พอล สโคลส์ ซัดประตูเบิกร่องก่อนที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ถล่มเอาชนะ โบลตัน วันเดอเรอร์ แบบไม่ยากเย็น 3-0 พร้อมทำคะแนนเท่าจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ซิตี ในเกมพรีเมียร์ชิปอังกฤษ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 14 ม.ค. 2555 ขณะที่ เชลซี เฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ส่วน ลิเวอร์พูล และ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทำได้เพียงเสมอ
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ
แมนฯ ยูไนเต็ด 3 - 0 โบลตัน วันเดอเรอร์
แมนฯ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับมือ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ถ้าหากเก็บสามคะแนนเต็มสำเร็จ "ผีแดง" ก็จะทำคะแนนเท่ากับทีมนำ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เพื่อนร่วมเมืองที่จะลงเตะในคืนวันจันทร์ที่ 16 ม.ค. สำหรับสภาพทีมเจ้าถิ่น เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจส่ง พอล สโคลส์ มิดฟิลด์ตัวเก๋าที่รีเทิร์นกลับมาจากการแขวนสตั๊ดลงสนามเป็นตัวจริงเพื่อทำเกมตรงกลางร่วมกับ นานี และ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ส่วนคู่หน้า เวย์น รูนีย์ และ แดนนี เวลเบ็ก ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ทางฝั่งทีมเยือนของ โอเวน คอยล์ ก็ไม่มี แกรี เคฮิลล์ กองหลังตัวเก่งที่ย้ายไปร่วมทัพ เชลซี ทำให้แนวรับต้องหวังพึง แซท ไนท์ และ เดวิด วีเทอร์ รับมือเกมบุกของแชมป์เก่า
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึงนาที แมนฯ ยูไนเต็ด ทักทายก่อน นานี ลากบอลมาสับไกหน้าเขตโทษ บอลหลุดเสาสอง ต่อมานาที 4 ไมเคิล คาร์ริก แทงบอลจากริมเขตโทษด้านขวา เข้าเขตโทษให้ เวลเบ็ก ซัดด้วยซ้ายเต็มๆ แต่ถูก อดัม บ็อกดาน นายด่านทีมเยือนปัดทิ้งออกไป
เจ้าถิ่นทำเกมบุกต่อ ในนาที 16 รูนีย์ ประสานงานกับ เวลเบ็ก ก่อนจะได้บอลคืนมาแล้ววางเท้ายิงหน้าเขตโทษ บอลแฉลบกองหลังได้เพียงเตะมุม อีก 4 นาทีถัดมา เวลเบ็ก ได้บอลแตะเข้าไปในเขตโทษทีมเยือน ก่อนถูก แซท ไนท์ ชนล้มลงจน ผีแดง ได้ลูกจุดโทษ แต่ รูนีย์ สังหารไปติดเซฟของ บ็อกดาน ทำให้เจ้าถิ่นยังทำประตูขึ้นนำไม่ได้
ขณะที่ โบลตัน ยังหาจังหวะบุกขึ้นมาลุ้นประตูแบบชัดเจนไม่ได้ แต่แนวรับของทีมก็ช่วยกันดีจนทำให้เกมบุกของ แมนฯ ยูไนเต็ด อึดอัดเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ต้านไม่อยู่เมื่อเกมเข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บครึ่งแรก นานี ทำชิ่งกับ รูนีย์ จนหลุดขึ้นมาทางขวา ปีกโปรตุกีสพยายามเปิดเข้ากลาง บอลติดกองหลัง แต่มาเข้าทาง รูนีย์ ตวัดไปทางเสาสอง บอลเลยมาถึง สโคลส์ ซัดเรียดผ่านมือ บ็อกดาน ซุกก้นตาข่ายทำให้เจ้าถิ่นนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังก็ยังเป็น แมนฯ ยูไนเต็ด ที่ครองเกมบุกอย่างต่อเนื่อง ในนาที 56 รูนีย์ ประสานงานกับ เวลเบ็ก จนได้ยิงหน้าเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายวางเท้าไม่ถนัดซัดบอลเรียดหลุดเสาออกไป ต่อมานาที 61 วาเลนเซีย ใช้ความสามารถเฉพาะตัว กระชากบอลแหวกแนวรับเข้าไปในเขตโทษ ก่อนผ่านเรียดมาหน้าประตู รูนีย์ ตามมาชาร์จเสาสองโล่งๆ แต่บอลหลุดเสาแบบไม่น่าเชื่อ
