เอเยนซี - ขวบปีที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไทยถูกจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่เฉพาะแค่นักข่าวในประเทศเท่านั้นแต่ยังอยู่ในสายตาของสื่อมวลชนต่างประเทศอีกด้วย ซึ่ง โกล์ ดอท คอม (Goal.com) เว็บไซต์ลูกหนังชื่อดังก็ได้สรุปภาพรวมตลอดปี 2011 ว่าฟุตบอลไทยมีเหตุการณ์สำคัญใดบ้าง พร้อมทั้งความคาดหวังในสิ่งอยากเห็นสำหรับปี 2012 ซึ่งน่าสนใจว่า โกล์ เน้นไปที่การปรับเปลี่ยน “ทัศนคติ” ใหม่ของทุกภาคส่วนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน
ทีมชาติไทย
มุมมองของ โกล์ ดอท คอม ที่มีต่อทัพลูกหนัง “ช้างศึก” ประเมินว่ายังไม่ถึงในระดับที่ควรพอใจ โดยเรื่องที่น่าผิดหวัง คือ การไม่มีชื่อของทีมชาติไทยร่วมฟาดแข้งในรายการเอเชียน คัพ 2011 รอบสุดท้าย ที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ ยิ่งไปกว่านั้น ชุดอายุไม่เกิน 23 ปียังล้มเหลวแบบไม่เป็นท่าในฟุตบอลชายของมหกรรมกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 26 ที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งตกรอบแรกเป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันด้วยผลงานย่ำแย่แพ้ถึง 3 นัด ชนะแค่เกมเดียวเหนือ กัมพูชา ทั้งที่ก่อนหน้านี้เคยครองความยิ่งใหญ่ได้แชมป์ 8 สมัยติดต่อกัน แม้ทีมฟุตซอลทั้งชายและหญิงจะกวาดเหรียญทองมาได้ทั้งหมด แต่ดับเบิลแชมป์โต๊ะเล็กก็เทียบกันไม่ได้กับการชวดเหรียญทองของโต๊ะใหญ่
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางความมืดมิดยังคงมีแสงแห่งความหวังส่องประกายอยู่รำไรกับทีมชุดใหญ่ภายใต้การกุมบังเหียนของ วินฟรีด เชเฟอร์ กุนซือชาวเยอรมันผู้เข้ามากอบกู้ศรัทธาของแฟนลูกหนังชาวไทย ซึ่งสามารถยกมาตรฐานการเล่นของ “ช้างศึก” ได้ในช่วงเวลาสั้นๆ ทั้งที่นักเตะส่วนใหญ่ที่ติดธงแทบไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก
แต่ด้วยการจัดตัวผู้เล่นที่เหมาะกับสถานการณ์และเข้าใจแท็กติกรวมถึงการวางแผนของ “วินนี” ช่วยให้เวลานี้ยังมีลุ้นเข้ารอบ10 ทีมสุดท้ายในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย แม้ตลอด 5 เกมของกลุ่มดี จะชนะเพียงหนเดียว พ่ายไปถึง 3 นัด แต่ฟอร์มการเล่นที่ผ่านมากับ ออสเตรเลีย, โอมาน และ ซาอุดิอาระเบีย ทำให้เชื่อว่าโอกาสยังอยู่ในมือของทีมชาติไทย โดยมี ธีรศิลป์ แดงดา ดาวยิงตัวความหวังที่ซัดไปแล้ว 2 ลูกกับ สินทวีชัย หทัยรัตนกุล นายทวารซึ่งช่วยป้องกันประตูจังหวะยากๆ หลายครั้งเป็นกุญแจสำคัญ
สโมสร
ไทยพรีเมียร์ลีก ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องในแง่ของการแข่งขัน แต่สิ่งที่จะสร้างผลกระทบในระยะยาวคือการใช้โควตานักเตะต่างชาติที่แต่ละสโมสรลงทะเบียนได้ 7 คน ส่งลงไปอยู่ในสนามได้ 5 คน แม้จะช่วยให้แต่ละทีมมีศักยภาพโดยรวมสูงขึ้น แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการปิดโอกาสแจ้งเกิดของบรรดาแข้งดาวรุ่งที่ต้องการสัมผัสเกมเพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ทำให้ดูเหมือนว่า ไทยพรีเมียร์ลีก มองข้ามการพัฒนานักเตะจากระดับรากหญ้า
