“ผี” ช็อก! ถูกทอฟฟีตีเสมอ 4-4

โอกาสของ “ผีแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในการป้องกันแชมป์ลีกเมืองผู้ดี เริ่มไม่แน่นอน เมื่อล่าสุดพลาดท่าถูก “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ไล่ตามตีเสมอ 4-4 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่แรก คืนวันอาทิตย์ที่ 22 เม.ย.2555

ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 4 - 4 เอฟเวอร์ตัน

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ คู่ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด จ่าฝูงมี 82 คะแนน จาก 34 นัด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ เอฟเวอร์ตัน อันดับ 7 มี 47 คะแนนจาก 33 นัด เกมนี้ “ผีแดง” สภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์ ริโอ เฟอร์ดินานด์ ยืนค้ำหลัง ร่วมกับ จอนนี อีแวนส์ ขณะที่แดนกลางมี พอล สโคลส์ คอยคุมจังหวะ ส่วนเกมรุก อันโตนิโอ วาเลนเซีย และ นานี ลากเลื้อยริมเส้นให้คู่หัวหอก แดนนี เวลเบ็ก และ เวย์น รูนีย์ ทางฝั่ง “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” วางแผนอย่างรัดกุม ส่งผู้เล่นกองกลาง 5 คน โดยมี นิโคลา เยลาวิช หัวหอกร่างโย่งยืนเป็นหน้าเป้า

ทีมเยือนออกสตาร์ทเกมได้ดี ผ่านมา 5 นาที ก็ทักทายก่อน เยลาวิช สับไกยิงบริเวณกรอบเขตโทษให้ ดาบิด เด เคอา ต้องออกแรงเซฟ แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้กลับในนาที 12 นานี เลี้ยงตัดจากซ้ายมาซัดบริเวณมุมเขตโทษให้ ทิม ฮาเวิร์ด ต้องป้องกันเสาแรก อีก 4 นาทีถัดมา ไมเคิล คาร์ริก ไหลบอลให้ สโคลส์ ส่องจากระยะ 20 หลา แต่ไม่ตรงกรอบ

เกมของทั้งสองทีมค่อนข้างสูสีผลัดกันรุกและรับ ต่อมานาที 31 ดาร์รอน กิบสัน อดีตเด็กเก่า “ผีแดง” ตั้งป้อมยิงจากระยะ 25 หลา บอลเฉียดเสานิดเดียว แต่อีก 2 นาทีถัดมา เอฟเวอร์ตัน ก็มาทำประตูออกนำ 1-0 โทนี ฮิบเบิร์ต ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนวางบอลไปทางเสาไกล เยลาวิช โหม่งบอลย้อยข้ามมือ เด เคอา เบียดคานเข้าไปอย่างสวยงาม

หลังจากเสียประตู ทีมของเซอร์ อเลกซ์ เฟอร์กูสัน เกือบตามตีเสมอแบบทันควันในนาที 35 สโคลส์ เก็บตกบอลได้จากลูกเตะมุม ก่อนตะบันจากนอกเขตโทษ บอลแฉลบเปลี่ยนทางเล็กน้อย แต่ ฮาเวิร์ด เซฟได้อย่างยอดเยี่ยม ทำให้ทีมเยือนยังรักษาสกอร์นำ อย่างไรก็ตาม นาที 41 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ตามตีเสมอ 1-1 ได้สำเร็จ นานี เปิดบอลจากกราบซ้ายมาเข้าหัว รูนีย์ โขกเหน่งๆ ผ่านมือนายทวารชาวอเมริกันตุงตาข่าย ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมเสมอกัน

เกมครึ่งหลัง “ผีแดง” ลงสนามมาบุกต่อ กระทั่งนาที 57 ก็ทำสกอร์พลิกนำ 2-1 เริ่มจากความผิดพลาดของแนวรับ เอฟเวอร์ตัน ที่เคลียร์บอลไม่เด็ดขาด ก่อนที่บอลมาเข้าทาง เวลเบ็ก หน้าเขตโทษ กองหน้าทีมชาติอังกฤษ แตะหาช่อง ก่อนซัดผ่านมือ ฮาเวิร์ด เข้าประตูไป

