เวนย์ รูนีย์ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ ลงสนามหลังพ้นโทษแบนก่อนโขกประตูชัยพา “สิงโตคำราม” เชือดยูเครน 1-0 พร้อมควง “ตราไก่” ฝรั่งเศส ผ่านเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ในศึกฟุตบอลยูโร 2012 นัดสุดท้ายของกลุ่มดี เมื่อคืนวันที่ 19 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย
อังกฤษ 1-0 ยูเครน
เกมที่สนามดอนบาส อารีนา “อังกฤษ” รองฝูงกลุ่มดี ลงสนามนัดสุดท้ายเจอกับ “ยูเครน” เจ้าภาพร่วม นัดนี้ “สิงโตคำราม” ขอแค่เสมอก็จะเข้ารอบ 8 ทีมสุดท้าย ส่วน ยูเครน อันดับ 3 ของกลุ่ม ไม่มีทางเลือกต้องเอาชนะให้ได้เพื่อเข้ารอบ
โดยวันนี้ รอย ฮอดจ์สัน นายใหญ่ของอังกฤษ ส่ง เวนย์ รูนีย์ ที่พ้นโทษแบนลงสนามเป็นกองหน้าคู่กับ แดนนี เวลเบ็ค รุ่นน้องร่วมค่ายแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยดร็อป ธีโอ วัลคอล์ต ปีกฟอร์มเด่นนัดที่แล้วเป็นตัวสำรอง ส่วนยูเครนของโอเล บล็อกกิน ใช้ความสดของ มาร์โก เดวิช และ อาร์เท็ม มิเลฟสกี ยืนล่าตาข่ายแทน อังเดร เชฟเชนโก ที่มีปัญหาบาดเจ็บ
เริ่มเกม ยูเครนเริ่มต้นได้ดีกว่า แต่ยังหาโอกาสเข้าไปยิงไม่ได้ในช่วง 10 นาทีแรก ส่วนอังกฤษได้ลุ้นครั้งแรกจากลูกยิงบริเวณด้านซ้ายของประตูของโคล แต่บอลไปเข้ามือของปิยาตอฟอย่างง่ายดาย คล้อยหลัง 2 นาที อังกฤษหวิดเสียประตู หลัง เดวิช ฉวยโอกาสยิงจากแถวสอง แต่บอลไปติดตัว เทอร์รี
นาที 17 ยังเป็นยูเครนที่เล่นได้ดีและมีโอกาสพังประตู มิเลฟสกีซัดด้วยขวาเต็มข้อนอกเขตโทษ แต่ เทอร์รี ยังยืนเอาตัวบล็อกได้ทันเหมือนเดิม ต่อมานาที 21 กูเซฟ แนวรับของยูเครน ลากบอลขึ้นมายิงเอง แต่ยังไม่ผ่านแนวรับของอังกฤษ ที่ยืนป้องกันได้อย่างเหนียวแน่น ส่วนแข้งสิงโตยังหาจังหวะขึ้นมายิงไม่ได้
อังกฤษเกือบพังประตูขึ้นนำนาที 27 ยัง สาดโด่งข้ามมาให้ รูนีย์ สลัดหนีตัวประกบก่อนเทกตัวโหม่งจ่อๆ แต่บอลตกพื้นผ่านเสาแรกไปอย่างเหลือเชื่อ เกมเริ่มแลกกันสนุก นาที 29 ยูเครน เกือบได้ประตูเช่นกัน ยาร์มาเลนโกล็อกหลบกองหลังอังกฤษหนึ่งจังหวะก่อนยิงด้วยขวา แต่ ฮาร์ท ยังเซฟไว้ได้ อย่างไรก็ตาม ท้ายเกมทั้งสองทีมครองบอลกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ และหาจังหวะยิงกันไม่ได้ จบครึ่งแรกเสมอกันไป 0-0
ครึ่งหลังเปิดฉากไม่นาน รูนีย์ก็มาโขกทำประตูให้อังกฤษขึ้นนำยูเครนก่อน 1-0 จังหวะ เจอร์ราร์ด เปิดบอลกลับเข้ามาแล้วแฉลบกองหลังของ ยูเครน สองคน ก่อนที่ ปิยาตอฟ รับบอลไม่อยู่และเป็นรูนีย์โฉบขึ้นมาโหม่งไม่เหลือ ต่อมานาที 51 ยูเครน ตอบโต้ด้วยลูกเปิดจากด้านข้างของกูเซฟ บอลเกือบย้อยเข้าประตู แต่ ฮาร์ท กระโดดปัดไว้ได้