โบลตัน มีโอกานลุ้นแบบจะแจ้งเป็นครั้งแรกในนาที 69 เกรตาร์ ราฟน์ สไตน์สัน โหม่งบอลย้อยๆจากลูกเตะมุมกำลังจะมุดเข้าประตูของเจ้าถิ่น แต่ ราฟาเอล ยืนอยู่บนเส้นสกัดทิ้งออกไปหวุดหวิดช่วยให้ ผีแดง ยังรักษาสกอร์นำไว้ได้ ต่อมา เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ก็ตัดสินเปลี่ยนเอา สโคลส์ และ วาเลนเซีย ออกแล้วให้ ไรอัน กิ๊กส์ และ ปาร์ก จี ซอง ลงสนามแทน
เกมผ่านมาถึงนาที 74 แมนฯ ยูไนเต็ด ก็คลายความกดดันได้สำเร็จด้วยการทำประตูหนีห่าง 2-0 จากจังหวะที่ รูนีย์ จ่ายบอลให้ เวลเบ็ก หลุดกับดักล้ำหน้าเข้าไปจิ้มบอลผ่านตัว บ็อกดาน โดยจังหวะนี้ เวลเบ็ก ก็ได้รับอาการบาดเจ็บด้วยจึงถูกเปลี่ยนตัวออก ฮาเวียร์ "ชิชาริโต" เฮร์นานเดซ ลงสนามมาแทน
เจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมผ่านมาถึงนาที 83 ก็ขยับหนี 3-0 กิ๊กส์ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนไหลมาให้ คาร์ริก แตะมาปั่นไซด์ด้วยซ้าย บอลโค้งหนีมือ บ็อกดาน เบียดโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วงเวลาที่เหลือ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็รักษาสกอร์นำห่างจนจบเกม 90 นาทีเป็นฝ่ายเอาชนะไป โดย แมนฯ ยูไนเต็ด เก็บสามคะแนนเต็มมีเพิ่ม 48 แต้มเท่ากับจ่าฝูง แมนฯ ซิตี ซึ่งจะลงเตะกับ วีแกน แอธเลติก ในคืนวันจันทร์ที่ 16 ม.ค.
สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นที่น่าสนใจ แฟรงค์ แลมพาร์ด ซ้ำลูกวอลเลย์ของ เฟร์นานโด ตอร์เรส ในนาที 13 เป็นประตูชัยให้ เชลซี เปิดรังเฉือนชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0 ขณะที่ ลิเวอร์พูล ทำได้น่าผิดหวังเสมอ สโต๊ค ซิตี แบบไร้สกอร์ 0-0 ที่สนามแอนฟิลด์ ส่วน ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ก็พลาดโอกาสทำแต้มเท่ากับสองทีมนำ เมื่อเสมอกับ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 1-1
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด - อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, จอนนี อีแวนส์, ปาทริซ เอฟรา, ราฟาเอล, พอล สโคลส์, ไมเคิล คาร์ริก, นานี, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ก
โบลตัน - อดัม บ็อกดาน, แซท ไนท์, เดวิด วีเทอร์, ซามูเอล ริเกตต์ส, เกรตาร์ ราฟน์ สไตน์สัน, ฟาบริซ มูอัมบา, ไนเจล รีโอ-โคเกอร์, มาร์ติน เปตรอฟ, คริส อีเกิลส์, ดาวิด เอ็นก็อก, มาร์ก เดวีส์
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ชิป อังกฤษ ประจำวันที่ 14 ม.ค.2555
แอสตัน วิลลา เสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1
[1-0 : ดาร์เรน เบนท์ น.56], [1-1 : วิคเตอร์ อนิเชเบ น.69]
แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ชนะ ฟูแลม 3-1
[1-0 : มอร์เทน กัมส์ท พีเดอร์เซน น.45+4], [2-0 : เดวิด ดันน์ น.45], [2-1 : ดาเมียน ดัฟฟ์ น.56], [3-1 : เมาโร ฟอร์มิกา น.78]
เชลซี ชนะ ซันเดอร์แลนด์ 1-0
[1-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.13]
ลิเวอร์พูล เสมอ สโต๊ค ซิตี 0-0
แมนฯ ยูไนเต็ด ชนะ โบลตัน 3-0
[1-0 : พอล สโคลส์ น.45+1], [2-0 : แดนนี เวลเบ็ก น.74], [3-0 : ไมเคิล คาร์ริก น.83]
ทอตแนม ฮอตสเปอร์ เสมอ วูล์ฟแฮมป์ตัน 1-1
[0-1 : สตีเวน เฟลทเชอร์ น.21], [1-1 : ลูกา โมดริช น.51]
เวสต์บรอมวิช แพ้ นอริช ซิตี 1-2
[0-1 : แอนดรูว์ ซูร์แมน น.42], [1-1 : เชน ลอง ลูกจุดโทษ น.68], [1-2 : สตีฟ มอริสัน น.78]