ASTVผู้จัดการรายวัน - สุดสัปดาห์นี้แล้ว ที่ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) เพลย์ออฟจะเปิดฉากขึ้น ซึ่งก่อนดวลกันในซีรีส์ที่ทีมใดชนะ 4 จาก 7 เกมก่อนเข้ารอบ ทีมข่าว MGR Sport จับเอา 4 ประเด็นน่าสนใจมานำเสนอบรรทัดต่อจากนี้
เช็กฟิตซูเปอร์สตาร์
หลังคว้าตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซีซันก่อน มาปีนี้ เดอร์ริค โรส หวังนำ ชิคาโก บูลส์ สัมผัส “แลร์รี โอไบรอัน โทรฟี” ทว่า อาการบาดเจ็บขาและข้อเท้าขวาเรื้อรัง ทำให้การ์ดจ่ายซูเปอร์สตาร์ชวดลงสนามถึง 26 จาก 66 เกมในฤดูกาลปกติ แม้ “กระทิงเปลี่ยว” เอาตัวรอดยึดอันดับ 1 ฝั่งตะวันออกไว้ได้ แถมผลงานยามไร้ “ดี-โรส” สถิติไม่เลว ชนะ 17 แพ้ 9 ทว่าเมื่อเข้าสู่เพลย์ออฟ หากความคล่องแคล่วของแม่ทัพไม่กลับมาดังเดิม เกรงว่า คาร์ลอส บูเซอร์, ลูออล เดง หรือว่า ริชาร์ด แฮมิลตัน อาจรับมือ ไมอามี ฮีท ไม่ไหว ขณะที่สตาร์รายอื่นที่เผชิญกับอาการบาดเจ็บ อมาเร สเตาดาไมร์ พร้อมเจ็บหลังทุกเมื่อ เจเรมี หลิน เข่าซ้ายยังเดี้ยงชวดรอบแรกแน่นอน แม้การ์ดอเมริกันเชื้อสายไต้หวันหวังหายทันรอบสอง แต่อาจต้องว่ากันปีหน้า เพราะ นิวยอร์ก นิกส์ คงฝ่าด่าน ฮีท หรือ บูลส์ ไม่ได้ ด้าน คริส พอล มาทำให้ แอลเอ คลิปเปอร์ส เป็นทีมม้ามืด ทว่าปัญหาที่ขาหนีบข้างซ้าย เห็นที เบล็ค กริฟฟิน ต้องเปล่งประกายฟอร์มมากขึ้นกับการดวล เมมฟิส กริซลีย์ส
บิ๊กทรีไหนแท้-ไหนเทียม
“บิ๊กทรี” เป็นการขนานนามผู้เล่นแกนหลักประจำทีม แต่ไหนแท้-ไหนเทียมคงต้องว่ากัน ซานอันโตนิโอ สเปอร์ส นับตั้งแต่หมดยุค “หอคอยคู่” เดวิด โรบินสัน กับ ทิม ดันแคน แฟรนไชส์ต่อยอดความสำเร็จได้จากการมี โทนี พาร์เกอร์ และ มานู จิโนบิลี มาผนึกกำลัง ดันแคน เป็น “บิ๊กทรี” ขนานแท้ที่ฟิตปั๋งพร้อมกลับมาล่าแชมป์แรกในรอบ 6 ปี ส่วน บอสตัน เซลติกส์ ได้รับเครดิตว่า “แฟนทาสติกโฟร์” เมื่อ ราจอน รอนโด ดันตัวเองขึ้นมาเป็นการ์ดหัวแถว ช่วยเสริมงานว่าที่ “ฮอล ออฟ เฟม” พอล เพียร์ซ, เควิน การ์เน็ตต์ และเรย์ อัลเลน ได้อย่างเห็นผล ขณะที่ “บิ๊กทรี” ที่ก่อร่างสร้างตัวมาสักพักของ ไมอามี ฮีท ความสามารถของ เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช ไม่เป็นสองรองใครเช่นเดียวกับ เควิน ดูแรนท์, รัสเซล เวสต์บรูก และ เจมส์ ฮาร์เดน แห่งโอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ อย่างไรก็ตาม หากความสำเร็จเป็นรูปธรรมไม่ก่อเกิด คำว่า “บิ๊กทรี” แท้จริงอาจยังพูดไม่ได้เต็มปากเต็มคำ
