“กำนันแก๊” ประมุข โรจนตัณฑ์ เจ้าของค่ายมวยชื่อดังหวัง บัวขาว ป.ประมุข มาเปิดอกคุยกันแบบลูกผู้ชายภายใน 1-2 วันนี้ แต่หากยังหลบหน้า และให้ข่าวในทางเสียหายแก่ตนอีก ก็จะไม่ไว้หน้ากัน ส่งทนายความดำเนินคดีทางกฎหมายต่อไป
เมื่อเวลาประมาณ 11.30 น.วันพฤหัสบดีที่ 19 เมษายน 2555 “เสี่ยอุ” ธีระพัฒน์ โรจนตัณฑ์ หัวหน้าค่าย ป.ประมุข พร้อมด้วย วิวรรธน์ แสงสุริยฉัตร ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย เป็นตัวแทน “กำนันแก๊” ตั้งโต๊ะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนที่อาคารหมอเส็ง ลาดพร้าว ซอย 18 ถึงปัญหาคาใจต่อสังคมกรณี สมบัติ บัญชาเมฆ หรือ บัวขาว ป.ประมุข แหกกฎโดดขึ้นสังเวียนชกไทยไฟต์ 2012 ที่แหลมบาลีฮาย พัทยาใต้ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 17 เมษายน ที่ผ่านมา
โดย นายวิวรรธน์ เผยต่อสื่อว่า “ตอนแรกเรานึกว่า บัวขาว แค่ไปโชว์ตัวเท่านั้น ไม่คิดว่าจะกล้าฉีกกฎหมายพระราชบัญญัติกีฬามวย พ.ศ.2542 ดังนั้น ถ้าปล่อยให้ผ่านพ้นไป เท่ากับว่า บ้านเมืองไม่มีขื่อมีแปอีกแล้ว หมายความว่า ต่อไปนักมวยอยากทำอะไรตามอำเภอใจก็ได้ หากเป็นเช่นนั้นจะมีกฎหมายไว้ทำไม ส่วนที่ บัวขาว ขึ้นชกไทยไฟต์ เชื่อว่า เป็นเรื่องของผลประโยชน์ล้วนๆ อีกทั้ง สปอร์ต อาร์ท จำกัด ไม่ใช่ผู้ที่คลุกคลีในวงการมวย เป็นเพียงบริษัทผู้จัดละคร การเข้ามาครั้งนี้เพื่อกอบโกยผลประโยชน์ ดังนั้น เราจึงต้องดำเนินการฟ้องร้องแน่นอน”
“ซึ่งผมขอแบ่งเป็นการฟ้องร้องดังนี้ สปอร์ต อาร์ท ถือว่า มีความผิดทางแพ่ง เราย่อมต้องเรียกร้องค่าเสียหาย ตัวเลขน่าจะหลักหลายล้านบาท อีกทั้งยังผิด พ.ร.บ.มวย มาตรา 55 ที่ว่าด้วยผู้ใดฝ่าฝืนจัดการแข่งขันมวยโดยไม่ได้รับอนุญาตจากต้นสังกัด ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 2 หมื่นบาท ส่วน การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และฝ่ายกฎหมายของคณะกรรมการกีฬามวย กกท.ถือว่า ละเลยต่อหน้าที่ รู้ทั้งรู้ว่าไม่ได้ส่งชื่อ บัวขาว ยังอุตส่าห์ปล่อยให้ขึ้นได้ ทั้งที่มีอำนาจสั่งห้าม อีกทั้งเราตั้งข้อสังเกตกรณี ไทรโยค พุ่มพันธ์ม่วง ฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศ ว่า ไม่สามารถต่อยได้ เพราะตาม พ.ร.บ.มวย ระบุชัดนักมวยต้องได้พักอย่างน้อย 21 วัน ก่อนขึ้นไฟต์ต่อไป แต่กลับกลายเป็นว่า ไทรโยค ได้ชั่งน้ำหนักหน้าตาเฉย และมีชื่อขึ้นชกตามโปรแกรมในตอนแรกด้วย ดังนั้น ผมมองว่า นายทะเบียนอาจมีส่วนรู้เห็นเป็นใจ ถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ต้องโดนดำเนินคดีตามกฎหมายตามระเบียบ”
