หลุยส์ ซัวเรซ กองหน้า ลิเวอร์พูล ระเบิดฟอร์มยิงคนเดียวสี่ประตูช่วยให้ อุรุกวัย เปิดบ้านถล่มเอาชนะ ชิลี 4-0 ในศึกฟุตบอลโลก 2014 รอบคัดเลือก โซนอเมริกาใต้ เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา (12 พ.ย.) ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ อาร์เจนตินา ทำได้เพียงเสมอ โบลิเวีย 1-1
อุรุกวัย ซึ่งสองนัดที่ผ่านมาชนะ 1 เสมอ 1 มีอยู่ 4 แต้ม เปิดสนามเซนเทนาริโอ ในเมืองมอนเตวิเดโอ รับมือ ชิลี ซึ่งชนะ 1 แพ้ 1 นัดมี 3 แต้ม โดยเจ้าถิ่นสภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์วาง หลุยส์ ซัวเรซ และ เอดินสัน คาวานี กองหน้า นาโปลี ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ทางฝั่งทีมเยือนยังขาด อเล็กซิส ซานเชซ ปีกจาก บาร์เซโลนา และ อาร์ตูโร วิดัล กองกลาง ยูเวนตุส แต่มี เมาริซิโอ อิสลา มิดฟิลด์ อูดิเนเซ คอยคุมเกมตรงกลาง
ชิลี เริ่มต้นครึ่งแรกดีกว่าจนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 13 ฮุมแบร์โต ซัวโซ แทงบอลทะลุช่องให้ เอดูอาร์โด วาร์กาส หลุดเดี่ยว แต่ เฟร์นานโด มุสเลรา นายด่านเจ้าถิ่นออกมาเร็วบล็อกเอาไว้แบบหวุดหวิด หลังจากนั้น อุรุกวัย เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ ผ่านมาถึงนาที 17 ซัวเรซ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกองหลัง 2-3 คนเข้าไปในเขตโทษ ก่อนสับไกด้วยซ้าย บอลหลุดเสาสองนิดเดียว
อีก 2 นาทีถัดมา หัวหอกฟันกระต่ายปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลา เคลาดิโอ บราโว นายทวาร ชิลี หมดสิทธิ์ป้องกัน แต่น่าเสียดายบอลเช็ดคานออกหลัง ทีมเยือนตอบโต้กลับในนาที 22 พาโบล คอนเทรราส กองหลังเติมเกมมาโหม่งจากลูกเตะมุม บอลหลุดเสานิดเดียว
จากนั้นนาที 33 อุรุกวัย ได้ลูกเตะมุม ซัวเรซ วางบอลมาเข้าหัว ดีเอโก ลูกาโน โหม่งเต็มศีรษะ แต่ตรงตัว บราโว รับเข้าซอง อีก 3 นาทีถัดมา ซัวเรซ เปิดลูกเตะมุมอีกครั้ง คราวนี้โยนมาให้ ดีเอโก โกดิน โหม่งเช็ดไปเสาสอง กาสตัน รามิเรซ ตามมาชาร์จจ่อๆ แต่เหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ
เจ้าถิ่นบุกอย่างหนักจนในที่สุดก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จในนาที 42 ซัวเรซ ได้บอลมาจาก เอกิดิโอ อเรวาโล ก่อนเลี้ยงจี้ขึ้นมาหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก บราโว ออกมาตัดบอลพลาด บอลเข้าทาง คาวานี ยิงสวนเกือบจะเข้าประตู แต่ถูกกองหลังทีมเยือนเคลียร์บนเส้น อย่างไรก็ตาม ซัวเรซ โหม่งซ้ำดาบสอง อุรุกวัย นำ 2-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังยังเป็น อุรุกวัย ที่ครองเกมเหนือกว่า ในนาที 58 ซัวเรซ เปิดลูกฟรีคิกมาเข้าหัว คาวานี โหม่งเสยบอลกำลังจะเข้าสามเหลี่ยม แต่ บราโว เหินมาปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม ชิลี เกือบตีไข่แตกในนาที 64 แต่ลูกยิงของ มาเทียส คัมโปส กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าเสียก่อน
กระทั่งนาที 67 ซัวเรซ ทำแฮททริกของตัวเองในเกมนี้ หลังโหม่งบอลจากลูกเปิดของ อัลบาโร กอนซาเลซ ทางกราบขวาหมดสิทธิ์ที่ บราโว พุ่งปัดทันพร้อมทำให้เจ้าถิ่นหนีห่าง 3-0 อีก 6 นาทีถัดมา คาวานี แตะบอลยาวบริเวณหน้าเขตโทษ แต่บอลกระดอนมาเข้าทาง ซัวเรซ วิ่งมาอัดเต็มข้อซุกก้นตาข่ายอีกลูก อุรุกวัย ทะยานหนี 4-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีกจบเกมเจ้าบ้านจึงเอาชนะไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
