เธียร์รี อองรี ลงสนามเป็นตัวสำรองยิงประตูปิดท้าย หลังจาก โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซัดแฮตทริกจนทำให้ อาร์เซนอล เปิดบ้านถล่มเอาชนะ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ซึ่งเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ครึ่งแรก เละเทะ 7-1 ในเกมพรีเมียร์ชิป อังกฤษ คู่แรกคืนวันเสาร์ที่ 4 ก.พ. 2555
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
อาร์เซนอล 7 - 1 แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส
อาร์เซนอล ทีมอันดับ 7 มี 37 คะแนนจากการเล่น 23 นัด เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับมือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ทีมอันดับ 18 มี 18 คะแนน 23 นัด โดยเจ้าถิ่นผลงานไม่ดีแพ้ 3 และเสมอ 1 จากสี่นัดหลังสุดในเกมลีกจึงต้องพยายามเก็บชัยชนะให้ได้ในเกมนี้ โดยทีมยังมีปัญหาแนวรับที่ยังต้องขยับ โธมัส แฟร์มาเลน ยืนฟูลแบ็ก แต่เกมรุกเต็มสูบ อเล็กซ์ ออกซ์แลด-แชมเบอร์เลน และ ธีโอ วัลคอตต์ ทำเกมริมเส้นซ้าย-ขวา โรบิน ฟาน เพอร์ซี ยืนหน้าเป้า ขณะที่ เธียร์รี อองรี ตำนานชาวฝรั่งเศส เป็นตัวสำรอง ทางฝั่งทีมเยือนเน้นเกมรับเป็นพิเศษวาง แอนโธนีย์ โมเดสเต ยืนเป็นกองหน้าตัวเดียว โดยมี เดวิด ฮอยเลตต์ และ เดวิด ดันน์ คอยสนับสนุน
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึง 2 นาที อาร์เซนอล ทำประตูออกนำ 1-0 อย่างรวดเร็ว วัลคอตต์ ได้บอลหลุดเข้าเขตโทษจนถึงเส้นหลัง ก่อนตบไปทางเสาสอง ฟาน เพอร์ซี ชาร์จจ่อๆไม่เหลือซาก หลังจากนั้นก็เป็นเจ้าถิ่นขึงเกมบุกใส่ตลอด ในนาที 22 โทมัส โรซิชกี ส่องไกลจากนอกเขตโทษ บอลหลุดเสาสองนิดเดียว
ทีมของ อาร์แซน เวนเกอร์ บุกหนัก แต่ยังบวกสกอร์เพิ่มไม่ได้ กระทั่งเกมผ่านมาถึงนาที 31 จึงถูก แบล็คเบิร์น ลงโทษ ทีมเยือนมีลุ้นครั้งแรกของเกมจากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลา มอร์เทน กัมสท์ พีเดอร์เซน ปั่นด้วยขวา บอลโค้งเสียบมุมสามเหลี่ยม วอจเชียช เซสนีย์ นายด่านเลือดโปลพุ่งปัดได้แค่ปลายมือทำให้สกอร์กลับมาเท่ากัน 1-1
หลังถูกตามตีเสมอ อาร์เซนอล ก็เดินเกมบุกต่อผ่านมาถึงนาที 37 อเล็กซ์ ซง แทงบอลเข้าเขตโทษให้ วัลคอตต์ หลุดไปถึงเส้นหลังคล้ายกับจังหวะที่ได้ประตูแรก ปีกติดจรวดทีมชาติอังกฤษ ก็ตบกลับมาให้ ฟาน เพอร์ซี ชาร์จเสาแรกซุกก้นตาข่ายให้เจ้าบ้านพลิกนำอีกครั้ง 2-1
