"บิ๊กกาเซ็ม" เกษม จริยวัฒน์วงศ์ โค้ชทีมชาติไทย พูดเป็นนัยวางมือหลีกทางให้คนอื่นที่มีความสามารถกว่า หลังจากทำทีมตกรอบแรก ซีเกมส์ ครั้งที่ 26 ณ ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันอาทิตย์ที่ 13 พฤศจิกายน 2554 ถือเป็นการตกรอบ 2 หนติดต่อกันไม่เหลือลายเจ้าลูกหนัง 13 สมัย
แข้งทีมชาติไทย ลงสนามนัดที่ 3 ของกลุ่ม เอ ก่อนหน้านี้มีเพียง 3 แต้มจากการแพ้ มาเลเซีย และชนะ กัมพูชา พบศึกหนักกับ อินโดนีเซีย ที่มี 6 แต้มจากการชนะรวด เกมนี้ทัพ "ช้างศึก" สามารถใช้งาน ธีราทร บุญมาทัน แบ็กซ้ายที่โดนใบแดงจากทีมชาติชุดใหญ่เกมฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก รอบ 3 โซนเอเชีย บุกพ่าย ซาอุดิ อาระเบีย 0-3 เนื่องจากเป็นการแข่งขันคนละรายการ
แต่ ธีราทร ยังไม่ตื่นจากฝันร้ายเมื่อโดนใบเหลืองที่ 2 เป็นใบแดงไล่ออกจากสนามหลังกางแขนไปบังทางวิ่งของ ไตตัส โบโน นาที 12 ถือเป็นการโดนไล่ออก 2 นัดรอบ 3 วัน จากนั้นเกมตกเป็นของ อินโดนีเซีย อย่างสิ้นเชิงนาที 33 ยิงขึ้นนำ 1-0 จาก ไบโน โหม่งลูกเปิดจากกราบขวาเข้าไป เปิดฉากครึ่งหลังมาได้ 5 นาที ไทย สร้างเซอร์ไพรส์ตีเสมอ 1-1 จากลูกจุดโทษของ รณชัย รังสิโย กัปตันทีมจังหวะ สารัช อยู่เย็น โดนทำฟาวล์ในกรอบเขตโทษ ทว่าดีใจได้ไม่นานเจ้าถิ่นนำอีกครั้งเป็น 2-1 จากลูกโขกของ พาทริช วางไก นาที 63
เกมมีจุดเปลี่ยนอีกครั้งนาที 75 เมื่อ ไทย เหลือ 9 คนจังหวะ เอกสิทธิ์ ฉาวบุตร ตัวสำรองไปเข้าบอลหนัก ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ อินโดนีเซีย ได้ประตูเพิ่มจากการโต้กลับ เฟอร์ดินัน ซินากา แปจ่อๆ เข้าไป จบเกม ไทย แพ้ 1-3 ตกรอบแรกแน่นอนแล้วถือเป็นหนที่ 2 ติดต่อกันเนื่องจาก 3 นัดมีแค่ 3 แต้มนัดสุดท้ายจะพบกับ สิงคโปร์ วันพฤหัสบดีที่ 17 พฤศจิกายนนี้ ส่วน อินโดนีเซีย ชัยชนะนัดนี้ทำให้มีเพิ่มเป็น 9 แต้มเข้ารอบรองชนะเลิศแล้ว
หลังเกม "บิ๊กกาเซม" เกษม กล่าวว่า "จุดเปลี่ยนคือใบแดงที่ได้เร็วเกินไปกรรมการก็ตัดสินใจแจกง่ายมาก ถ้าไม่เสียเปรียบเร็วผลคงไม่จบแบบนี้ แต่ไม่อยากอ้างว่าเป่าไม่เป็นธรรม นักเตะทุกคนเล่นเต็มความสามารถแต่ด้วยสถานการณ์บีบคั้นต้องเปิดเกมแลก ก่อนเกมย้ำกับทุกคนว่าต้องชนะและให้เชื่อมั่น แต่สุดท้ายเมื่อเป็นแบบนี้ผมก็ต้องขอโทษคนไทยทุกคนที่ทำให้ผิดหวัง"
"แต่ว่าผู้เช่นชุดนี้ยังเด็ก บางคนอาจยังนิ่งไม่พอในการควบคุมอารมณ์ แต่ว่าอีก 2 ปีบางคนที่ยังหนุ่มอาจจะกลับมาแก้ตัวที่พม่า ส่วนเกมสุดท้ายกับ สิงคโปร์ ถึงจะเคยแพ้ในเกมอุ่นเครื่อง 2-3 แต่ว่าเกมนั้นวัดอะไรไม่ได้ ยันไม่ปล่อยผ่านด้วยสปิริตขอกลับบ้านด้วยชัยชนะส่งท้ายเพื่อศักดิ์ศรีทีมชาติ จากนั้นคงหลีกทางให้คนที่มีไฟกว่ามาแทน" เกษม ทิ้งท้าย