วัดพลังหนุ่ม-เก๋า
ยากยิ่งนักที่จะเห็นทีมพลังหนุ่มไฟแรงแล่นตลอดรอดฝั่ง ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ ฤดูกาลก่อนที่ บูลส์ ศิโรราบแก่ ฮีท หรือ ธันเดอร์ เจอเก๋า ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ เลยไปไม่เป็น แต่ซีซัน 2011/12 อย่าแปลกใจถ้าแฟนๆ จะได้ชมซีรีส์รอบชิงระหว่าง บูลส์ กับ OKC หรือ ฮีท กับ OKC ในเมื่อ ดูแรนท์ ร้อนเหลือกำลังมีสิทธิเบียดตำแหน่ง MVP แข่งกับ เลอบรอน ขณะที่ โรส หัวหน้าโค้ช ทอม ธิโบดัว ทะนุถนอมหวังให้ฟิตปล่อยทีเด็ดเต็มคราบ อย่างไรก็ดี คงมองข้ามทีมเก๋าอย่าง สเปอร์ส, เลเกอร์ส, เซลติกส์ หรือ แมฟส์แมน ไปไม่ได้ ในเมื่อ 13 ปีหลังสุด แชมป์ต่างกระจายไปยังซานอันโตนิโอ (4 สมัย), แอลเอ (5 สมัย), บอสตัน และดัลลัส อีกอย่างละสมัย
ม้ามืด (ตัวจริง)
การเป็นแชมป์ NBA ต้องฟันฝ่าถึง 4 ซีรีส์กว่าจะถึงฝัน เป็นเรื่องยากที่จะเห็น “ม้ามืด” ขึ้นไปเถลิงความสำเร็จดั่งเช่น เอฟซี ปอร์โต ในยุคของ โชเซ มูรินโญ ทำไว้ในฟุตบอล ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เมื่อปี 2004 หรือจะมีซินเดอเรลลาอย่าง “ยักษ์ใหญ่” นิวยอร์ก ไจแอนท์ส พลิกคว้าแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 42 เมื่อปี 2008 ดังนั้น หากจะหา “ม้ามืด” (ตัวจริง) ศึกยัดห่วงระดับโลกเป็นไปได้ยาก เว้นเสียแต่ทีมที่ไม่ได้รับความคาดหมายในตอนแรก ซึ่งปีนี้ฝั่งตะวันออก ต้องคีย์ไปที่ เซลติกส์ ซึ่งมีกำลังเสริมอย่าง แบรนดอน แบสส์ และการ์ดที่กำลังได้รับการจับตามองอย่าง เอเวอรี แบรดลีย์ หากฝ่าด่านแรกอย่าง แอตแลนตา ฮอว์คส ไปเจอกับ บูลส์ ในสภาพที่ “ดี-โรส” ไม่เต็มร้อย ความเก๋าของ “บิ๊กทรี” เชื่อว่า สร้างปัญหาให้ ฮีท ไม่มากก็น้อย ส่วนฟากตะวันตก เลเกอร์ส ยังรวมเป็นหนึ่งแม้มีทั้งกระแสไม่เชื่อมือเฮดโค้ช ไมค์ บราวน์ หรือการเทรด เพา กาซอล และ แอนดรูว์ บายนัม ถึงวันนี้ โคบี ไบรอันท์ ลดอีโก้ของตัวเองไปได้มาก ถ้าใช้ความเก๋าบวกแกร่งคลุกวงในเล่นงาน OKC ได้ในรอบสอง รอบชิงคอนเฟอเรนซ์กับ สเปอร์ส ก็ถือเป็นคู่ต่อกรที่สมน้ำสมเนื้อไม่น้อย