xs
xsm
sm
md
lg

จับตา 3 ทีมยักษ์ ไทย พรีเมียร์ ลีก 2012 / กษิติ กมลนาวิน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน

ผมว่า ฟุตบอล ไทย พรีเมียร์ ลีก ที่กำลังจะเปิดฤดูกาล 2012 ในวันที่ 17 มีนาคมนี้ มีอยู่ 3 ทีมเห็นๆคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชลบุรี เอฟซี และ เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่มีศักยภาพสูงและจะแย่งแช้มป์กันอย่างเฉียดฉิว คงไม่ทิ้งห่างเหมือนฤดูกาลที่ผ่านมา ในแต่ละนัด แต่ละสัปดาห์ ทั้ง 3 ทีมนี้คงก้าวพลาดให้เห็นน้อยมาก ส่วนทีมอื่นๆคงเป็นดาวบริวารที่วนเวียนอยู่แถวอันดับ 4 5 6 เท่านั้น

ทีมแรกคือ เมืองทอง ยูไนเต็ด แช้มป์ 2 สมัยซ้อน ฤดูกาล 2009 และ 2010 หลังจากกลุ่มคนไทยยึดอำนาจเบ็ดเสร็จกลับมาอยู่ในมือ ปล่อยให้ โรแบร โปรกูเรอร ( Robert Procureur ) ผู้จัดการทีมชาวเบลเจี้ยมผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกลต้องเคว้ง หมอนี่ขายหุ้นหมดพอร์ทคืนให้คุณระวิ โหลทอง ไปแล้ว และล่าสุดระเห็จตนเองไปอยู่กับ บีอีซี เทโร ศาสน ของ คุณบรายเอิ่น มาร์คาร์ ( Brian Marcar ) ทีมงานไทยซึ่งมั่นมากในเรื่องการตลาด ก็ด้วยมีสื่ออยู่ในมือช่วยประโคมข่าวทุกความเคลื่อนไหว จากแฟนบอลไม่กี่ร้อยคนเมื่อ 4-5 ปีก่อน ตอนนี้น่าจะเรือนแสน ทุกย่างก้าวไม่ลืมที่จะมองด้านธุรกิจ ทำให้ความมั่นใจดังกล่าวเลยเถิดไปถึงเรื่องเทคนิคด้วย

ปีนี้นับว่า เมืองทอง โชคดีอย่างยิ่งที่ ปูนใหญ่ ผิดหวังอย่างแรงต่อผลงานที่ต้องดิ้นรนหนีตกชั้นของ สมุทรสงคราม ซึ่งตนได้เลือกให้การสนับสนุน ปูน หักกับ สมุทรสงคราม ด้วยการตัดสินใจหันเข้าสวมกอดสโมสรยักษ์ใหญ่แห่งใหม่ที่มีศักยภาพเพียงพอที่จะนำยี่ห้อปูนไปประกาศศักดาในต่างประเทศ

ผมได้ยินมาว่าเงินสนับสนุนจากปูน 600 ล้านบาทในระยะเวลา 5 ปีที่ว่านั้น เอาแบบละเอียดก็คือ 450 ล้านบาทแน่ๆ แบ่งเป็นปีละ 90 ล้านบาท แต่ถ้าปีไหน กิเลนผยอง คว้าแช้มป์ได้ก็จะได้รับโบนัสอีก 10 ล้านบาท อันนี้ถ้าคิดคร่าวๆก็เป็น 5 ปี 500 บาท ในขณะที่อีก 120 ล้านบาทนั้น ปูนซื้อหุ้นสโมสรไปเลย 30 เพอร์เซ็นท์ แค่นี้หลายคนคงมองเห็นอนาคตได้ทันทีว่า แม้พ้นระยะ 5 ปีนี้ไปแล้ว ก็ยังการันตีแหล่งเงินทุนที่จะเป็นงบประมาณประจำปีของสโมสรได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อ ปูน เข้ามาเป็นเจ้าของทีมด้วยแล้วคงไม่ยอมให้ทีมแสดงผลงานแค่พระรองอย่างแน่นอน

