"อัศวินสีส้ม" เนเธอร์แลนด์ หนึ่งในทีมเต็งแชมป์ประเดิมนัดแรกไม่สวยพลาดท่าแพ้ต่อ "โคนม" เดนมาร์ก เพื่อนร่วมกลุ่มบี 0-1 ในศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป (ยูโร) 2012 เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ฟุตบอลยูโร 2012 รอบสุดท้าย กลุ่มบี
เนเธอร์แลนด์ 0 - 1 เดนมาร์ก
เกมนัดแรกของกลุ่มบีที่สนามเมตาลิสต์ สเตเดียม ในเมืองคาร์คีฟ ประเทศยูเครน เนเธอร์แลนด์ อดีตแชมป์ปี 1988 ฟาดแข้งกับ เดนมาร์ก ที่เคยสร้างเทพนิยายเดนส์จนคว้าแชมป์เมื่อปี 1992 เกมนี้ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวจ์ก โค้ชเนเธอร์แลนด์จัดทัพ 4-5-1 โรบิน ฟาน เพอร์ซี หัวหอกอาร์เซนอลเจ้าของตำแหน่งดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ยืนหน้าเป้า โดยมี อาร์เยน ร็อบเบน เวสลีย์ สไนเดอร์ และ อิบราฮิม อเฟลลาย คอยสนับสนุน ขณะที่ เดนมาร์ก ของกุนซือ มอร์เทน โอลเซน วางระบบ 4-5-1 เช่นกัน นิคลาส เบนด์เนอร์ ดาวยิงซันเดอร์แลนด์ เป็นตัวพักบอลแดนหน้า
เปิดฉากครึ่งแรกนาทีเดียว เดนมาร์ก ทักทายก่อน ไซมอน โพลเซน เปิดฟรีคิกจากริมเส้นด้านขวามาเข้าหัว ดาเนียล แอกเกอร์ แต่โหม่งเบาเกินไป มาร์เตน สเตเกเลนเบิร์ก นายด่านดัตช์รับสบาย หลังจากนั้นอัศวินสีส้มก็ครองเกมบุกเหนือกว่า นาที 3 เจโตร วิลเลมส์ แบ็กซ้ายวัยละอ่อน เติมเกมขึ้นมาส่องหน้าเขตโทษเหินข้ามคาน
ร็อบเบน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบซ้ายจนถึงเส้นหลังในนาที 7 ก่อนตบกลับเข้ากลาง ฟาน เพอร์ซี ตวัดยิงด้วยซ้ายหลุดเสาแรก อีก 3 นาทีถัดมา อเฟลลาย เก็บบอลได้ในเขตโทษ ก่อนสับหลอกกองหลังโคนม แต่ซัดเหินข้ามคาน ต่อมานาที 15 ร็อบเบน เลี้ยงบอลตัดจากริมเส้นด้านขวา มาสับไกหน้าเขตโทษ แต่ถูก สเตฟาน แอนเดอร์สัน นายทวาร เดนมาร์ก ล้มตัวรับไว้ได้
เนเธอร์แลนด์ ไม่เด็ดขาดในจังหวะจบสกอร์ กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 24 ก็ถูก เดนมาร์ก ลงโทษทำประตูออกนำ 1-0 แบบช็อกแฟนบอลในสนาม โดยจังหวะประตูเริ่มจาก โพลเซน ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้ายพยายามเปิดเข้าไปในเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังดัตช์มาเข้าทาง มิเคล โครห์น-เดห์ลี แตะเข้าไปซัดมุมแคบลอดขา สเตเกเลนเบิร์ก ซุกก้นตาข่าย
