“ตราหมากรุก” โครเอเชีย เก็บสามคะแนนเต็มขึ้นนำเป็นจ่าฝูงกลุ่มซี หลังจากถล่มเอาชนะ “ยักษ์เขียว” ไอร์แลนด์ 3-1 ในการประเดิมสนามนัดแรก ศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย กลุ่มซี
ไอร์แลนด์ 1 - 3 โครเอเชีย
เกมที่สนามนูนิซิปัล สเตเดียม ในเมืองปอซนัน ประเทศโปแลนด์ กลุ่มซี คู่ระหว่าง ไอร์แลนด์ ฟาดแข้งกับ โครเอเชีย เกมนี้ โจวานนี ตราปัตโตนี เทรนเนอร์ "ยักษ์เขียว" จัดทัพ 4-4-2 ด้วยตัวผู้เล่นที่ชื่อคุ้นหูจากเวทีพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นำโดย ร็อบบี คีน กองหน้าตัวเก๋าที่ยืนล่าตาข่ายกับ เควิน ดอยล์ ขณะที่ “ตราหมารุก” ของกุนซือ สลาเวน บิลิช ก็วางระบบ 4-4-2 เช่นกัน ลูกา โมดริช เพลย์เมกเกอร์จากทอตแนม ฮอตสเปอร์ เป็นตัวทำเกมให้คู่กองหน้าอย่าง นิคิกา เยลาวิช และ มาริโอ มานด์ซูคิช
เปิดฉากครึ่งแรกเพียง 3 นาที โครเอเชีย ทำประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว ดาริโย เซอร์นา กัปตันทีม เติมเกมขึ้นมาทางขวาได้บอลหลุดถึงเส้นหลัง ก่อนเปิดเข้ากลาง มานด์ซูคิช เสียจังหวะลื่น แต่ลุกขึ้นมาร็วโหม่งบอลระยะค่อนข้างไกลพอสมควรผ่านมือ เชย์ กิฟเวน นายด่านไอร์แลนด์ ที่พุ่งปัดไม่ทันตุงตาข่าย
แต่ ไอร์แลนด์ ซึ่งรูปเกมเป็นรองกว่า มาตามตีเสมอ 1-1 ในนาที 19 จากลูกเซตพีซบริเวณริมเส้นด้านซ้าย ไอเดน แม็คกีดีย์ วางบอลยาวไปทางเสาสอง ฌอน เซนต์เลดเจอร์ สอดมาโหม่งบอลผ่านมือ สติเป เปลติโคซา ผู้รักษาประตูคู่แข่งเสียบเสาเข้าไป
หลังจากถูกตามตีเสมอ โครเอเชีย เป็นฝ่ายครองเกมบุกอยู่ฝั่งเดียว นาที 22 อีวาน เปริซิช ปีกจากโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ สับไกยิงหน้าเขตโทษให้ กิฟเวน ทุบทิ้งออกไป ถัดมานาที 33 โมดริช ส่องจากนอกเขตโทษเช่นกัน แต่บอลตรงตัว นายทวารแอสตัน วิลลาเซฟเอาไว้ได้
ลูกทีมของสลาเวน บิลิช มีโอกาสลุ้นประตูหลายครั้ง แต่จบสกอร์ไม่คม กระทั่งนาที 43 จากจังหวะชุลมุนบริเวณกรอบเขตโทษ ไอร์แลนด์ บวกกับความผิดพลาดของ สตีเฟน วอร์ด สกัดบอลไม่ดีย้อนกลับมาเข้าทาง เยลาวิช ที่ยืนอยู่โล่งๆ จิ้มบอลข้ามตัว กิฟเวน ซุกก้นตาข่าย แม้กองหน้าเอฟเวอร์ตันยืนล้ำจากแผงกองหลัง แต่ไม่เป็นลูกล้ำหน้าทำให้ โครเอเชีย ขึ้นนำ 2-1 จนจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังเริ่มขึ้นมาเพียง 3 นาที ตราหมารุก ขยับหนี 3-1 เปริซิช เปิดบอลจากกราบซ้ายให้ มานด์ซูคิช โหม่งบอลไปชนเสา แต่เด้งกลับมาถูกตัว กิฟเวน กระดอนกลับเข้าประตูตัวเองไป โจวานนี ตราปัตโตนีต้องปรับแทกติกส่ง ไซมอน ค็อกซ์ และ โจนาธาน วอลเตอร์ เติมเกมรุกแทนที่ แม็คกีดีย์ และ ดอยล์ ที่ไม่ค่อยมีบทบาท ขณะที่ โครเอเชีย ก็เปลี่ยนตัวคนแรกในนาที 71 เยลาวิช โดนเปลี่ยนออกไปพัก นิโก ครานชาร์ ลงมาเล่นแทน
ทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับอย่างสนุก เกมมาถึงนาที 77 โครแอต เกือบทำประตูหนีห่างอีกครั้ง แต่ลูกยิงของ อีวาน รากิติช บนเส้นเขตโทษโค้งหลุดเสาออกไปนิดเดียว อีก 2 นาทีถัดมา ไอร์แลนด์ ตอบโต้กลับ ดาเมียน ดัฟฟ์ โยนบอลจากกราบขวาเข้าหัว คีธ แอนดรูวส์ โหม่งไปเข้ามือ เปลติโคซา ต่อมานาที 81 แอนดรูวส์ เก็บตกบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนสับไกด้วยขวาแต่ไม่ตรงกรอบ
เกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ แอนดรูวส์ มีโอกาสทองอีกครั้งจากการโหม่งจากลูกเตะมุม บอลผ่านมือ เปลติโคซา แล้ว แต่ก็เฉียดเสาออกไปอีก สุดท้าย ไอร์แลนด์ ทวงประตูคืนไม่ได้จบเกม โครเอเชีย เอาชนะไป 3-1 เก็บสามคะแนนเต็มนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มซี เนื่องจากเกมคู่แรกของกลุ่ม "แชมป์เก่า" สเปน เสมอ อิตาลี 1-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
ไอร์แลนด์ - เชย์ กิฟเวน, ริชาร์ด ดันน์, ฌอน เซนต์ เลดเจอร์, สตีเฟน วอร์ด, จอห์น โอเชีย, เกลนน์ วีแลน, คีธ แอนดรูวส์, ไอเดน แม็คกีดีย์, ดาเมียน ดัฟฟ์, ร็อบบี คีน, เควิน ดอยล์
โครเอเชีย - สติเป เปลติโคซา, กอร์ดอน ชิลเดนเฟลด์, เวดรัน ชอว์ลูกา, อีวาน สตรินิช, ดาริโย เซอร์นา, ออกเยน วูโคเยวิช, ลูกา โมดริช, อีวาน เปริซิช, อีวาน รากิติช, นิคิกา เยลาวิช, มาริโอ มานด์ซูคิช