เมื่อเรื่องเงินและเรื่องประชาสัมพันธ์ไร้ปัญหา คราวนี้มาดูเรื่องเทคนิคที่จะส่งผลให้ เพอร์ฟอร์เมิ่นซ์ หรือผลงานของทีมสุดยอด ผมว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหาก เมืองทอง ยังเกาะได้แค่รองๆเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นในระดับสโมสรเอเชียก็ไม่ได้เข้าไปเอี่ยวกับเขาด้วย ปูน คงรู้สึกกระสับกระส่ายเนื่องจากมันผิดจากที่ตั้งความหวังเอาไว้

หลังจากพลาดแช้มป์ลีกสูงสุด พลาดถ้วย เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ วืดหมดทุกรายการ เนื่องจาก เรอเน่ เดอซาแยร์ ( Rene Desaeyere ) โค้ชชาวเบลเจี้ยมที่ทำทีมปีก่อนดีอยู่แล้วมีอันต้องกระเด็น มี การโลส โรแบรโต ( Carlos Roberto de Carvalho ) โค้ชเห่ยๆตกยุคชาวบราซิวมาคั่นรายการแผล็บเดียว แล้วก็เป็นคิวของ เฮ็นริก กาลิชโต ( Henrique Calisto ) ซึ่งเข้ามาคุม เมืองทอง เป็นสโมสรที่ 21 ในรอบ 20 ปีของเขา ไม่เห็นมีใครเฉลียวใจได้ว่า ผลงานของหมอนี่คงไม่ได้เรื่องจึงอยู่ไม่ทนสักแห่ง ไม่รู้ใครไปขุดเอามาได้อย่างไร

ร็อบบี้ ฟาวเล่อร์ อดีตนักเตะทีมชาติอังกฤษเป็นโค้ชรายต่อไปที่ เมืองทอง มั่นใจในเรื่องการตลาด สร้างความฮือฮา ได้แน่นอน แต่ฝีมือการทำทีมก็ไม่เห็นได้เรื่อง ในที่สุดหมอนี่ตัดสินใจชิ่งหนีไปกินโรตีแล้ว เมื่อพลาดหมดทุกรายการ กิเลนผยอง มีการเปลี่ยนแปลงเจ้าหน้าที่ทีมแทบยกชุด ที่เห็นๆ อู๊ด สระราวุฒิ ตรีพันธ์ หลุดไปทำทีมเยาวชน และให้ อุทัย บุญเหมาะ ผู้ช่วยผู้ฝึกสอนอีกคนที่เป็นลูกหม้อของค่ายพี่วิ ขึ้นมาดูแลไปพลางๆก่อน ในขณะเดียวกันก็กำลังมองหาโค้ชฝีมือดีเข้ามากุมบังเหียน ซึ่งพี่วิ เคยบอกผมว่า ต้องใช้โค้ชต่างชาติเท่านั้น เพราะ ทีมกิเลน นั้นอุดมไปด้วยนักเตะดีกรีทีมชาติไทย พวกนี้พยศนักถ้าเจอโค้ชไทย ไม่มีใครอยากจะให้ความเชื่อถือ

ผมอยากบอกว่า ฤดูกาล 2012 เมืองทอง ยูไนเต็ด ก็ยังยิ่งใหญ่และมีโอกาสถึงแช้มป์ได้อย่างแน่นอน แต่ทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับการเลือกเฮ้ดโค้ช ซึ่งอันนี้ต่างหากที่ผมมองว่า ผู้บริหารของสโมสรยังขาดฝีมือ ทักษะในการเลือก เงินมาก ป่าวร้องเก่ง แต่เลือกกดรีโมทผิด ผลงานก็อาจไม่ออกมาดีตามที่ต้องการได้ เอาเป็นว่าปีนี้ผมให้ เมืองทอง จบที่อันดับ 3-5 นะครับ สัปดาห์หน้าว่ากันเรื่อง ชลบุรี เอฟซี ครับ
กำลังโหลดความคิดเห็น