อุรุกวัย เก็บอีก 3 คะแนนมีเพิ่ม 7 แต้มขยับขึ้นมาเป็นทีมนำของตารางคะแนนโซนอเมริกาใต้ พร้อมกับทิ้งห่าง 3 คะแนนจากอันดับสอง อาร์เจนตินา ที่ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ โบลิเวีย 1-1 โดย เอเซคีล ลาเวซซี ยิงประตูนาที 59 ช่วยให้ "ฟ้า-ขาว" ไล่ตามตีเสมอ หลังจากถูก โบลิเวีย ออกนำก่อนจากการซัลโวของ มาร์เซโล โมเรโน ในนาที 55
อุรุกวัย ซึ่งสองนัดที่ผ่านมาชนะ 1 เสมอ 1 มีอยู่ 4 แต้ม เปิดสนามเซนเทนาริโอ ในเมืองมอนเตวิเดโอ รับมือ ชิลี ซึ่งชนะ 1 แพ้ 1 นัดมี 3 แต้ม โดยเจ้าถิ่นสภาพทีมค่อนข้างสมบูรณ์วาง หลุยส์ ซัวเรซ และ เอดินสัน คาวานี กองหน้า นาโปลี ยืนล่าตาข่ายร่วมกัน ทางฝั่งทีมเยือนยังขาด อเล็กซิส ซานเชซ ปีกจาก บาร์เซโลนา และ อาร์ตูโร วิดัล กองกลาง ยูเวนตุส แต่มี เมาริซิโอ อิสลา มิดฟิลด์ อูดิเนเซ คอยคุมเกมตรงกลาง
ชิลี เริ่มต้นครึ่งแรกดีกว่าจนมีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 13 ฮุมแบร์โต ซัวโซ แทงบอลทะลุช่องให้ เอดูอาร์โด วาร์กาส หลุดเดี่ยว แต่ เฟร์นานโด มุสเลรา นายด่านเจ้าถิ่นออกมาเร็วบล็อกเอาไว้แบบหวุดหวิด หลังจากนั้น อุรุกวัย เริ่มตั้งเกมของตัวเองได้ ผ่านมาถึงนาที 17 ซัวเรซ ใช้ความสามารถเฉพาะตัวแหวกองหลัง 2-3 คนเข้าไปในเขตโทษ ก่อนสับไกด้วยซ้าย บอลหลุดเสาสองนิดเดียว
อีก 2 นาทีถัดมา หัวหอกฟันกระต่ายปั่นฟรีคิกระยะ 25 หลา เคลาดิโอ บราโว นายทวาร ชิลี หมดสิทธิ์ป้องกัน แต่น่าเสียดายบอลเช็ดคานออกหลัง ทีมเยือนตอบโต้กลับในนาที 22 พาโบล คอนเทรราส กองหลังเติมเกมมาโหม่งจากลูกเตะมุม บอลหลุดเสานิดเดียว
จากนั้นนาที 33 อุรุกวัย ได้ลูกเตะมุม ซัวเรซ วางบอลมาเข้าหัว ดีเอโก ลูกาโน โหม่งเต็มศีรษะ แต่ตรงตัว บราโว รับเข้าซอง อีก 3 นาทีถัดมา ซัวเรซ เปิดลูกเตะมุมอีกครั้ง คราวนี้โยนมาให้ ดีเอโก โกดิน โหม่งเช็ดไปเสาสอง กาสตัน รามิเรซ ตามมาชาร์จจ่อๆ แต่เหินข้ามคานแบบไม่น่าเชื่อ
เจ้าถิ่นบุกอย่างหนักจนในที่สุดก็ทำประตูออกนำ 1-0 ได้สำเร็จในนาที 42 ซัวเรซ ได้บอลมาจาก เอกิดิโอ อเรวาโล ก่อนเลี้ยงจี้ขึ้นมาหน้าเขตโทษแล้วซัดด้วยซ้าย บอลเสียบโคนเสาเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วงทดเจ็บของครึ่งแรก บราโว ออกมาตัดบอลพลาด บอลเข้าทาง คาวานี ยิงสวนเกือบจะเข้าประตู แต่ถูกกองหลังทีมเยือนเคลียร์บนเส้น อย่างไรก็ตาม ซัวเรซ โหม่งซ้ำดาบสอง อุรุกวัย นำ 2-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังยังเป็น อุรุกวัย ที่ครองเกมเหนือกว่า ในนาที 58 ซัวเรซ เปิดลูกฟรีคิกมาเข้าหัว คาวานี โหม่งเสยบอลกำลังจะเข้าสามเหลี่ยม แต่ บราโว เหินมาปัดทิ้งได้อย่างยอดเยี่ยม ชิลี เกือบตีไข่แตกในนาที 64 แต่ลูกยิงของ มาเทียส คัมโปส กลายเป็นจังหวะล้ำหน้าเสียก่อน
กระทั่งนาที 67 ซัวเรซ ทำแฮททริกของตัวเองในเกมนี้ หลังโหม่งบอลจากลูกเปิดของ อัลบาโร กอนซาเลซ ทางกราบขวาหมดสิทธิ์ที่ บราโว พุ่งปัดทันพร้อมทำให้เจ้าถิ่นหนีห่าง 3-0 อีก 6 นาทีถัดมา คาวานี แตะบอลยาวบริเวณหน้าเขตโทษ แต่บอลกระดอนมาเข้าทาง ซัวเรซ วิ่งมาอัดเต็มข้อซุกก้นตาข่ายอีกลูก อุรุกวัย ทะยานหนี 4-0 หลังจากนั้นไม่มีฝ่ายใดทำประตูเพิ่มอีกจบเกมเจ้าบ้านจึงเอาชนะไปด้วยสกอร์ดังกล่าว
อุรุกวัย เก็บอีก 3 คะแนนมีเพิ่ม 7 แต้มขยับขึ้นมาเป็นทีมนำของตารางคะแนนโซนอเมริกาใต้ พร้อมกับทิ้งห่าง 3 คะแนนจากอันดับสอง อาร์เจนตินา ที่ทำได้เพียงเปิดบ้านเสมอกับ โบลิเวีย 1-1 โดย เอเซคีล ลาเวซซี ยิงประตูนาที 59 ช่วยให้ "ฟ้า-ขาว" ไล่ตามตีเสมอ หลังจากถูก โบลิเวีย ออกนำก่อนจากการซัลโวของ มาร์เซโล โมเรโน ในนาที 55
