“ช่างปั้นหม้อ” สโต๊ก ซิตี ยัดเหยียดความปราชัยนัดที่ 3 ของฤดูกาลให้แก่ “ไก่เดือยทอง” ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ หลังเปิดบ้านเฉือนชนะ 2-1 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม ที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
สโต๊ค ซิตี 2 - 1 ท็อตแนม ฮอตสเปอร์
สเปอร์ส ซึ่งไม่แพ้ใครในเกมลีก 11 นัดหลังสุด โดยเสมอเพียงนัดเดียวและปัจจุบันรั้งอันดับ 3 ของตาราง เดินทางบุกเยือน สโต๊ก ซิตี ที่สนามบริทเทนเนีย สเตเดียม เพื่อรักษาสถิติที่ยอดเยี่ยมไว้ต่อไป โดยเกมนี้สภาพทีมของ แฮร์รี เรดแนปป์ ก็เต็มร้อย ลูกา โมดริช ทำเกมตรงกลางสนามร่วมกับ สกอตต์ พาร์เกอร์ ขณะที่ แกเร็ธ เบล และ อารอน เลนนอน ลากเลื้อยทางริมเส้นคอยเปิดบอลให้คู่หัวหอก เอมมานูเอล อเดบายอร์ และ ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ขณะที่เจ้าถิ่นของ โทนี พูลิส วางสองกองหน้าร่างยักษ์อย่าง ปีเตอร์ เคราช์ และ โจนาธาน วอลเตอร์ส โจมตีกลางอากาศ
เปิดฉากครึ่งแรกไม่ถึงนาที สโต๊ก เกือบได้ประตูนำ ไรอัน ชอตตัน มือทุ่มอีกคนนอกเหนือจาก รอรีย์ ดีแลป ที่เป็นเพียงสำรองในเกมนี้ ทุ่มบอลไกลเข้ามาในเขตโทษ เบนัวต์ แอสซู-เอกอตโต โหม่งเคลียร์มาเข้าทาง แมทธิว เอเธอริงตัน ยิงทางเสาสองติดเซฟ แบรด ฟรีเดล
เจ้าถิ่นเป็นฝ่ายบุกกดดันอย่างหนักในช่วงแรก กระทั่งนาที 13 ก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จ ชอตตัน ได้บอลหลุดขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนเปิดเข้าไปลุ้นในเขตโทษ เคราช์ เก็บบอลได้ แต่ยิงไม่ถนัดจึงตวัดมาหน้าประตู เอเธอริงตัน วิ่งมาซัดไม่เหลือส่งบอลซุกก้นตาข่าย
หลังเสียประตู สเปอร์ส พยายามทำเกมบุกเพื่อทวงประตูคืน ในนาที 24 ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท ส่องจากนอกเขตโทษ แต่ไม่แรงพอ โธมัส โซเรนเซน นายด่านเจ้าถิ่นล้มตัวรับสบาย ต่อมานาที 31 โมดริช สับไกยิงจากระยะไกลให้นายด่านชาวเดนมาร์กต้องปัดทิ้งออกหลัง
ทีมเยือนมีโอกาสอีกครั้งในนาที 40 อเดบายอร์ ได้บอลบริเวณหน้าเขตโทษ ก่อนพลิกหนีกองหลังแล้วยิงด้วยขวาไปเข้ามือ โซเรนเซน เหมือนเดิม แต่ สโต๊ก ซึ่งเป็นฝ่ายตั้งรับส่วนใหญ่ก็มาทำประตูหนีห่าง 2-0 ในนาที 43 ชอตตัน ทุ่มไกลเข้าไปในเขตโทษ วอลเตอร์ส โหม่งเช็ดไปทางเสาสอง เอเธอริงตัน คนเดิมวิ่งมาแปบอลกระดอนพื้นเข้าประตู หลังจากนั้นจบเกม 45 นาทีแรก
เกมครึ่งหลัง ทีมของ เรดแนปป์ เดินหน้าบุกต่อ เซบาสเตียน บาสซง ตัวสำรองที่ลงมาแทน เอกอตโต ในครึ่งหลัง โหม่งบอลจากลูกเตะมุมในนาที 51 เหินข้ามคานนิดเดียว ต่อมานาที 60 ไคล์ วอล์คเกอร์ เปิดบอลจากกราบขวาเข้าไปในเขตโทษ กองหลัง สโต๊ค พลาดแล้ว แต่จังหวะสุดท้ายบอลถูก โจนาธาน วูดเกต กระดอนออกหลัง
กระทั่งนาที 61 โมดริช ถูกทำฟาวล์จาก เกลนน์ วีแลน ในกรอบเขตโทษทำให้ “ไก่เดือยทอง” ได้ลูกจุดโทษ และ อเดบายอร์ สังหารไม่พลาดให้ทีมเยือนไล่มา 1-2 สเปอร์ส โหมกดดันต่อในนาที 64 พาร์เกอร์ ลากบอลมาซัดหน้าเขตโทษให้ โซเรนเซน ต้องออกแรงพุ่งปัดออกหลัง
ต่อมานาที 74 โมดริช ปั่นไซด์ก้อยเข้าไปในกรอบเขตโทษ โซเรนเซน ออกมาตัดบอลพลาด บอลเลยไปทางเสาสอง ยูเนส กาบูล อัดเต็มข้อบอลพุ่งกำลังจะเข้าประตู แต่มี ไรอัน ชอว์ครอสส์ ยืนบล็อกเอาไว้บนเส้น โดยภาพช้าเห็นว่าบอลถูกแขน ชอว์ครอสส์ แต่กรรมการไม่ว่าอะไร
ผ่านมาถึงนาที 82 ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกม กาบูล ไปทำฟาวล์ วอลเตอร์ส ในจังหวะหลุดเดี่ยวจนถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงทำให้ สเปอร์ส เหลือผู้เล่น 10 คน ต่อมา สโต๊ก มีโอกาสทำประตูถึง 2 ครั้ง แต่ลูกโหม่งของ เคราช์ ถูกเซฟจาก ฟรีเดล และลูกโขกจาก ชอว์ครอสส์ ไปชนคาน สุดท้ายไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีกจบเกมด้วยชัยชนะของเจ้าถิ่น
สโต๊ก เก็บคะแนนเพิ่มเป็น 21 แต้ม ขึ้นมาอยู่ที่ 8 ของตาราง ส่วน สเปอร์ส มี 31 แต้มเท่าเดิม อยู่ที่ 3 แต่ยังมีเกมในมือ 1 นัด
รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
สโต๊ก ซิตี : โธมัส โซเรนเซน, โรเบิร์ต ฮุธ, ไรอัน ชอว์ครอสส์, มาร์ก วิลสัน, โจนาธาน วูดเกต, ดีน ไวท์เฮด, เกลนน์ วีแลน, แมทธิว เอเธอริงตัน, ไรอัน ชอตตัน, ปีเตอร์ เคราช์, โจนาธาน วอลเตอร์ส
สเปอร์ส : แบรด ฟรีเดล, วิลเลียม กัลลาส, ยูเนส กาบูล, เบนัวต์ แอสซู-เอกอตโต, ไคล์ วอล์คเกอร์, ลูกา โมดริช, สกอตต์ พาร์เกอร์, แกเร็ธ เบล, อารอน เลนนอน, เอมมานูเอล อเดบายอร์, ราฟาเอล ฟาน เดอร์ ฟาร์ท
