“ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด พ่ายในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก เป็นนัดแรก หลังโดน ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส รองแชมป์จากเกาหลี บุกมายัดเยียดความปราชัยนัดแรกคาบ้าน 2-0 เมื่อช่วงค่ำวันพุธที่ 4 เมษายน ที่ผ่านมา
เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด (ไทย) 0-2 ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส (เกาหลีใต้)
เกมนัดที่สามของกลุ่มเอช “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จ่าฝูง เปิดรัง นิว-ไอโมบาย สเตเดียม ต้อนรับ ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส รองแชมป์ฤดูกาลก่อนจากเกาหลีใต้ แต่เป็นบ๊วยของตาราง เกมนี้ฝั่งเจ้าบ้านขนผู้เล่นตัวหลักลงครบครัน โดยมี จิรวัฒน์ มัครมย์ และ อัสการ์ จาดิเกรอฟ คุมแดนกลาง และมี แฟรงค์ โอแฮนด์ซา และ แฟรงค์ อาชีมปง ล่าตาข่าย ส่วนทีมเยือนอัดแดนกลางแน่น 5 คน โดยมี ลี ดอง กุ๊ก หัวหอกจอมเก๋าดีกรีทีมชาติเกาหลีใต้ เป็นทีเด็ดในแดนหน้า
เกมนี้ต้องเล่นกันท่ามกลางสายฝนที่ตกลงมาประปราย แต่ บุรีรัมย์ ยังทำได้ดีครองบอลไว้ได้เป็นส่วนใหญ่ แต่แล้วนาทีที่ 9 กลับโดนทีมเยือนกระตุกหนวดเสือ ลี ซัง ฮุน แทงออกขวาให้ ลี ดอง กุ๊ก เปิดบอลเข้ากลาง ก่อน ซัง ฮุน ยิงไปติดเซฟ ศิวรักษ์ ถึงสองครั้ง แต่สุดท้ายยังตวัดบอลเข้าประตูไปได้ส่งให้ชนบุค ขึ้นนำไปก่อน 1-0
นาทีที่ 10 บุรีรัมย์ ได้ฟรีคิกจังหวะ ชอย ชุล ซุน ทำฟาลว์ ใส่ ธีราทร ด้วยการยกเข่าไปโดนศีรษะ “เจ้าอุ้ม” และโดนใบเหลืองไปทั้งคู่ และจังหวะนั้นทีมก็เกือบตีเสมอได้นาทีที่ 13 จิรวัฒน์ เปิดฟรีคิกจากริมเส้นเข้ากลางให้ โอแฮนด์ซา วิ่งมาชาร์ต แต่ คิม มิน ซิค นายด่านของชนบุคยังรับไว้ได้ แต่จังหวะล้มกับพื้นได้รับบาดเจ็บที่มือ จนต้องปฐมพยาบาล ก่อนกลับมาเล่นได้อีกครั้ง
บุรีรัมย์ ทำเกมบุกขึ้นมาหลายครั้ง แต่ยังเจาะแนวรับชนบุคไม่ได้ ซึ่งนาที 30 เจ้าบ้านเกือบโดนยิงเพิ่ม ลี ดอง กุ๊ก จับบอลหน้าเขตโทษ ก่อนซัดบอลโด่งระยะไม่ถึง 3 หลา แต่บอลกระเด้งชนคานกลับเข้ามาในเขตโทษ โอลิเวียรา วิ่งมายิงซ้ำแต่บอลเหินข้ามคานออกไป แต่แล้วนาที 34 โซล ซังมิน กองกลางตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนลงมาแทน หลุยส์ เอ็นริเก ก็มายิงประตูให้ทีมนำอีกครั้ง จังหวะจับบอลหน้าเขตโทษพร้อมล็อกหลบ เอ็ควัลลา หนึ่งจังหวะ และซัดผ่านมือศิวรักษ์เข้าไปเป็น 2-0
ก่อนหมดครึ่งแรก ฮวง โบเวน กองกลางของทีม วิ่งมาเบียด จิรวัฒน์ ล้มลงในเขตโทษ แต่ นาวาฟ ชุคแรลลา ผู้ตัดสินในเกมนี้ปล่อยให้เป็นลูกเตะมุมเท่านั้น และ บุรีรัมย์ ก็ยังทำประตูไม่ได้ จบครึ่งแรก ชนบุค บุกมานำไปก่อน 2-0 เล่นเอาแฟนบอลเจ้าบ้านไม่พอใจพร้อมส่งเสียงโห่กดดันผู้ตัดสินจากบาห์เรนอย่างหนัก