ส่วนปัญหาน้ำท่วมครั้งใหญ่ส่งผลให้โปรแกรมการแข่งขันทุกรายการเจอโรคเลื่อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่แม้ฤดูกาลยังไม่จบ บุรีรัมย์ พีอีเอ ก็ซิวถ้วยแชมป์ไปครองเรียบร้อยตั้งแต่เหลือเกมในมือถึง 4 นัด ขณะที่ถ้วยระดับทวีปเอเชียอย่าง เอเอฟซี คัพ ชลบุรี และ เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ต่างก็ฝากผลงานให้เป็นที่เชิดหน้าชูตาด้วยการคว้าแชมป์กลุ่ม ก่อนจะตกรอบ 8 ทีมสุดท้ายด้วยการพ่ายคู่ชิงชนะเลิศอย่าง นาซาฟ (แชมป์) และ คูเวต เอสซี
ผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปี
ชื่อของ ธีรศิลป์ แดงดา กลายเป็นหนึ่งในศูนย์หน้าจากทวีปเอเชียที่เนื้อหอมมากที่สุดในปีนี้ นอกจากตัวเลข 13 ประตูในไทยพรีเมียร์ลีก 2011 และ 2 ลูกในเวิลด์คัพ 2014 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย “มุ้ย” ยังแสดงให้เห็นว่ามีทักษะสามารถเอาตัวรอดได้แม้เล่นเป็นศูนย์หน้าคนเดียว รวมถึงความเร็วและความเฉียบคมในจังหวะจบสกอร์ ซึ่งในสายตาของ โกล ดอท คอม มองว่าหาก ทีมชาติไทย ไร้ดาวยิงวัย 23 ปีรายนี้ก็แทบจะหมดเขี้ยวเล็บโดยปริยาย
ช่วงเวลาประทับใจแห่งปี
เสี้ยววินาทีที่ ธีรศิลป์ แดงดา กระโดดแปบอลผ่านมือ มาร์ค ชวาร์เซอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่ายในนาทีที่ 15 ของนัดแรกในฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม กลุ่มดี ให้ ไทย บุกไปนำ ออสเตรเลีย 1-0 แม้สุดท้ายจะทำเซอร์ไพรส์ไม่สำเร็จด้วยการถูก ออสเตรเลีย แซงคว้าชัย 2-1 แต่สิ่งที่ “มุ้ย” และผองเพื่อนฝากไว้ คือ การปลุกพลังศรัทธาให้แฟนบอลไทยมีความหวังกับการเชียร์ทีมชาติไทยอย่างภาคภูมิใจที่แม้จะแพ้แต่ก็แพ้อย่างสมศักดิ์ศรี
ความคาดหวังต่อฟุตบอลไทยในปี 2012
ในส่วนของทีมชาติไทย เหลือเกมชี้ชะตาเข้ารอบ 10 ทีมสุดท้ายในเวิลด์คัพ รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ด้วยการบุกรัง โอมาน วันที่ 29 กุมภาพันธ์ ซึ่ง วินฟรีด เชเฟอร์ ยังมีเวลาเตรียมทีมด้วยการนำ “ช้างศึก” ลงเตะฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 41 ระหว่างวันที่ 15-21 มกราคม ซึ่งเชิญ เดนมาร์ก (แชมป์เก่า), นอร์เวย์ และ เกาหลีใต้ มาร่วมโม่แข้งด้วย แต่รายการที่จะประเมินผลงานของ “วินนี” จริงๆ อยู่ที่ศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ซึ่งสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ปักธงไว้ว่าต้อง “แชมป์” สถานเดียว
สำหรับ ไทยพรีเมียร์ลีก 2012 ซึ่งน่าจะรูดม่านเปิดฉากในเดือนมีนาคม โกล ดอท คอม สำรวจความคิดเห็นของบรรดาแฟนบอลแล้วส่วนใหญ่มองว่าวงการฟุตบอลต้องพัฒนาเรื่องความเป็นมืออาชีพในหลายๆ ด้าน ทั้งความมีน้ำใจเป็นนักกีฬา, การเคารพการทำหน้าที่ของผู้ตัดสิน, การเคารพกฎระเบียบการแข่งขัน ตลอดจนการจัดการของฝ่ายบริหาร เพื่อยกระดับให้วงการลูกหนังไทยเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
