เออร์นี เอลส์ อดีตโปรมือ 1 ของโลกชาวแอฟริกาใต้ ที่เพิ่งคว้าแชมป์ เมเจอร์ ที่ 3 ของปีรายการ "ดิ โอเพน แชมเปียนชิป 2012" ชิงเงินรางวัลรวม 8 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 240 ล้านบาท) ที่สนาม รอยัล ลิธัม เซนต์ แอนน์ ระยะ 7,128 หลา พาร์ 70 ที่ประเทศอังกฤษ เมื่อคืนอาทิตย์วันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา เผยต้องการแชร์ความสำเร็จร่วมกับ เนลสัน แมนเดลา อดีตผู้นำประเทศ ด้วยการดื่มจากถ้วย คลาเร็ต จัก เพราะถือเป็นบุคคลที่มีอิทธิพลกับชีวิตอย่างมาก
เอลส์ คว้าแชมป์ "ดิ โอเพน" สมัยที่ 2 ต่อจากปี 2002 โดยถือเป็นเมเจอร์ลำดับที่ 4 ในชีวิต หลังวันสุดท้ายทำ 2 อันเดอร์พาร์รวมมี 7 อันเดอร์พาร์แซงชนะ อดัม สกอตต์ จากออสเตรเลีย ผู้นำรอบที่แล้วเพียงแค่สโตรกเดียว หลังคว้าแชมป์ก้านเหล็กวัย 42 ปีเผยอยากดื่มกับ แมนเดลา อดีตผู้นำประเทศแอฟริกาใต้ที่เพิ่งอายุครบ 94 ปี
โดย เอลส์ ที่เมื่อคว้าแชมป์เมเจอร์แรกคือ ยูเอส โอเพน ปี 1994 ได้รับโทรศัพท์แสดงความยินดีจาก แมนเดลา กล่าวว่า "แมนเดลา มีอิทธิพลกับชีวิตผมมากตลอดช่วงที่ผ่านมา เมื่อฝันกลายเป็นจริงหลังผ่านตัดตัวแบบหวุดหวิดก็คิดเอาไว้แล้วว่าถ้าได้แชมป์อยากจะขอบคุณเขา เพราะผมโตมาในยุคแบ่งแยกสีผิวก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นยุคที่เสมอภาคกัน ซึ่งหลังจากนั้นผมก็ได้แชมป์เมเจอร์แรก แน่นอนผมอยากดื่มกับเขาแบบเป็นการส่วนตัวจะต้องเป็นความรู้สึกที่เหลือเชื่อกับบุคคลที่ยอดเยี่ยม"
เอลส์ กล่าวถึง แมนเดลา ที่ได้รับการปล่อยตัวจากคุกเมื่อปี 1990 อีกว่า "ทุกอย่างมีความหมายกับชีวิตผมนับตั้งแต่ แมนเดลา เป็นประธานาธิบดีและผมคว้าแชมป์ทัวร์นาเมนต์กอล์ฟก็ได้รับโทรศัพท์แสดงความยินดีตอนอยู่ใน โอ๊คมอนต์ เราเข้ากันได้ดีอย่างเหลือเชื่อจนรู้สึกว่ากลายเป็นส่วนสำคัญของชีวิตในฐานะคนกีฬาคนหนึ่งรวมถึงประเทศของเราด้วย"