ASTVผู้จัดการรายวัน- ลีกชั้นนำของทวีปยุโรป ทยอยเผยโฉมหน้าแชมป์ประจำฤดูกาล 2011-12 ไปเกือบหมดแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคมนี้ จะเป็นการเตะนัดสุดท้าย ศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ คงได้ทราบว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี จะเข้าป้ายทำได้ตามเงื่อนไขหรือไม่ เหลือ ลีก เอิง ฝรั่งเศส ที่จะรูดม่านท้ายสุดในวันที่ 20 พ.ค.นี้ ก่อนหน้านั้น MGR SPORT จึงขอนำเสนออีกแง่มุมหนึ่งของ 5 ลีกด้วยการชำแหละสโมสรที่ทำผลงานน่าผิดหวังมาฝากกันเป็นการทิ้งทวน
บาร์เซโลนา (สเปน)
เหมาะกับคำว่า “ยิ่งสูง ยิ่งหนาว” อย่างที่สุดสำหรับ บาร์เซโลนา เพราะตลอด 4 ปีมานี้ ภายใต้บังเหียนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ถือเป็นยุคเรืองอำนาจ กวาดแชมป์ทุกรายการ และเมื่อฤดูกาลนี้ไม่สามารถคว้า 2 ถ้วยใหญ่ ทั้ง ลา ลีกา สเปน ที่เสียให้กับ รีล มาดริด และ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่ตกรอบรองชนะเลิศ จึงนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงกุนซือ จำต้องลงจากเก้าอี้เพื่อแสดงความรับผิดชอบ แม้จะยิงกระจายทะลุ 100 ประตู มากกว่าปีก่อน แต่มาตรฐานที่ตั้งไว้สูงจึงถือว่าล้มเหลวกว่าปีที่แล้ว จากนี้เหลือเพียงถ้วย โคปา เดล เรย์ ที่พบกับ แอธเลติก บิลเบา วันที่ 25 พฤษภาคมนี้ จำต้องคว้ามาให้ได้ เพื่อจะได้มีอะไรติดไม้ติดมือบ้าง
ลิเวอร์พูล (อังกฤษ)
ต่อให้ ลิเวอร์พูล คว้าถ้วย เอฟเอ คัพ ครองดับเบิลแชมป์ได้สำเร็จ ก็ยังถือว่าน่าผิดหวัง เพราะเมื่อเหลือบดูผลงานใน พรีเมียร์ชิป เกาะอยู่ที่ 8 ซึ่งจะถือเป็นอันดับต่ำสุดรอบ 10 ปี และเมื่อได้เพียงโทรฟี คาร์ลิง คัพ ใบเดียว จึงยิ่งตอกย้ำความล้มเหลวเข้าไปอีกสำหรับสาวก “เดอะ ค็อป” เนื่องจากปีนี้ “หงส์แดง” ไม่ได้ลงเล่นถ้วยยุโรป จึงหวังว่า น่าจะมาเน้นในลีก ส่วนฟุตบอลถ้วยน่าจะถือเป็นโบนัสมากกว่า ทว่า ทุกอย่างกลับตาลปัตร เคนนี ดัลกลิช ไม่สามารถพาทีมไล่ตามมาตรฐานที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตั้งเอาไว้ มิหนำซ้ำยังถูก แมนเชสเตอร์ ซิตี ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทิ้งช่วงห่างออกไปอีก
อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี)
หลังตื่นจาก “ยักษ์หลับ” คว้าแชมป์ สคูเด็ตโต 5 สมัยติดต่อกัน รวมถึงทริปเปิลแชมป์ฤดูกาล 2009-10 หลังหมดยุคคุมทัพของ โรแบร์โต มันชินี และ โชเซ มูรินโญ ก็มีอันต้องถอยหลังลงคลองอีกครั้ง ถือเป็นวังวนเดิมๆ ที่สาวก “เนรัซซูรี” ไม่อยากประสบ ทว่า ปีนี้กับผลงานของ อันเดรีย สตรามัคคิโอนี ไม่ดีเท่าที่ควร รั้งอันดับ 6 เพิ่งจะมากระเตื้องช่วงท้าย แต่เหมือนไม่ทันเวลาที่จะคว้าท็อปทรีไปลุยศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ปีหน้า มัสซิโม โมรัตติ ประธาน “งูใหญ่” คงจะต้องทำอะไรสักอย่าง เพื่อยึดหัวหาด กัลโช เซเรีย อา อิตาลี กลับมาอีกครั้ง เพราะ เอซี มิลาน และ ยูเวนตุส เริ่มกลับมาเข้ารูปเข้ารอยอีกครั้งหนึ่งแล้ว
แวร์เดอร์ เบรเมน (เยอรมนี)
จากสโมสรที่เคยมีเกมรุกเร้าใจมากที่สุดทีมหนึ่งบนเวที บุนเดสลีกา แต่ปัจจุบันสถานะอยู่แค่พวกกลางตาราง ปีนี้จบด้วยอันดับ 9 ไม่มีอะไรติดไม้ติดมือ ฤดูกาลที่แล้วก็ต้องกระเสือกกระสนหนีตกชั้น ทั้งที่เคยคว้าถาดแชมป์ปี 2003-04 จากนั้นก็เบียดกับ บาเยิร์น มิวนิค ได้อย่างสนุกคู่คี่ คงมาจากการที่ โทมัส ชาฟ เริ่มหมดมุกบอร์ดบริหาร “นางนวล” ก็ไม่คิดเปลี่ยนแปลงหลังคุมมาตั้งแต่ปี 1999 อาจเพราะเคยเป็นลูกหม้อค้าแข้งมาตั้งแต่สมัยเยาวชน จนแขวนสตั๊ด แม้จะได้ถึง 6 แชมป์ แต่ควรแก่เวลาที่ต้องให้โอกาสคนอื่นบ้างแล้ว การรั้งแข้งอย่าง เมซุต โอซิล และล่าสุด ซูเปอร์สตาร์อย่าง มาร์โก มาริน ไม่อยู่ ก็เป็นเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดีถึงความล้มเหลว
ปารีส แซงต์-แชร์กแมง (ฝรั่งเศส)
ด้วยเม็ดเงินมหาเศรษฐีจากกาตาร์ เข้ามาเทกโอเวอร์เมื่อช่วงซัมเมอร์ และเสริมทัพมโหฬารทั้ง ฮาเวียร์ ปาสตอเร รวมถึง เฌเรมี เมเนซ 2 เพลย์เมกเกอร์ เปแอสเช ควรที่จะคว้าแชมป์ ลีก เอิง ปีนี้ไปนอนกอดตั้งแต่ปีมะโว้แล้วไม่ใช่อันดับ 2 ตามหลัง มงต์เปลลิเยร์ 3 แต้ม ขณะที่เหลืออีก 2 นัดแบบนี้ หรือไม่ก็ได้ลุ้นแชมป์บอลถ้วยเพื่อเป็นการปูรากฐานทวงความยิ่งใหญ่บนเมืองน้ำหอมกลับคืนมา คงเป็นเพราะการทนใช้กุนซืออย่าง อองตวน กอมบัวอาเร แม้จะดึง คาร์โล อันเชล็อตติ เข้ามาช่วงกลางฤดูกาล แต่นายใหญ่ชาวอิตาเลียน ก็ไม่ใช่ผู้วิเศษที่จะเสกแชมป์ได้ทันที ถ้าบริหารงานแบบมีแต่เงินกับใจ ไร้ประสบการณ์คงต้องใช้เวลาอีกนานกว่าจะลืมตาอ้าปากได้
