรยากาศเกมส์ออกมาดีขนาดนี้ ก็อย่างที่บอกว่าฟุตบอลจบ 90 นาที แล้วก็ต้องจบ เราก็คงต้องเดินหน้าต่อไปและก็ขอโทษด้วยครับที่ต้องให้แฟนคลับบุรีรัมย์ฯ ต้องเดินทางหลายร้อยกิโลทั้ง 2 วัน มันก็เป็นเรื่องสุดวิสัยจริงๆ และเกมนี้ก็สมกับเป็นเกมส์บิ๊กแมตช์ แต่เรายังมีภารกิจที่ต้องทำต่อไป 10 แต้มที่มีอยู่ในมือทำให้เรามีความมั่นใจมากขึ้นในการบุกถิ่นชลบุรี เอฟซี แต่ก็เช่นกันเราต้องการ 3 แต้มออกจากที่นั่นให้ตรงตามภารกิจของเราที่ต้องการอย่างน้อย 5 แต้มจาก 3 นัดใหญ่นี้ (เหย้า บุรีรัมย์ฯ, เยือนชลบุรีฯ, เยือนบางกอกกล๊าสฯ)” รณฤทธิ์เผย
นอกจากนี้ "เสี่ยเป้" ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงโปรแกรมการแข่งขันนัดกลางสัปดาห์ที่ต้องออกไปเยือนการท่าเรือไทย ในศึกโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้ายว่า “เราต้องการเป็นตัวเต็งคว้าแชมป์ทุกถ้วยของปีนี้ เรามีภารกิจที่ต้องไปไม่ว่าจะโตโยต้า ลีกคัพ และมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ ก็หวังว่าทุกคนคงจะทราบผลการจับสลากแล้ว ผมว่าปีนี้น่าจะเป็นปีแห่งการ Return of the Champions ของเราได้ในที่สุด เรายังมีเส้นทางที่ต้องสู้ด้วยกันอีก ก็อยากให้อยู่เชียร์กับพวกเราต่อจนกว่าถึงวันชิงชนะเลิศทุกรายการ”
โดยเส้นทางการแข่งขันนัดต่อไป "กิเลนผยอง" จะออกไปเล่นนอกบ้านพบกับ การท่าเรือไทย เอฟซี ในศึกโตโยต้า ลีกคัพ รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันพุธที่ 22 ส.ค. ก่อนจะยกพลไปเยือนรองจ่าฝูง "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ในศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก วันอาทิตย์ที่ 26 ส.ค. และกลับมาเล่นในบ้านพบกับ นครนาชสีมา เอฟซี ในศึกมูลนิธิไทยคม เอฟเอคัพ รอบ 16 ทีม วันพุธที่ 29 ส.ค.