อีก 3 นาทีถัดมา แฟนบอลเจ้าบ้านในสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ก็ได้เฮกันอีก จากจังหวะการประสานที่ยอดเยี่ยม ก่อนที่ เวลเบ็ก ชิ่งบอลให้ นานี หลุดเข้าไปชิปบอลข้ามตัว ฮาเวิร์ด ให้ แมนฯ ยูไนเต็ด หนีห่าง 3-1 แต่ความชะล่าใจของเกมรับเจ้าถิ่นทำให้นาที 66 “ทอฟฟีสีน้ำเงิน” ทำประตูไล่มา 2-3 ฮิบเบิร์ต วางบอลจากกราบขวามาให้ มารูยาน เฟลลายนี วอลเลย์เสาแรก เด เคอา พยายามสุดฝีมือแต่ปัดลูกไม่พ้นกรอบประตู

อย่างไรก็ตาม แชมป์เก่าก็ขยับสกอร์นำห่างเป็น 4-2 อีกครั้งในนาที 68 จากการทำชิ่งกันระหว่าง เวลเบ็ก และ รูนีย์ ก่อนที่ เวลเบ็ก ไหลบอลเรียดมาหน้าประตูให้ รูนีย์ ตวัดยิงผ่านมือ ฮาเวิร์ด เข้าไปเป็นประตูที่ 26 ของกองหน้าร่างอวบในเกมลีก ตามหลัง โรบิน ฟาน เพอร์ซี ของอาร์เซนอล ที่ครองดาวซัลโวสูงสุดเหลือประตูเดียว

เอฟเวอร์ตัน ไม่ยอมแพ้นาที 83 ไล่ตีตื้นมา 3-4 จากจังหวะฟรีคิก เฟลลายนี โหม่งเช็ดมาเข้าทาง เยลาวิช ซัดผ่านมือ เด เคอา เข้าไป แล้วเรื่องที่ไม่น่าเชื่อก็เกิดขึ้นอีกเมื่อทีมเยือนมาตามตีเสมอ 4-4 แบบช็อกแฟนบอลเจ้าบ้านในอีก 2 นาทีต่อมา ฟิล เนวิลล์ จ่ายบอลเข้าในเขตโทษ เฟลลายนี ตวัดเร็วเข้ากลาง สตีเวน พีนาร์ ชาร์ตบอลเข้าประตูไป

ช่วงท้ายเกม แมนฯ ยูไนเต็ด ทำเกมบุกหนักเพื่อหวังประตูชัย โดยมีโอกาสทองจากลูกยิงของ ริโอ เฟอร์ดินานด์ แต่ก็ถูก ฮาเวิร์ด เหินปัดทิ้งออกไปได้ สุดท้ายจบเกมจึงทำได้เพียงเสมอเก็บแค่คะแนนเดียว โดยตอนนี้ แมนฯ ยูไนเต็ด มี 83 คะแนนห่างจาก “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี ซึ่งจะเตะกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน เวลา 22.00 น.อยู่ 6 คะแนน และทั้งสองทีมมีคิวเจอกันเองที่สนามอิทิฮัด สเตเดียม ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ ขณะที่ เอฟเวอร์ตัน มี 48 คะแนน อยู่ที่ 7 ของตาราง

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด - ดาบิด เด เคอา, จอนนี อีแวนส์, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, แดนนี เวลเบ็ก, เวย์น รูนีย์
เอฟเวอร์ตัน - ทิม ฮาเวิร์ด, ซิลแวง ดิสแตง, ฟิล จากีลกา, ฟิล เนวิลล์, โทนี ฮิบเบิร์ต, ดาร์รอน กิบสัน, จอห์น ไฮติงกา, มารูยาน เฟลลายนี, สตีเวน พีนาร์, ลีออน ออสมัน, นิคิกา เยลาวิช