xs
xsm
sm
md
lg

ผีเฉือนเรือ 10 ตัวหวิว 3-2 ลิ่วเอฟเอ คัพ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

รูนีย์ โหม่งซ้ำลูกจุดโทษให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 3-0 ในครึ่งแรก
"ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ล้างแค้นเอาชนะ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี แชมป์เก่าและคู่อริร่วมเมือง ซึ่งเหลือผู้เล่น 10 คนตั้งแต่ต้นครึ่งแรกไปแบบหวุดหวิด 3-2 จนผ่านเข้าสู่รอบต่อไป ในศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 ม.ค.2555

ผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ
แมนฯ ซิตี 2 - 3 แมนฯ ยูไนเต็ด

เกมฟาดแข้งของสองทีมนำบนตารางลีกเมืองผู้ดีและคู่อริร่วมเมือง "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดสนามอิทิฮัด สเตเดียม รับมือ "ผีแดง" แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โดยเกมนี้เจ้าถิ่นพัก โจฮาร์ท นายด่านตัวจริงให้ คอสเทล พานทิลิมอน ลงเฝ้าเสาแทน นอกจากนี้ทีมยังมีปัญหาผู้เล่นกองหน้าที่ มาริโอ บาโลเตลลี และ เอดิน เชโก บาดเจ็บทำให้ เซร์คิโอ อกูเอโร ลงมายืนหน้าเป้าพร้อมมี ดาบิด ซิลบา และ อดัม จอห์นสัน คอยสนับสนุนทางริมเส้น ทางฝั่งทีมเยือนซึ่งประสบปัญหาฟอร์มการเล่นแพ้ในเกมลีก 2 นัดหลังสุดวาง เวย์น รูนีย์ และ แดนนี เวลเบ็ก ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน พร้อมกับมี พอล สโคลส์ ตำนานมิดฟิลด์ซึ่งเลิกแขวนสตั๊ดกลับมาช่วยทีมอีกครั้งนั่งเป็นสำรอง

เปิดฉากครึ่งแรก แมนฯ ซิตี เป็นฝ่ายครองบอลทำเกมบุกดีกว่า แต่ยังหาจังหวะยิงแบบเน้นๆไม่ได้ กระทั่งนาที 10 แมนฯ ยูไนเต็ด บุกขึ้นมาเป็นครั้งแรก รูนีย์ จ่ายบอลไปทางกราบขวาให้ อันโตนิโอ วาเลนเซีย ก่อนที่ปีกชาวเอกวาดอร์วางบอลเข้ามาลุ้นในกรอบเขตโทษ รูนีย์ ขึ้นโหม่งไม่ถนัด แต่กลายเป็นดีบอลเสียบใต้คานหมดสิทธิ์ที่ พานทิลิมอน จะป้องกันทำให้ทีมเยือนขึ้นนำ 1-0

อีก 2 นาทีถัดมา สถานการณ์ของเจ้าถิ่นยิ่งย่ำแย่เมื่อ แวงซองต์ กอมปานี ถูกใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังพุ่งเสียบสองเท้าใส่ นานี แม้ว่าไม่โดนตัวปีกชาวโปรตุกีส แต่ คริส ฟอย กรรมการมองว่าเข้าบอลอันตราย ต่อมานาที 14 อกูเอโร มีโอกาสสับไกยิงจากนอกเขตโทษให้ อันเดอร์ส ลินเดการ์ด นายทวารทีมเยือนต้องออกแรงพุ่งปัดบอลทิ้งไป

ผีแดง เริ่มควบคุมเกมได้ทั้งหมด ขณะที่ เรือใบสีฟ้า ทำได้เพียงรอจังหวะโต้กลับ แต่เกมมาถึงนาที 27 ริโอ เฟอร์ดินานด์ จ่ายบอลพลาดบริเวณหน้าเขตโทษตัวเอง บอลไปเข้าทาง อกูเอโร แตะเข้าไปซัดมุมแคบในกรอบ 18 หลา บอลเข้าข้างตาข่าย กระทั่ง 3 นาทีถัดมา แมนฯ ยูไนเต็ด ก็ทำสกอร์หนี 2-0 นานี ได้บอลหน้าเขตโทษ ก่อนแทงบอลให้ ปาทริซ เอฟรา หลุดไปถึงเส้นหลัง ตบกลับเข้ากลาง บอลแฉลบผู้เล่นเจ้าถิ่นมาเข้าทาง เวลเบ็ก ตวัดยิงผ่านมือ พานทิลิมอน เสียบเสาสอง

แมนฯ ยูไนเต็ด พับสนามบุกฝั่งเดียว เกมมาถึงนาที 38 ไรอัน กิ๊กส์ จ่ายบอลเข้าเขตโทษให้ เวลเบ็ก พยายามแต่งบอลหาช่องยิง จนถูก อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ เสียบสกัดล้มลงได้จุดโทษ รูนีย์ รับหน้าที่สังหาร จังหวะแรกติดเซฟ พานทิลิมอน แต่กองหน้าทีมชาติอังกฤษโหม่งซ้ำดาบสองไม่เหลือทีมของเซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสันขึ้นนำ 3-0 ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เวลเบ็ก เกือบบวกเพิ่มอีกลูก แต่ชาร์จลูกเปิดของ วาเลนเซีย จ่อๆหน้าปากประตูหลุดเสาสอง หลังจากนั้นกรรมการเป่านกหวีดยาวจบเกมครึ่งแรก