นาที 53 อังกฤษหวิดเฮอีกรอบ รูนีย์กระชากบอลหลุดเดี่ยวไปถึงเขตโทษ แต่กองหลังยูเครนวิ่งลงมาประกบทัน ก่อนที่รูนีย์ ไหลบอลออกขวาให้ มิลเนอร์ ลองซัดแต่ติดบล็อคกองหลังบอลกลิ้งออกข้างไป นาที 60 ยูเครน เกือบตีเสมอได้ มิเลฟสกี ได้โอกาสโขกระยะไม่เกิน 5 หลา แบบไม่ล้ำหน้า แต่บอลข้ามคานไปอย่างน่าเสียดาย
ยูเครน ชวดตีเสมอแบบเหลือเชื่อ นาที 61 มิเลฟสกี หลุดขึ้นมาถึงเขตโทษก่อนป้ายออกข้างให้ เดวิช ดึงจังหวะรอก่อนยิงติดเซฟฮาร์ท บอลลอยโด่งก่อนมุดผ่านเส้นเข้าประตูไปแล้ว แต่ เทอร์รี วิ่งไปสกัดออกมาจากเส้นประตู ขณะที่ผู้ตัดสินข้างประตู ก็ไม่เป่าให้เป็นประตูตีเสมอของยูเครนเช่นกัน เล่นเอาแฟนบอลเซ็งกันทั้งสนาม
ทั้งสองทีมเริ่มขยับผู้เล่นสำรองลงไปวาดลวดลายในสนามบ้างช่วงนาที 70 โดยอังกฤษส่ง ธีโอ วัลคอล์ต ปีกความเร็วสูงไปแทน เจมส์ มิลเนอร์ ส่วนยูเครนส่งฮีโร่ของชาติอย่าง อังเดร เชฟเชนโก ไปช่วยลุ้นตีเสมอแทน มาร์โก เดวิช ที่โชว์ฟอร์มไม่โดดเด่นนัก อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีฝ่ายใดได้เปรียบบวกประตูเพิ่มได้
ท้ายเกม อังกฤษส่ง แอนดี คาร์โรล มาเล่นแทน เวลเบ็ค และอเล็กซ์ ออกเล็ดจ์-แชมเบอร์เลน แทน รูนีย์ แต่สุดท้ายไม่มีใครทำประตูได้ จบเกมอังกฤษเฉือนชนะเจ้าภาพร่วมยูเครน 1-0 ผ่านเข้าไปเล่นรอบ 8 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ พร้อมเขี่ยเจ้าถิ่นตกรอบไปในที่สุด
ส่วนผลอีกคู่ที่เตะในเวลาเดียวกัน สวีเดนโชว์ฟอร์มประทับใจแฟนบอลในเกมนัดสุดท้าย ด้วยการเอาชนะ “ตราไก่” ฝรั่งเศส 2-0 จากประตูของ สลาตัน อิบราฮิโมวิช และ เซบาสเตียน ลาร์สสัน ในครึ่งเวลาหลัง ผลดังกล่าวทำให้ “ไวกิ้ง” ที่ชิงตกรอบไปก่อนหน้า เก็บ 3 แต้มแรกในทัวร์นาเมนต์ได้สำเร็จ ส่วน ฝรั่งเศส เข้ารอบตามความคาดหมาย
ทั้งนี้ อังกฤษที่เข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มดี มีอยู่ 7 คะแนน จะเข้าไปเจอกับ “อิตาลี” ในวันที่ 24 มิ.ย. ส่วน “ฝรั่งเศส” รองฝูงกลุ่มดี มี 4 แต้ม เจอของแข็งอย่างแชมป์เก่า “สเปน” วันที่ 23 มิ.ย. นี้
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
อังกฤษ : โจ ฮาร์ท, โจลีออน เลสคอตต์, จอห์น เทอร์รี, แอชลีย์ โคล, เกล็น จอห์นสัน, สกอตต์ พาร์เกอร์, สตีเวน เจอร์ราร์ด, แอชลีย์ ยัง, เจมส์ มิลเนอร์, แดนนี เวลเบ็ค, เวนย์ รูนีย์
ยูเครน : อังเดร ปิยาตอฟ, เยเวน คาเชริดี, ยาโรสลาฟ ราคิทสกี, เยฟเจน เซลิน, โอเล็ก กูเซฟ, อนาโตลี ตีมอสชุค, เดนิส การ์มาร์ช, เยเวน โคโนพลิเอนกา, อังเดร ยาร์มาเลนโก, มาร์โก เดวิช, อาร์เท็ม มิเลฟสกี