เลอบรอน เจมส์ เดินทางมาถึงการรอคอยที่ยาวนาน ที่จะคว้าแชมป์ NBA สมัยแรก ซึ่ ตนเอง และเพื่อนร่วมทีม ไมอามี ฮีท จะต้องหยุดยั้ง แชมป์การทำคะแนนสูงสุดของ NBA อย่าง เควิน ดูแรนท์ และ บรรดาเพื่อนร่วมทีมของ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ส
ซูเปอร์สตาร์จากทั้งสองทีม จะประลองดวลฝีมือกัน ในรอบชิงชนะเลิศ NBA ซึ่งยังคงใช้ระบบการแข่งขัน 4 ใน 7 เกม เหมือนรอบที่ผ่านมา และจะลงประเดิมสนามที่ โอกลาโฮมา เช้าวันพุธที่ 13 มิ.ย.ตามเวลาในประเทศไทย อีกทั้งยังเป็นเกมที่ปิดฤดูกาลที่เปิดฉากอย่างล่าช้า เนื่องจากปัญหาการเจรจาด้านการเงินที่ไม่ลงตัว ระหว่าง ผู้เล่น และ เจ้าของทีม
“แอลบีเจ” คว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ของ NBA ในฤดูกาลปกติ และเป้นสมัยแรกนับตั้งแต่ อดีตเด็กทองคำ ย้ายมาผนึกกำลังกับ ดเวย์น เหว็ด และ คริส บอช จาก คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส เมื่อปี 2010 เพื่อต้องการคว้าตำแหน่งแชมป์ NBA สมัยแรกของตนเอง
ไมอามี ฮีท พ่ายแพ้ต่อ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ NBA เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แต่ “คิงเจมส์” ก็ยังคงทำงานอย่างหนัก เพื่อเข้าถึงรอบชิง NBA เป็นครั้งที่ 3 ของตนเอง จาก 9 ฤดูกาล ที่ลงเล่นในลีก ซึ่ง การเข้ารอบชิงชนะเลิศ NBA ครั้งแรกของ MVP 3 สมัย เป็นการพบกันของ คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ส กับ ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส เมื่อปี 2007
อดีตซูเปอร์สตาร์ของ คลีฟแลนด์ ทำคะแนนเฉลี่ย 30.8 แต้มต่อเกม และ 9.8 รีบาวด์ต่อเกม ในรอบเพลย์ออฟที่ผ่านมา แต่ เลอบรอน ยังคงต้องการชัยชนะอีกเพียงแค่ 4 เกม จาก “โอเคซี” เพื่อคว้าแหวนแชมป์วงแรกในอาชีพการเล่นของตัวเอง ซึ่ง นักบาสวัย 27 ปี กล่าวว่า “เรากำลังรอคอยความท้าทายในรอบต่อไป เหลือแค่ก้าวเดียวเท่านั้น”
ย้อนกลับไปเมื่อรอบชิงชนะเลิศ ปี 1997 ระหว่าง ชิคาโก บูลล์ส กับ ยูทาห์ แจซซ์ ซึ่งครั้งนั้น คาร์ล มาโลน จบฤดูกาลปกติด้วยการทำคะแนนมากที่สุดจาก 82 เกมในลีก และคว้าตำแหน่ง MVP ในฤดูกาลปกติไปครอง เผชิญหน้ากับ ไมเคิล จอร์แดน ซึ่งพา “กระทิงเปลี่ยว” จบฤดูกาลปกติด้วยสถิติที่เหนือกว่า จึงทำให้ บูลล์ส ถือความได้เปรียบจากการเล่นเกมเหย้ามากกว่า บทสรุปสุดท้ายของเกมนั้น กลายเป็น ฝั่ง MVP จากฤดูกาลปกติ และแชมป์การทำแต้ม ต้องเป็นผู้ผิดหวัง
รอบชิงชนะเลิศ NBA ปี 2012 ครั้งนี้ ก็เป็นการพบกันของ 2 ผู้เล่นซึ่งทำคะแนนมากที่สุดในฤดูกาลปกติ เช่นเดียวกับปี 1997 โดยที่ฝั่ง “สายฟ้า” ก็มีตัวทำคะแนนหลักอย่าง เควิน ดูแรนท์ ซึ่งทำคะแนนเฉลี่ย 28.0 คะแนนต่อเกม ในฤดูกาลปกติ และทำ 27.8 คะแนนต่อเกม กับ 7.9 รีบาวด์ ในรอบเพลย์ออฟ อีกทั้งยังมีกองหนุนชั้นดีอย่าง รัสเซลล์ เวสต์บรูก, เจมส์ ฮาร์เดน และ เซิร์จ อิบากา