“ส่วนกรณี บัวขาว จากการได้หารือกับ กำนันแก๊ เมื่อวานก่อน ท่านยอมรับว่า ตัดสินใจลำบาก เพราะเลี้ยงดูให้ข้าวให้น้ำให้การศึกษา บัวขาว มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ดึกดื่นต้องตื่นมาหุงข้าวให้กินยามหิว บางครั้งต้องลงทุนต้มน้ำร้อนด้วยตัวเอง เพื่อนำมาประคบ บัวขาว ยามเจ็บ สมัยก่อนตอนค่ายไม่โด่งดังขนาดนี้ กำนันแก๊ ต้องดิ้นรนหาเงินมาเลี้ยงนักมวยในสังกัดให้อยู่ดี แต่ที่สุดแล้วเด็กที่เลี้ยงมา 20 ปี กลับไม่สำนึกบุญคุณ โดยท่านไม่ได้ทวงบุญคุณ แต่ไม่อยากให้มาใส่ร้ายกัน อย่างไรก็ตาม กำนันแก๊ ยังมีเมตตาอยากคุยกับ บัวขาว ภายใน 1-2 วันนี้ โดยไม่ต้องมีคนกลางเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถือว่าให้โอกาสลูกคนหนึ่ง ส่วนเรื่องมุบมิบเงินค่าตัว ถ้านักมวยกล้ามาพูดต่อหน้าท่าน และสื่อมวลชนก็เชิญได้เลย และที่กล่าวหาว่า ติดค่ารถอะไรนั้น ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน แค่นี้ก็ถือว่าผิดคดีอาญาหมิ่นประมาทแล้ว แต่หาก บัวขาว ไม่มาตามนัด ผมคงต้องดำเนินการทางกฎหมาย นั่นหมายความว่า บัวขาว มีสิทธิ์ติดคุกและปรับเงินอีกไม่น้อย”
“สุดท้ายตอนนี้เรากำลังรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินการต่อสู้ในทุกเรื่อง แต่เราเชื่อว่า สิ่งที่ บัวขาว ให้สัมภาษณ์กับสื่อไปก่อนหน้านี้ อาจมีคนบงการอยู่เบื้องหลัง ผมได้หลักฐานบางอย่างมาแล้ว และทราบชื่อแล้วด้วยว่า มี นายธีรวัฒน์ ยิ้วยิ้ม ที่อ้างว่า เป็นผู้จัดการคนใหม่ อีกคนชื่อตู่ ณฐิกานต์ แสงจันทร์ ที่อ้างว่า ทำหน้าที่ประสานงาน รับงานต่างๆ แทนบัวขาว ซึ่งผมรู้มาอีกว่า ทั้งคู่ไปติดต่อให้ บัวขาว ชกที่กาตาร์ ระหว่างวันที่ 21-25 เมษายนนี้ ในชื่องานว่า “สมรักษ์ คำสิงห์ แอนด์ บัวขาว มวยไทย เซมินาส์” โดยเรียกร้องไปทางกาตาร์ว่าไม่ต้องเซ็นสัญญา ให้จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นค่าจ้าง 1.8 หมื่นเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 5.4 แสนบาท) การกระทำดังกล่าวถือว่าผิด พ.ร.บ.มวย อย่างยิ่ง ถ้าทั้งหมดเดินทางไปยังกาตาร์ในคืนนี้ตามที่ได้รับรายงานมาจริง ผมก็ต้องดำเนินการไปตามหน้าที่ต่อไป” ทนายวิวรรธน์ ทิ้งท้าย