“ซันเดย์ เดจาวู” วูดส์ ยังไม่คืนฟอร์ม

ASTVผู้จัดการรายวัน- ศึกกอล์ฟพีจีเอ ทัวร์ รายการ เอทีแอนด์ที เพ็บเบิล บีช เนชันแนล โปร-แอมณ สนาม เพ็บเบิล บีช กอล์ฟ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 12 ก.พ. 55 ที่ผ่านมา เป็นการดวลวงสวิงรอบสุดท้าย ที่ขัล เคี่ยวกันระหว่างผู้นำวันที่สาม ชาร์ลี วี, ฟิล มิคเคลสัน และ ไทกอร์ วูดส์ ซึ่งการแข่งขันในวันสุดท้าย มิคเคสัน โชว์สวิงอันร้อนแรงทำอีเกิลพร้อมหกเบอร์ดี้แซงเอาชนะ ชาร์ลี วี คว้าแชมป์ไปครอง ส่วนไทเกอร์ วูดส์ นั้นหลังจากที่แฟนกอล์ฟลุ้นว่าจะเห็นอดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งโลกคว้าแชมป์ในรอบสองปี กลับมาตีเสียในวันสุดท้าย กลายเป็น “ซันเดย์ เดจาวู” ของเจ้าตัวดังเช่นที่เกิดขึ้นบนสนาม อาบู ดาบี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาทำให้เกิดการตั้งข้อสังเกตุว่า ความมั่นใจของ วูดส์ กลับคืนมาร้อนเปอร์เซนต์ อย่างที่เจ้าตัวเคยให้สัมภาษณ์หรือไม่

โดยการแข่งขันวันสุดท้ายของ กอล์ฟพีจีเอทัวร์บนสนาม เพ็บเบิลบีช กอล์ฟ นั้นเริ่มต้นวันด้วยผลงานสวิงอันร้อนแรงของ ฟิล มิคเคลสันที่ ออกรอบก๊วนเดียวกันไทเกอร์ วูดส์ โดยโปรสิงห์อีซ้ายทำอีเกิล หลุม 6 พาร์ 5 บวกกับ 6 เบอร์ดีและไม่เสียโบกีเลย จบวันด้วยสกอร์ 8 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมสี่วัน 17 อันเดอร์พาร์ เอาชนะ ชาร์ลี วี โปรเกาหลีใต้ซึ่งเก็บคะแนนเพิ่มไม่ได้ สกอร์รวม 15 อันเดอร์พาร์เท่าเดิม ขณะที่ วูดส์ พัตเตอร์ไม่ทำงานพลาดบางหลุมระยะไม่ถึง 6 ฟุต โดยจบวันตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์จากการทำ 2 เบอร์ดีแต่เสีย 5 โบกี สกอร์รวม 8 อันเดอร์พาร์ จบอันดับ 15 ร่วม พลาดคว้าแชมป์พีจีเอ ทัวร์ อย่างเป็นทางการรายการแรกในรอบกว่า 2 ปี

โดย มิคเคลสัน โปรวัย 41 ปี คว้าแชมป์รายการ เอทีแอนด์ที เพ็บเบิล บีช เนชันแนล โปร-แอม เป็นสมัยที่ 4 ต่อจากปี 1998 2005 และ 2007 โดยเป็นแชมป์พีจีเอรายการที่ 40 ในชีวิต แต่เป็นรายการแรกนับแต่ศึกฮุสตัน โอเพน เมื่อเดือนเมษายนปีที่แล้ว พร้อมรับเงินรางวัลชนะเลิศ 1.15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 35 ล้านบาท)

ส่วนไทเกอร์ วูดส์ นั้นให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขันถึงลูกพัตต์ที่เป็นปัญหาในวันสุดท้ายว่า “ผมได้พยายามทุกวิถีทางแล้วในการแข่งขันที่ผ่านมา แต่ดูเหมือนว่าทุกอย่างจะไม่ประสบผลสำเร็จ ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่ผมต้องทำในการแข่งขันวันสุดท้ายคือการเริ่มต้นที่ดีแต่วันนี้ผมเล่นลูกพัตต์ได้แย่มาก

ทั้งนี้ผลงานของวูดส์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้นเจ้าตัวพัตต์พลาดถึงสองชอต และ ทำให้เกิดสามโบกี้ติดต่อกันถึงสามครั้ง ซึ่งทั้งหมดนั้นได้ทำลายโอกาสที่เจ้าตัวจะคว้าแชมป์รายการนี้ไปทั้งหมด และเป็นการปิดโอกาสของตนเองในรอบ 29 เดือนนับตั้งแต่อดีตโปรหมายเลขหนึ่งรายนี้คว้าแชมป์เมเจอร์ล่าสุดที่ทอร์เรย์ ไพนส์ ซึ่งการแข่งขันต่อจากรายการนี้จะมีขึ้นที่ ลอสแองเจลลิส ก่อนที่จะถึงเมเจอร์แรกของปีที่ออกัสต้า นั่นหมายถึงโอกาสที่วูดส์ ต้องเรียกความมั่นใจของตนเองคืนมาให้เร็วที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำผลงานในวันสุดท้ายที่เจ้าตัว ยังคงติดปัญหาเดิมติดต่อกันถึงสองรายการ ซึ่งกลายเป็นเหตุการณ์ “เดจาวู” ที่วูดส์ ต้องเอาชนะใจตนเองให้ได้ หากเจ้าตัวยังหวังจะกลับมาเป็นโปรหมายเลขหนึ่งโลก และไล่ตามสถิติ18 เมเจอร์อันเป็นตำนานของ แจ๊ค นิกคลอส ตามที่เจ้าตัวเคยตั้งความหวังเอาไว้