ขุนพลแข้ง “กระต่ายแก้ว” บางกอกกล๊าส เอฟซี โชว์ฟอร์มสุดยอดเปิดบ้านถล่ม “สิงห์เจ้าท่า” การท่าเรือไทย เอฟซี ที่เหลือผู้เล่น 10 คน ไปแบบถล่มทลาย 4-0 ในเกมบิ๊กแมตซ์ไทยพรีเมียร์ลีก เมื่อช่วงค่ำวันเสาร์ที่ 19 พ.ค.ที่ผ่านมา
ไทยพรีเมียร์ลีก
บางกอกกล๊าส เอฟซี 4-0 การท่าเรือไทย เอฟซี
เกมบิ๊กแมตช์คู่วันเสาร์ บางกอกกล๊าส เอฟซี อันดับ 3 ของตาราง เปิดบ้านเจอกับ การท่าเรือไทย เอฟซี อันดับ 16 อยู่ในโซนตกชั้น เกมนี้กองเชียร์ทั้งสองทีมขนกันมาแน่นสนาม แต่ก็อยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจ ที่วันนี้เข้ามาดูแลเรื่องความปลอดภัยเป็นจำนวนมากเป็นพิเศษ หลังเคยเกิดกรณีแฟนบอลทะเลาะวิวาทกันหลังจบเกมเมื่อปีที่แล้ว
เริ่มเกม เจ้าบ้านครองเกมได้ดีกว่า และนาที 7 ได้ลุ้นครั้งแรก พีรพงศ์ โดนเบียดล้มหน้าเขตโทษ ก่อนที่ มิเชลลินี จะรับหน้าที่ปั่นฟรีคิก บอลเลี้ยวหนีกำแพงอ้อมไปทางขวา แต่ วัลลภ บินมาเซฟไว้ได้หวุดหวิด ถัดมานาที 12 อาจายี ลากขึ้นมาถึงเขตโทษก่อนโดนสกัดล้มลงไป แต่บอลยังไหลเข้าทางให้ ชาตรี ที่วิ่งขึ้นมาจากฝั่งขวาได้ซัดเต็มข้อแต่ยังไม่ผ่านมือวัลลภ
การท่าเรือเองก็มีจังหวะตอบโต้กลับบ้างเช่นกัน นาที 15 สราวุฒิ ลากขึ้นมาคนเดียวก่อนสาดไปหน้าเขตโทษให้ โอลอฟ วิ่งมาชาร์จแต่ไม่โดน เล่นเอากองเชียร์เจ้าถิ่นเสียววาบ ต่อมา 3 นาที เกียรติเจริญ ลองซัดไกลจากแถวสอง แต่บอลผ่านเสาสองออกไปแบบน่าเสียดาย ถือว่า 20 นาทีแรก ทั้งสองทีมเปิดเกมแลกกันได้สนุกสูสี
นาที 28 บีจี เกือบได้ประตูนำ ทาคิซาวา โชว์สเต็ปหลบแนวรับทีมเยือนสองคน ก่อนไหลให้ ชาตรี วิ่งมาแปเหน่งระยะไม่พ้น 2 หลา แต่วัลลภ วิ่งมาปิดมุมได้ดีกลายเป็นยิงออกหลังไป ซึ่งรูปเกม บีจี ทำเกมได้เหนือกว่าแบบเห็นได้ชัด เพียงแต่จังหวะสุดท้ายไม่เฉียบคมพอ นาที 39 บีจี ต่อบอลกันหลายจังหวะ และเป็น อาจายี ที่ได้โอกาสซัดเข้าประตูไป แต่เป็นจังหวะล้ำหน้า
ก่อนหมดครึ่งแรก “สิงห์เจ้าท่า” ได้ลุ้นบ้าง นาที 41 โอล็อฟ แทงทะลุช่องให้สราวุฒิ เข้าไปดวลเดี่ยวกับผู้รักษาประตู แต่สุดท้ายสับไปติดเซฟของกฤษกร จากนั้น บีจี สวนกลับเร็ว และเป็นอาจายี ที่ได้ซัดเหน่งๆ บริเวณเสาแรก แต่ วัลลภ ยังเหนียวป้องกันได้อีกครั้ง จบครึ่งแรก ทั้งสองทีมเสมอกันไปแบบสุดมัน 0-0
ครึ่งหลัง การท่าเรือ เปิดฉากบุกใส่ทันที โอล็อฟ ได้จังหวะยิงจากมุมเสาแต่ไปติดบล็อคผู้เล่นกองหลัง “กระต่ายแก้ว” ส่วนบีจี สถานการณ์เริ่มไม่ดี “โค้ชง้วน” สุรชัย จตุภัทรพงศ์ เฮดโค้ช แก้เกมส่ง ฮิโรโนริ ซารุตะ กองกลางขวัญใจเจ้าถิ่นลงมาเล่นแทนที่ ทาคิซาวะ นาที แล้วก็เรียกฟรีคิกระยะ 25 หลาให้ทีมได้ทันที วาเลรี รับหน้าที่สังหารด้วยขวา แต่วัลลภยังพุ่งมาคว้าบอลได้ทัน