อีกสองนาทีถัดมาคราวนี้จากจังหวะประสานงานของ วัลคอตต์ และ ฟาน เพอร์ซี บริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนที่หัวหอกชาวดัตช์จ่ายบอลให้ แชมเบอร์เลน หลุดเข้าเขตโทษ ก่อนแตะหนี พอล โรบินสัน นายด่านทีมเยือนแล้วซัดบอลเข้าประตูโล่งๆให้ ปืนโต หนีห่าง 3-1
สถานการณ์ของ กุหลาบไฟ ยิ่งย่ำแย่อีกเมื่อต้องเหลือผู้เล่นแค่ 10 คนในนาที 43 เมื่อ กาแอล ชีเวต์ พุ่งเสียบสองเท้าใส่ ฟาน เพอร์ซี หน้าเขตโทษตัวเองจนทำให้ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม ช่วงเวลาที่เหลือไม่มีการทำประตูกันอีกจบครึ่งแรกด้วยการที่ อาร์เซนอล ถือความได้เปรียบอย่างมาก
เกมครึ่งหลัง กันเนอร์ส ลงสนามมาบุกต่อ ผ่านมาถึงนาที 51 ก็ทะยานหนี 4-1 จากจังหวะเตะมุม ฟาน เพอร์ซี เปิดบอลจากมุมธงเข้าเขตโทษ กองหลังทีมเยือนโหม่งเคลียร์ไม่ดีมาเข้าทาง อาร์เตตา ซัดจากนอกเขตโทษเข้าไป อีก 3 นาทีถัดมา วัลคอตต์ ได้บอลขึ้นมาทางกราบขวาอีกครั้ง ก่อนเลี้ยงฝ่ากองหลังเข้าไปในเขตโทษ แต่ยิงไม่ได้จึงจ่ายไปให้ แชมเบอร์เลน แต่งหนึ่งจังหวะ ก่อนซัดเข้าเสาแรกให้ อาร์เซนอล นำห่าง 5-1
ฟาน เพอร์ซี มาทำแฮตทริกของตัวเองได้สำเร็จในนาที 62 หลังตวัดยิงด้วยขวาในกรอบเขตโทษจากลูกเปิดของ ฟรานซิส โคกูแลง ที่เติมเกมขึ้นมาทางริมเส้นด้านขวาจนเจ้าถิ่นหนี 6-1 ด้าน แบล็คเบิร์น ดูเหมือนถอดใจทำเกมบุกไม่ขึ้นเลย ขณะที่ อาร์เซนอล เริ่มเปลี่ยนตัวผู้เล่นส่ง อองรี และ บาการี ซานญา ลงสนามมาแทน แชมเบอร์เลน และ โลรองต์ กอสเซียลนีย์ ตามลำดับ
ทีมของ เวนเกอร์ ประคองเกมเพื่อรอให้เวลาหมดไปจนทำท่าจะไม่มีประตูเพิ่มอีก แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อองรี โชว์ทีเด็ดประสานงานกับ ฟาน เพอร์ซี ก่อนที่หัวหอกเลือดน้ำหอมซัดฝังชัยชนะให้ อาร์เซนอล ถล่มเอาชนะไป 7-1 เก็มสามคะแนนเต็มเมื่อจบเกม
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
อาร์เซนอล - วอจเชียช เซสนีย์, โลรองต์ คอสเซียลนีย์, แพร์ แมร์เตซัคเกอร์, โธมัส แฟร์มาเลน, ฟรานซิส โคกูแลง, มิเกล อาร์เตตา, อเล็กซ์ ซง, อเล็กซ์ ออกซ์แลด-แชมเบอร์เลน, ธีโอ วัลคอตต์, โรบิน ฟาน เพอร์ซี, โทมัส โรซิชกี
แบล็คเบิร์น - พอล โรบินสัน, กาแอล ชีเวต์, สกอตต์ แดนน์, มาร์ติน โอลส์สัน, เจสัน โลว์, สตีเวน เอ็นซูซี, ราโดซาฟ เปโตรวิช, เดวิด ฮอยเลตต์, มอร์เตน กัมสท์ พีเดอร์เซน, แอนโธนีย์ โมเดสเต, เดวิด ดันน์