เกมครึ่งหลัง แมนฯ ซิตี เปลี่ยนเอา ซิลบา และ จอห์นสัน ออกพร้อมส่ง พาโบล ซาบาเยตา และ สเตฟาน เซวิช ลงมาแทน โดยเกมผ่านมาเพียง 3 นาที เจ้าถิ่นมีความหวังเล็กๆเมื่อสามารถทำสกอร์ตีตื้นไล่มา 1-3 จากลูกฟรีคิกระยะ 20 หลาหน้าเขตโทษ หลังจาก ไมกาห์ ริชาร์ดส์ ถูกทำฟาวล์จาก เอฟรา และเป็น โคลารอฟ ปั่นด้วยซ้ายข้ามกำแพง ลินเดการ์ด พุ่งปัดไม่ทัน บอลเสียบเสาเข้าไป

เกมมาถึงนาที 59 พอล สโคลส์ ถูกเปลี่ยนตัวลงสนามมาแทนที่ นานี โดยแฟนๆผีแดงในสนามอิทิฮัด สเตเดียม ก็ปรบมือต้อนรับขวัญใจของพวกตน แต่หลังจากนั้น แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่อนเกมจนมาพลาดเสียอีกประตู เริ่มจากความผิดพลาดของ สโคลส์ จ่ายบอลสั้นบริเวณริมเส้นด้านขวาถูก เจมส์ มิลเนอร์ ฉกเอาบอลแตะไปถึงเส้นหลัง ก่อนที่ปีกทีมชาติอังกฤษเปิดบอลเข้ากลาง อกูเอโร ตวัดยิงติดขา ลินเดการ์ด แต่กองหน้าอาร์เจนไตน์ตามซ้ำไม่พลาดให้ เรือใบสีฟ้า ไล่มา 2-3

ทีมเยือนเริ่มเจอความกดดัน โดยเฉพาะในช่วง 15 นาทีสุดท้ายที่ถูก แมนฯ ซิตี ทำเกมบุกใส่จนกองหลังปั่นป่วน ทีมของ โรแบร์โต มันชินี เกือบมาตามตีเสมอในช่วงทดเวลาบาดเจ็บจากลูกฟรีคิกนอกเขตโทษของ โคลารอฟ แต่โชคดี ลินเดการ์ด ป้องกันได้ สุดท้าย แมนฯ ยูไนเต็ด ยันอยู่จนจบเกมจึงเอาชนะไป 3-2 ผ่านเข้าสู่รอบสี่ได้สำเร็จ

สำหรับผลการแข่งขันอีก 3 คู่ของวันนี้ "สิงห์บลู" เชลซี ผ่านเข้ารอบสี่ต่อไปหลังจากถล่มเอาชนะ ปอร์ทสมัธ (เดอะแชมเปียนชิป) 4-0 เช่นเดียวกับ "แมวดำ" ซันเดอร์แลนด์ บุกเข่น ปีเตอร์โบโร (เดอะแชมเปียนชิป) 2-0 ส่วน เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ (ลีกวัน) เฉือนชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด (เดอะแชมเปียนชิป) 1-0

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ซิตี - คอสเทล พานทิลิมอน, โจเลียน เลสคอตต์, แวงซองต์ กอมปานี, ไมกาห์ ริชาร์ดส์, อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ, ไนเจล เดอ ยอง, เจมส์ มิลเนอร์, ซาเมียร์ นาสรี, ดาบิด ซิลบา, อดัม จอห์นสัน, เซร์คิโอ อกูเอโร
แมนฯ ยูไนเต็ด - อันเดอร์ส ลินเดการ์ด, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, คริส สมอลลิง, ฟิล โจนส์, ไมเคิล คาร์ริก, ไรอัน กิ๊กส์, อันโตนิโอ วาเลนเซีย, นานี, เวย์น รูนีย์, แดนนี เวลเบ็ก

สรุปผลฟุตบอลเอฟเอ คัพ รอบสาม ประจำวันที่ 8 ม.ค.2555
แมนฯ ซิตี แพ้ แมนฯ ยูไนเต็ด 2-3
[0-1 : เวย์น รูนีย์ น.10], [0-2 : แดนนี เวลเบ็ก น.30], [0-3 : เวย์น รูนีย์ น.40], [1-3 : อเลกซานเดอร์ โคลารอฟ น.48], [2-3 : เซร์คิโอ อกูเอโร น.65]

เชลซี ชนะ ปอร์ทสมัธ 4-0
[1-0 : ฆวน มาตา น.48], [2-0 : รามิเรส น.84], [3-0 : รามิเรส น.86], [4-0 : แฟรงค์ แลมพาร์ด น.90+3]

เชฟฟิลด์ เวนส์เดย์ ชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 1-0
[1-0 : คริส โอเกรดี น.87]

ปีเตอร์โบโร แพ้ ซันเดอร์แลนด์ 0-2
[0-1 : เซบาสเตียน ลาสส์สัน น.48], [0-2 : เจมส์ แม็คคลีน น.58]
โจนส์ (ซ้าย) ดวลลูกกลางอากาศกับ ริชาร์ดส์
กอมปานี เจอใบแดงตั้งแต่ต้นเกม
โจนส์ (ซ้าย) เบียดแย่งบอลกับ อกูเอโร
วาเลนเซีย พยายามบังบอลจาก โคลารอฟ
กำลังโหลดความคิดเห็น