ครึ่งหลัง “โค้ชแต๊ก” อรรถพล บุษปาคม กุนซือของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีการขยับเปลี่ยนตัวส่ง สุรัตน์ สุขะ ลงสนามแทน อภิเชษฐ์ พุฒตาล และหลังสิ้นเสียงนกหวีดกรรมการที่เป่าเริ่มเกมในครึ่งหลัง เจ้าบ้านบุกอย่างรวดเร็วและเกือบยิงตีไข่แตกได้ จิรวัฒน์ แทงทะลุช่องหน้าเขตโทษให้อาชีมปง วิ่งไปซัดติดมือ คิม มินซิค บอลลอยโด่งเกือบข้ามเส้นประตู แต่แนวรับชนบุค วิ่งมาโหม่งเคลียร์ทันเวลา นาที 48 ได้ลุ้นอีกรอบ จิรวัฒน์ วางโด่งเข้ากลางให้โอแฮนด์ซาโหม่งแต่ คิม มินซิค ยังรับได้
นาที 60 ประทุม โดนใบเหลืองเพิ่มอีกคนจากจังหวะทำฟาวล์ใส่ผู้เล่นของชนบุค ก่อนที่บุรีรัมย์ จะเปลี่ยนตัวเพิ่มส่ง สมเจตร สัตบุษ กองหน้าของทีมลงสนามแทน อัสการ์ จาดิเกรอฟ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่โดดเด่นเท่าที่ควร ซึ่งหลังจากนั้น เจ้าบ้านพับสนามบุกแหลกหมายยิงประตูแรกในเกมนี้ให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่คมพอ นาที 68 อาชีมปง เลี้ยงเดี่ยวมาถึงเขตโทษก่อนซัดด้วยซ้ายเต็มข้อ แต่บอลกลิ้งออกเสาสองไปนิดเดียว
“ปราสาทสายฟ้า” เกือบได้ประตูตีไข่แตกจากลูกฟรีคิกนาที 72 จิรวัฒน์ วางยาวเข้ามาถึงเขตโทษ และเป็นทาง โอแฮนด์ซา พุ่งมาสะบัดคอโหม่งแต่บอลเหินข้ามคานแบบเหลือเชื่อ ส่วนนาที 77 เจ้าบ้านเปลี่ยนตัวคนสุดท้ายส่งกองหน้าอย่าง สุริยา ดอมไทสง ลงสนามช่วง 13 นาทีสุดท้าย แทนที่ของ แฟรงค์ โอแฮนด์ซา ส่วน ชนบุค สวนกลับนาที 83 ลี ดอง กุ๊ก ยิงติดเซฟศิวรักษ์ ก่อนบอลกระดอนเข้าทาง ปาร์ค เซยิค วิ่งมาซัดโล่งๆ แต่ไลน์แมนยกธงเป็นลูกล้ำหน้าไปก่อน
ท้ายเกม บุรีรัมย์ ยังคงเดินเกมรุกใส่อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้ายไม่สามารถยิงประตูได้ จบเกม ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส บุกมานัดเยียดความปราชัยนัดแรกให้แก่ “ปราสาทสายฟ้า” 2-0 ส่งผลให้ทีมดังจากเกาหลีใต้ เก็บ 3 แต้มแรกในรายการนี้ได้สำเร็จ แต่รั้งบ๊วยเหมือนเดิม ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แม้แพ้คาบ้านแต่ยังรั้งจ่าฝูงที่ 6 คะแนน หลังคู่ที่จบก่อนหน้าอย่าง คาชิวา เรย์โซล เปิดบ้านเสมอกับ กวางโจว เอเวอร์แกรนด์ 0-0 มี 4 แต้มเท่ากัน
รายชื่อผู้เล่นทั้งสองทีม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน, ธีราทร บุญมาทัน, ประทุม ชูทอง, เฮอร์มัน เอ็ควัลลา, จักรพันธ์ แก้วพรหม, สุเชาว์ นุชนุ่ม, อภิเชษฐ์ พุฒตาล, จิรวัฒน์ มัครมย์, อัสการ์ จาดิเกรอฟ, แฟรค์ โอแฮนด์ซา, แฟรงค์ อาชีมปง
ชนบุค ฮุนได มอเตอร์ส : คิม มินซิค,คิม ซัง ซิค,คิม แจฮอน, ชอน ชุล ซูน, ปาร์ค วอนแจ, ฮวง โบเวน, จัง ฮุน, ลี ซัง ฮุน, เอ็นริเก ดา ซิลวา, เอนิโอ โอลิเวียรา จูเนียร์, ลี ดอง กุ๊ก