หลังจากเสียประตู ลูกทีมของฟาน มาร์ไวจ์ก เดินหน้าบุกต่อ นาที 35 ผู้รักษาประตูเดนมาร์กเตะบอลเปิดเกมออกมาไม่ดี บอลเข้าเท้า ร็อบเบน เลี้ยงจี้เข้าไปยิงหน้าเขตโทษ แต่โชคร้ายบอลไปชนเสาพลาดตามตีเสมอ รองแชมป์โลกมาได้โอกาสทองอีกครั้งในนาที 43 จอห์น ไฮติงกา วางบอลยาวมาจากแดนตัวเอง กองหลังโคนมสกัดบอลมาเข้าทาง ร็อบเบน ซึ่งไหลต่อเข้าเขตโทษให้ ฟาน เพอร์ซี แต่ซัดไปติดเซฟ แอนเดอร์สัน สุดท้ายจบครึ่งแรกจึงตามหลัง
เนเธอร์แลนด์ กลับมาบุกต่อในครึ่งหลัง นาที 49 สไนเดอร์ แทงบอลเข้าเขตโทษให้ ฟาน เพอร์ซี สไลด์ตัวยิงไปติดเซฟ แอนเดอร์สัน เหมือนเดิม อีก 3 นาทีถัดมา มาร์ก ฟาน บอมเมล ตะบันจากนอกเขตโทษให้นายด่านจากสโมสรเอวิยองออกแรงทุบออกหลัง ต่อมานาที 53 อเฟลลาย ลากบอลมาซัดเรียดหน้าเขตโทษ บอลเฉียดโคนเสานิดเดียว
ดัตช์ ยังขึงเกมบุกอย่างหนักนาที 63 มีโอกาสอีกครั้ง ร็อบเบน ได้โหม่งเหน่งๆในกรอบเขตโทษ แต่สะบัดหลุดเสาแรกไป ด้าน เดนมาร์ก ตั้งรับอยู่ฝ่ายเดียว แต่ก็มีจังหวะตอบโต้เช่นกันในนาที 69 โครห์น-เดห์ลี สับไกยิงหน้าเขตโทษให้ สเตเกเลนเบิร์ก ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลัง
หลังจากรูปเกมบุกไม่ดีขึ้นในนาที 71 ฟาน มาร์ไวจ์ก ปรับแทกติกส่ง ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท และ คลาส แยน ฮุนเตลาร์ ลงมาแทนที่ อเฟลลาย และ ไนเจล เดอ ยอง ขณะที่ โอลเซน ก็แก้เกมทันควันด้วยการส่ง ลาสส์ โชน มิดฟิลด์มาแทนตัวรุกอย่าง คริสเตียน เอริกเซน
อีก 2 นาทีถัดมา อัศวินสีส้มมีโอกาสทองแบบสุดๆ สไนเดอร์ วางบอลยาวให้ ฟาน เพอร์ซี หลุดเข้าไปในเขตโทษ แต่กองหน้าอาร์เซนอลยิงไปติดตัว แอนเดอร์สัน ที่ออกมาบล็อกเร็ว ก่อนจบเกม 5 นาที เนเธอร์แลนด์ ส่งไพ่ตายใบสุดท้าย เดิร์ก เคาท์ ลงมาแทน เกรกอรีย์ ฟาน เดอร์ วีล แต่สุดท้ายก็ตามตีเสมอไม่สำเร็จ จบเกม เดนมาร์ก จึงเอาชนะไป 1-0 เก็บสามคะแนนเต็ม ขณะที่ ดัตช์ ต้องไปลุ้นในอีก 2 นัดที่เหลือกับ เยอรมนี และ โปรตุเกส
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
เนเธอร์แลนด์ - มาร์เตน สเตเกเลนเบิร์ก, รอน วลาร์, จอห์น ไฮติงกา, เจโตร วิลเลมส์, เกรกอรีย์ ฟาน เดอร์ วีล, ไนเจล เดอ ยอง, มาร์ก ฟาน บอมเมล, อิบราฮิม อเฟลลาย, อาร์เยน ร็อบเบน, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, เวสลีย์ สไนเดอร์
เดนมาร์ก - สเตฟาน แอนเดอร์สัน, ดาเนียล แอกเกอร์, ไซมอน เคียร์, ไซมอน โพลเซน, ลาร์ส ยาคอบสัน, นิกิ ซิมลิง, วิลเลียม ควิสต์, มิเคล โครห์น-เดห์ลี, เดนิส รอมเมดาห์ล, นิคลาส เบนด์เนอร์, คริสเตียน เอริกเซน