xs
xsm
sm
md
lg

รำลึก 20 ปี “ดรีมทีม” / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ “Final Quarter” โดย “ลุงแซม”

ตั้งแต่ครั้ง ไมเคิล จอร์แดน เหินหาวนำผองเพื่อนสหรัฐอเมริกา กวาดทั้ง 8 เกม ด้วยชัยชนะที่มีเหนือคู่แข่งเฉลี่ย 43.75 แต้ม วงการยัดห่วงโลกต้องแซ่ซ้องยกให้ นั่นคือ “ทีมแห่งความฝัน” จากวันนั้นถึงวันนี้ “ดรีมทีม” อายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ซึ่งจะหาทีมใดมาเปรียบ “ดรีมทีม” ฉบับดั้งเดิมคงไม่มีอีกแล้ว

การได้เพียงอันดับ 3 ศึกยัดห่วงชาย “โซลเกมส์” ที่เกาหลีใต้ เมื่อปี 1988 ทำให้ สหพันธ์บาสเกตบอลแห่งสหรัฐฯ ต้องระดมผู้เล่นดีที่สุดในเอ็นบีเอ (NBA) จัดเต็มไปทวงความยิ่งใหญ่อีกสี่ปีถัดมาที่บาร์เซโลนาเกมส์ ซึ่ง จอร์แดน, เดวิด โรบินสัน, แพทริก อีวิง, แลร์รี เบิร์ด, สกอตตี พิพเพน, ไคลน์ เด็กซ์เลอร์, คาร์ล มาโลน, จอห์น สต็อกตัน, คริส มัลลิน, ชาร์ลส บาร์คลีย์, แมจิก จอห์นสัน ล้วนเป็นตำนานที่แฟนๆ ยังจดจำได้ถึงทุกวันนี้ มีเพียง คริสเตียน เล็ตเนอร์ เด็กหนุ่มจากมหาวิทยาลัยดุ๊ค (สมัยนั้น) ที่ชนะใจเฮดโค้ช ชัค เดลีย์ มีชื่อจารึกในประวัติศาสตร์

จากนั้น ฮาคีม โอลาจูวอน, แกรี เพย์ตัน, ชาคิล โอนีล, เพนนี ฮาร์ดอเวย์, เรจจี มิลเลอร์ หรือว่า แกรนท์ ฮิลล์ ถูกดึงมาผนวกกับรุ่นพี่ที่ยังหลงเหลืออย่าง มาโลน, สต็อกตัน, เซอร์ชาร์ลส หรือว่า “ท่านนายพล” โรบินสัน ถือเป็น “ดรีมทีม 2” ที่ต่อยอดความสำเร็จ แม้ชุดแชมป์ ปี 2000 ที่ซิดนีย์ เริ่มไม่สามารถเรียกเต็มปากได้ว่า “ดรีมทีม 3” ในเมื่อ ชารีฟ อับดุล-ราฮีม, วินซ์ เบเกอร์, สตีฟ สมิธ, อลัน ฮุสตัน และ อันโตนิโอ แม็คไดรส์ ไม่เข้าขั้นซูเปอร์สตาร์ แต่ด้วยขุนพลเกรดบี สหรัฐฯ ยังดีพอสำหรับการกระชากเหรียญทองมาคล้องคอ

แต่พอข้ามสหัสวรรษใหม่เต็มตัว ความไม่ร่วมมือร่วมใจเริ่มมีให้เห็น โคบี ไบรอันท์, แชค, เควิน การ์เนตต์ ปฏิเสธร่วมทีม จนจบเพียงอันดับ 5 ในทัวร์นาเมนต์ชิงแชมป์โลกปี 2002 ทั้งที่เล่นในอินเดียนาโปลิส บ้านตัวเอง กลับปราชัยถึง 3 เกมให้ อาร์เจนตินา, เซอร์เบีย, สเปน ให้หลังอีก 2 ปี “ดรีมทีม” ชุดที่ 4 ได้รับความคาดหวังในการเรียกศักดิ์ศรีคืนมาที่ “เอเธนส์เกมส์” แต่กลับกลายเป็นตรงกันข้าม สตาร์หลายคนปฏิเสธเข้าร่วมเหตุหวั่นภัยก่อการร้าย ทิม ดันแคน และ อัลเลน ไอเวอร์สัน ต้องประคองรุ่นน้องที่เพิ่งเข้าลีกอย่าง คาร์เมโล แอนโธนีย์ รวมถึง เลอบรอน เจมส์ ไปต่อกร การปราชัยย่อยยับต่อ เปอร์โตริโก 73-92 ถือเป็นความตกต่ำสุดขีด สุดท้ายไปโดน มานู จิโนบิลี นำทัพอาร์เจนไตน์ สอนเชิงรอบตัดเชือก สุดท้ายได้เพียงเหรียญทองแดงจากการพิชิต ลิทัวเนีย ซึ่งทีมชุดนั้นถูกขนานนามว่า “ทีมแห่งฝันร้าย” (Nightmare Team) อย่างแท้จริง

พอถึงศึกชิงแชมป์โลก 2006 แดนซามูไร เลอบรอน, เมโลแมน, ดีเวย์น เหว็ด หรือ “ซูเปอร์แมน” ดไวท์ ฮาวเวิร์ด เจอลูกแม่นดั่งจับวางของกรีซ ทีมรองบ่อนรัวเป็นชุดพ่ายในรอบตัดเชือก การถอนแค้นอาร์เจนตินา ซิวอันดับ 3 มิได้ปลอบใจแม้แต่น้อย ทว่ามันช่วยเปลี่ยนจากความลำพองใจที่คิดว่าเล่นในลีกอาชีพเจ๋งสุดของโลกอย่าง NBA มาเป็นการผนึกกำลังรวมใจเป็น “รีดีมทีม” (Redeem Team) กอบกู้ศักดิ์ศรีคืนมาด้วยการกวาดชัย 8 เกมที่ปักกิ่งเกมส์ รวมถึงแมตช์หักเขา “กระทิงดุ” สเปน 118-107 ชนิดสะใจพลเมืองอเมริกันทั้ง 50 รัฐ

อย่างไรก็ตาม ภารกิจป้องกันแชมป์ที่ “ลอนดอนเกมส์” ไม่ง่ายอย่างที่คิด ตัวหลักจากเมื่อปี 2008 มีเพียง โคบี, เลอบรอน, เดรอน วิลเลียมส์, เมโล และ คริส พอล การขาดหาย ฮาวเวิร์ด กับ บอช เสียหายมาก เท่ากับ “โค้ชเค” ไมค์ ชูเชฟสกี มีเพียง ทายสัน แชนด์เลอร์ เป็นเซ็นเตอร์อาชีพคนเดียว เควิน เลิฟ ราชารีบาวนด์ต้องเช็กฟิตอีกต่างหาก ส่วนการขาดหายไปของ เดอร์ริก โรส เชื่อว่า ทั้ง “ดี-วิลล์”, รัสเซล เวสต์บรูก และ “ซีพีทรี” (คริส พอล) เอาอยู่ ด้วยชื่อชั้นเข้าขั้นซูเปอร์สตาร์ NBA ถ้าต่ำกว่าเหรียญทองถือว่าน่าผิดหวัง แต่หากสามารถรวมใจฟันฝ่าอุปสรรคครั้งนี้ไปได้ชนิดน่าประทับใจ “ดรีมทีม” ก็คู่ควรที่จะกลับมาเป็นคำนำหน้าทีมยัดห่วงชายสหรัฐฯ อีกครั้ง
กำลังโหลดความคิดเห็น