“เสือเหลือง” โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ คว้าโทรฟีเดเอฟเบ โพคาล มาครองอีกใบต่อจากถาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี หลังถล่มเอาชนะ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค 5-2 ในเกมรอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 12 พ.ค.ที่ผ่านมา
ศึกเดเอฟเบ โพคาล รอบชิงชนะเลิศ
ดอร์ทมุนด์ 5 - 2 บาเยิร์น มิวนิค
เกมชิงดำศึกฟุตบอลถ้วยของเมืองเบียร์ที่สนามโอลิมปิก สเตเดียม กรุงเบอร์ลิน ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ แชมป์บุนเดสลีกา เจอกับ บาเยิร์น มิวนิค เกมนี้ทั้งสองทีมไม่มีปัญหาตัวผู้เล่น เจอร์เกน คลอปป์ กุนซือ “เสือเหลือง” วาง เควิน โกรสครอยท์ซ, ยาคูบ บาสซีคอฟสกี และ ชินจิ คากาวะ ทำเกมรุก โดยมี โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ยืนหน้าเป้า ขณะที่ จุปป์ ไฮน์เกส นายใหญ่ “เสือใต้” แม้ยังมีภารกิจเตะนัดชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ เชลซี ในสัปดาห์หน้า แต่จัดทัพเต็มสูบส่ง มาริโอ โกเมซ และ โทนี ครูส ล่าตาข่ายร่วมกัน พร้อมกับมี ฟรองค์ ริเบรี และ อาร์เยน รอบเบน คอยสนับสนุน
เริ่มเกมไม่ถึง 3 นาที ดอร์ทมุนด์ ทำประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว หลังจาก หลุยส์ กุสตาโว กองหลังบาเยิร์นสกัดบอลพลาดเข้าเขตโทษตัวเอง ก่อนที่ คากาวะ สำเร็จโทษไม่เหลือ อีก 5 นาทีถัดมา เกมหยุดพักใหญ่ เมื่อ โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์ ปะทะกับ โกเมซ แต่ภายหลังนายด่านแชมป์บุนเดสลีกาลุกขึ้นมาเฝ้าเสาได้
รูปเกมทั้งสองทีมค่อนข้างสูสี บดกันบริเวณกลางสนามเป็นส่วนใหญ่ กระทั่งนาที 22 ริเบรี แทงบอลให้ โกเมซ หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปในเขตโทษ ก่อนถูก ไวเดนเฟลเลอร์ ทำฟาวล์ล้มลงได้จุดโทษ รอบเบน รับหน้าที่สังหารไม่พลาดให้ บาเยิร์น ตีเสมอ 1-1
เกมถึงนาที 34 ไวเดนเฟลเลอร์ เล่นต่อไม่ไหวต้องเปลี่ยนตัวออก มิทเชลล์ ลันเกรัก นายทวารสำรองลงมาเฝ้าเสาแทน ขณะที่ ดอร์ทมุนด์ หลังถูกตามตีเสมอก็เดินเกมบุกอีกครั้งจนนาที 40 มาได้ลูกจุดโทษบ้าง หลังจาก โกรสครอยท์ซ ถูกเสียบจาก เจอโรม บัวเต็ง โดยที่ แมตซ์ ฮุมเมลล์ ซัดจุดโทษไม่พลาดผ่านมือ มานูเอล นอยเออร์ ให้ “เสือเหลือง” นำอีก 2-1
ดอร์ทมุนด์ ได้ใจขึงเกมต่อจนเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ คากาวะ ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนตวัดให้ เลวานดอฟสกี ซัดลอดขา นอยเออร์ ลูกปลิ้นเข้าประตูไปให้ลูกทีมของเจอร์เกน คลอปป์ นำห่าง 3-1 เมื่อจบเกมครึ่งแรก
กลับมาลงสนามในครึ่งหลังผ่านมาถึงนาที 58 ดอร์ทมุนด์ ทำเกมโต้กลับเร็ว คากวาะ กระชากบอลมาจากกลางสนาม ก่อนถ่ายบอลไปทางซ้าย โกรสครอยท์ซ รอจังหวะ ก่อนจ่ายให้ เลวานดอฟสกี หลุดเข้าไปซัดผ่านมือ นอยเออร์ ส่งบอลเข้าเสาสองให้ทีมหนีห่าง 4-1
ริเบรี สับไกยิงหน้าเขตโทษในนาที 75 ทำให้ บาเยิร์น ไล่มา 2-4 แต่อีก 6 นาทีถัดมา นอยเออร์ ออกมาตัดบอลพลาด บอลเลยมาถึง ลูคัสซ์ ปิสเซก เปิดบอลย้อนกลับมาเข้าทาง เลวานดอฟสกี ขึ้นโขกคนเดี่ยวตุงตาข่ายให้ “เสือเหลือง” นำห่าง 5-2 หลังจากนั้น ไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีกจบเกมด้วยชัยชนะของ ดอร์ทมุนด์ พร้อมกับคว้าแชมป์สมัยที่ 3 โดยครั้งล่าสุดย้อนไปเมื่อปี 1989
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
ดอร์ทมุนด์ - โรมัน ไวเดนเฟลเลอร์, แมตซ์ ฮุมเมลส์, เนเวน ซูโบติช, มาร์เซล ชเมลเซอร์, ลูคัสซ์ ปิสเซก, เซบาสเตียน เคห์ล, อิลเคย์ กุนโดกัน, เควิน โกรสครอยท์ซ, ยาคูบ บาสซีคอฟสกี, โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี, ชินจิ คางาวะ
บาเยิร์น - มานูเอล นอยเออร์, โฮลเกอร์ บาดสตูเบอร์, เจอโรม บัวเต็ง, ดาวิด อลาบา, ฟิลิปป์ ลาห์ม, หลุยส์ กุสตาโว, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, แฟรงค์ ริเบรี, อาร์เยน รอบเบน, มาริโอ โกเมซ, โทนี ครูส