สำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เตรียมรวบรวมเอกสารเรียกเงินคืนจาก จ.ชลบุรี หลังทำผิดข้อระเบียบกระทรวงมหาดไทยโดยการนำเงินท้องถิ่นสนับสนุนทีมฟุตบอลเชิงพาณิชย์ด้วยงบอุดหนุนปีละ 10 ล้านบาทขึ้นไป พร้อมเสนอเรื่องเข้าสู่ที่ประชุมกับคณะกรรมการกระจายอำนาจวันที่ 29 ธันวาคมนี้ เพื่อยกระดับการพัฒนาฟุตบอลระดับท้องถิ่น
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2554 พลเอกเกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา (กมธ.กีฬา ส.ว.) เป็นประธานการประชุมกมธ.กีฬา แทน "มาดามมล" นางนฤมล ศิริวัฒน์ ที่ติดภารกิจเดินทางไปประเทศเวียดนาม โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนการแข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ขององค์กรปกครองท้องถิ่น โดยมีตัวแทนของสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมที่ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2
โดยที่ประชุมได้เล็งเห็นเรื่องการบริหารจัดการเงินสนับสนุนของทีมสโมสรระดับท้องถิ่นเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ใดๆ ของสตง.หรือไม่ ซึ่งนางกฤติยากรณ์ เพ็ชรช่วย นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 ชี้แจงว่า "ขณะนี้เงินอุดหนุนของท้องถิ่นอยู่ในเกณฑ์ที่สูง และอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นมีอยู่ 1 ข้อสามารถเบิกจ่ายเงินได้ในส่วนของ "ส่งเสริมการกีฬา" ที่ปัจจุบันบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ขณะเดียวกันการบริหารจัดการเข้าข่ายเชิงพานิชย์อย่างเต็มตัว"
"ทั้งนี้หากนำเงินไปอุดหนุนด้านกีฬาอย่างฟุตบอลลีกต่างๆ ไม่สามารถทำได้ เพราะขัดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย อีกทั้งภาคท้องถิ่นส่วนใหญ่มักจะแจ้งต่อสตง.ว่าเป็นการเบิกจ่ายให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดแต่เอกสารกับไปเบิกจ่ายในนามของบริษัท...เอฟซี ซึ่งตามระเบียบของ สตง.ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ขณะเดียวกันหากหน่วยงานใดตั้งงบฯ ไปแล้วอยากให้มีการพิจารณาเบิกจ่ายกันใหม่อีกครั้ง"
ขณะที่นางดุษฏี จรดล นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 กล่าวเพิ่มเติมว่า "ที่ผ่านมาได้มีการเรียกเก็บเงินคืนแผ่นดินแล้ว 2 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา กับ ระยอง ซึ่งจากนี้ไปทางสตง.กำลังรวบรวมเอกสารเรียกเงินคืนกับจ.ชลบุรี หลังมีการใช้เงินอุดหนุนในด้านกีฬาสูงปีละ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยตรวจสอบในปี 2553 ทั้งนี้สตง.มองว่าเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล ซึ่งหากนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ น่าจะเป็นไปในทางที่ดีกว่า"
หลังการประชุม พลเอกเกษมศักด์ เผยว่า "จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและปรึกษากับคณะกรรมการกระจายอำนาจ กระทรวงมหาดไทยอีกครั้งในวันที่ 29 ธันวาคม 2554 เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้นำเงินท้องถิ่นไปใช้ได้ถูกต้องได้อย่างไร ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาฟุตบอลในระดับท้องถิ่นต่อไป"
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2554 พลเอกเกษมศักดิ์ ปลูกสวัสดิ์ รองประธานคณะกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา (กมธ.กีฬา ส.ว.) เป็นประธานการประชุมกมธ.กีฬา แทน "มาดามมล" นางนฤมล ศิริวัฒน์ ที่ติดภารกิจเดินทางไปประเทศเวียดนาม โดยมีวาระสำคัญคือการพิจารณาหลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินงบประมาณอุดหนุนการแข่งขันฟุตบอลอาชีพลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ขององค์กรปกครองท้องถิ่น โดยมีตัวแทนของสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมที่ห้องประชุม 309 อาคารรัฐสภา 2
โดยที่ประชุมได้เล็งเห็นเรื่องการบริหารจัดการเงินสนับสนุนของทีมสโมสรระดับท้องถิ่นเข้าข่ายผิดหลักเกณฑ์ใดๆ ของสตง.หรือไม่ ซึ่งนางกฤติยากรณ์ เพ็ชรช่วย นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 ชี้แจงว่า "ขณะนี้เงินอุดหนุนของท้องถิ่นอยู่ในเกณฑ์ที่สูง และอำนาจหน้าที่ของท้องถิ่นมีอยู่ 1 ข้อสามารถเบิกจ่ายเงินได้ในส่วนของ "ส่งเสริมการกีฬา" ที่ปัจจุบันบรรยากาศของการแข่งขันฟุตบอลเปลี่ยนไปจากเดิมมาก ขณะเดียวกันการบริหารจัดการเข้าข่ายเชิงพานิชย์อย่างเต็มตัว"
"ทั้งนี้หากนำเงินไปอุดหนุนด้านกีฬาอย่างฟุตบอลลีกต่างๆ ไม่สามารถทำได้ เพราะขัดระเบียบของกระทรวงมหาดไทย อีกทั้งภาคท้องถิ่นส่วนใหญ่มักจะแจ้งต่อสตง.ว่าเป็นการเบิกจ่ายให้กับสมาคมกีฬาจังหวัดแต่เอกสารกับไปเบิกจ่ายในนามของบริษัท...เอฟซี ซึ่งตามระเบียบของ สตง.ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ ขณะเดียวกันหากหน่วยงานใดตั้งงบฯ ไปแล้วอยากให้มีการพิจารณาเบิกจ่ายกันใหม่อีกครั้ง"
ขณะที่นางดุษฏี จรดล นักวิชาการตรวจเงินแผ่นดิน 8 กล่าวเพิ่มเติมว่า "ที่ผ่านมาได้มีการเรียกเก็บเงินคืนแผ่นดินแล้ว 2 จังหวัดคือ ฉะเชิงเทรา กับ ระยอง ซึ่งจากนี้ไปทางสตง.กำลังรวบรวมเอกสารเรียกเงินคืนกับจ.ชลบุรี หลังมีการใช้เงินอุดหนุนในด้านกีฬาสูงปีละ 10 ล้านบาทขึ้นไป โดยตรวจสอบในปี 2553 ทั้งนี้สตง.มองว่าเป็นการใช้เงินอย่างมหาศาล ซึ่งหากนำเงินส่วนนี้ไปพัฒนาด้านอื่นๆ น่าจะเป็นไปในทางที่ดีกว่า"
หลังการประชุม พลเอกเกษมศักด์ เผยว่า "จะนำเรื่องนี้เข้าที่ประชุมและปรึกษากับคณะกรรมการกระจายอำนาจ กระทรวงมหาดไทยอีกครั้งในวันที่ 29 ธันวาคม 2554 เพื่อปรับปรุงแก้ไขให้นำเงินท้องถิ่นไปใช้ได้ถูกต้องได้อย่างไร ทั้งนี้เพื่อเป็นการพัฒนาฟุตบอลในระดับท้องถิ่นต่อไป"