อย่างไรก็ตาม นาที 69 บีจี ก็มาได้ประตูที่ต้องการจนได้ จังหวะที่ผู้เล่นทั้งทองทีมชุลมุนหน้าเขตโทษจากลูกเปิดมุม และเป็นทาง อาจายี ฉวยโอกาสแปเข้าไปง่ายๆ เป็น 1-0 และสถานการณ์ของทีมเยือนเลวร้ายยิ่งขึ้นเมี่อต้องเหลือผู้เล่น 10 คน หลังเติมชัย ไปดึงใส่ซารุตะ ทั้งที่มีใบเหลืองติดตัวอยู่ สุดท้ายโดนผู้ตัดสินควักใบแดงไล่ออกจากสนามไป
เจ้าถิ่นหลังได้ประตูนำก็ได้ใจบุกขึ้นมายิงต่อเนื่อง แต่บวกสกอร์เพิ่มไม่ได้ กระทั่งนาที 75 อนาวิน จูจีน กองกลางซูเปอร์สตาร์ประจำทีม ที่ถูกส่งลงมาเป็นตัวสำรอง โชว์ทักษะเหนือชั้นลากบอลจากเส้นหลังเข้ามา ก่อนล็อกหลบ วัลลภ หนึ่งจังหวะและแปเข้าแบบเหนือชั้น ส่งให้ “กระต่ายแก้ว” หนีห่างเป็น 2-0 เล่นเอาแฟนบอลเจ้าบ้านส่งเสียงร้องดีใจกันทั้งสนาม
ท้ายเกม มีฝนตกลงมาในสนามอย่างหนัก ทำให้ทั้งสองทีมเล่นได้ยาก อย่างไรก็ตาม บีจี ก็มาบวกเพิ่มเป็น 3-0 กองหลังท่าเรือเปิดช่องโหว่ให้ อาจายี ลากบอลขึ้นมา ขนาบด้วย ซารุตะ และ ชาตรี ก่อนที่อาจายี ป้ายออกขวาให้ ซารุตะ ซัดเหน่งๆ บอลติดเซฟแต่ยังกลิ้งเข้าทาง ชาตรี กดเข้าไปไม่เหลือ
เท่านั้นไม่พอ บีจีได้เฮปิดท้าย จังหวะ พีรพงศ์ ซัดบอลตุงตาข่ายจากความผิดพลาดในเกมรับของทีมเยือน จบเกม บางกอกกล๊าส เอฟซี ถล่ม การท่าเรือไทย เอฟซี 4-0 “กระต่ายแก้ว” เก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม พร้อมเบียด บีอีซี เทโรศาสน ขึ้นเป็นรองจ่าฝูงชั่วคราว ส่วน “สิงห์เจ้าท่า” ยังไม่พ้นโซนตกชั้น มี 7 แต้มเท่าเดิม
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บางกอกกล๊าส เอฟซี : กฤษกร เกิดผล,ประวีณวัช บุญยงค์,ศุภชัย คมศิลป์,วาเลรี เฮียค,ศรัณย์ พรมแก้ว,ฟลาเวียง มิเชลินี,คูนิฮิโกะ ทาคิซาวา,พีรพงศ์ พิชิตโชตรัตน์,ธนาสิทธิ์ ศิริผลา,ซามูเอล อาจายี,ชาตรี ฉิมทะเล
การท่าเรือไทย เอฟซี : วัลลภ แซ่จิ๋ว,เติมชัย พรหมวิชัย,ฮุน วู,พงศพิพัฒน์ คำนวน,ณรัฐ มุนินทร์นพมาศ,เกียรติเจริญ เรืองปาน,สราวุฒิ คงเจริญ,สตีเวน ร็อบบ์,ศิวกร จักขุประสาท,คิม บาเว,คาร์ล โอลอฟ ซานโด
ผลฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก วันเสาร์ที่ 19 พ.ค. 55
บางกอกกล๊าส เอฟซี 4-0 การท่าเรือไทย เอฟซี
บีบีซียู เอฟซี 1-2 เชียงราย ยูไนเต็ด
โอสถสภา เอ็ม-150 สระบุรี 2-0 อินทรี เพื่อนตำรวจ
