xs
xsm
sm
md
lg

สวนกระแสน้ำท่วม!! กิเลนต่อเวลายิงเป้าลิ่วFA

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ฟาวเลอร์ ลงล่าตาข่ายให้ เมืองทองฯ เต็มเวลา
เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด ต่อสู้กับ บางกอกกล๊าส อย่างโชกโชนจนถึงการต่ีอเวลาพิเศษตลอด 120 นาที ก่อนที่ "กิเลนผยอง" จะสังหารแม่นกว่าในการดวลจุดโทษ ผ่านเข้ารอบ 5 ของศึกไทยคม เอฟเอ คัพ ได้สำเร็จ ท่ามกลางภาวะน้ำท่วม


ฟุตบอลไทยคม เอฟเอ คัพ รอบ 4 วันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554
เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด (ไทยพรีเมียร์ลีก) 1-1 บางกอกกล๊าส (ไทยพรีเมียร์ลีก)
(ต่อเวลาพิเศษ ดวลจุดโทษ เมืองทองฯ ชนะ 5-4 สกอร์รวม 6-5)

คู่ใหญ่ประจำรอบ 4 ที่ลงเตะท่ามกลางวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในประเทศไทย เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด รองจ่าฝูงไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เปิดสนามยามาฮ่า สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของเพื่อนร่วมลีกในอันดับ 4 ของตารางอย่าง บางกอกกล๊าส เกมนี้เจ้าถิ่นมีผู้เล่นหลายรายที่เดี้ยงโดยเฉพาะ ธีรศิลป์ แดงดา (โคนขาหนีบ) และ ดัสกร ทองเหลา (ส้นเท้าซ้าย) สองนักเตะตัวหลักของทีมชาติไทย แต่แดนหน้ายังมี “เดอะ ก็อด” ร็อบบี ฟาวเลอร์ ผู้เล่น-โค้ช ตำนานนักเตะของ ลิเวอร์พูล ลงยืนเป็นหัวหอกตัวเป้า โดยที่ จักรพันธ์ พรใส กับ คริสเตียน คัวคู เป็นตัวสนับสนุนทางริมเส้นซ้าย-ขวา

ด้านผู้มาเยือนก็มีนักเตะบางส่วนที่ไม่สามารถลงเล่นได้ทั้ง อำนาจ แก้วเขียว กองหลังกัปตันทีม, ชาตรี ฉิมทะเล ศูนย์หน้าทีมชาติไทย รวมถึง อนาวิน จูจีน ปีกหน้าตี๋ และ ปีเตอร์ แลง ดาวเตะหน้าหยก ขณะที่ “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี ดาวซัลโวสูงสุดของสโมสรมีชื่อเป็นแค่ตัวสำรอง ทำให้แนวรุกต้องฝากความหวังไว้กับ ฟลาเวียง มิเชลินี จอมทัพชาวฝรั่งเศส และคู่หัวหอกต่างชาติอย่าง ฮิโรโนริ ซารุตะ ดาวเตะญี่ปุ่น กับ เปาโล เอ็นริเก แข้งบราซิเลียน

เปิดฉากมาได้เพียง 2 นาทีเศษ “กิเลนผยอง” เกือบใส่สกอร์ขึ้นนำได้จากการสับไกของ ดานโญ เซียกา แต่ กฤษณะ กลั่นกลิ่น นายทวาร “กระต่ายแก้ว” ยังล้มตัวปัดไว้ได้ก่อนที่บอลจะเสียบเสาแรก จากนั้นนาทีที่ 8 บีจี ตอบโต้ขึ้นมาบ้างโดย เปาโล เอ็นริเก ได้บอลในเขตโทษก่อนจ่ายย้อนกลับมาให้ วสันต์ ฮมแสน แบ็กขวาที่เติมขึ้นมาซัดติดบล็อกกองหลัง เปาโล เอ็นริเก ตามไปเก็บจังหวะสองแล้วเบียดกับ กวิน ธรรมสัจจานันท์ ผู้รักษาประตูเจ้าบ้านล้มลงในเขตโทษ แต่ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ปล่อยให้เล่นต่อไป

กระทั่งนาทีที 20 เมืองทองฯ ก็พังประตูนำ 1-0 ได้สำเร็จจากจังหวะที่ คริสเตียน ตวัดเรียดจากบริเวณมุมธงฝั่งขวามาหน้าเขตโทษ อาลี ดิยาร์รา มิดฟิลด์ตัวรับชาวไอวอรีโคสต์สอดเข้ามาแปเน้นๆ หนีมือ กฤษณะ เสียบมุมอย่างแม่นยำ 9 นาทีต่อมา สกอร์บอร์ดหวิดขยับเพิ่ม เมื่อ ฟาวเลอร์ เปิดฟรีคิกจากริมเส้นฝั่งขวาให้ คริสเตียน ขึ้นโหม่งหน้ากรอบ 6 หลาหลุดกรอบเพียงนิดเดียว ขณะที่ ดานโญ ก็เข้าชาร์จไม่ถึง

เข้าสู่ครึ่งชั่วโมงแรก บางกอกกล๊าส เพิ่งมีโอกาสซัดเข้ากรอบหนแรกของเกมนี้จาก วสันต์ ที่บุกขึ้นมาทางขวาอีกครั้ง แต่ลูกตรงตัว กวิน ที่ล้มตัวรับสบาย จากนั้นนาทีที่ 37 เปาโล เอ็นริเก สร้างโอกาสด้วยการโยกจากขวาตัดเข้ากลางแล้วกดด้วยซ้ายระยะประมาณ 25 หลา แต่ลูกก็ผ่านเสาสองออกหลังไป ทว่า 2 นาทีให้หลัง กิเลนผยองก็ได้จังหวะโต้กลับก่อนที่กองหลังกระต่ายแก้วจะสกัดบอลไม่ขาดมาเข้าทางปืนของ ฟาวเลอร์ ที่จัดการวอลเลย์ด้วยซ้ายเน้นๆ แต่ กฤษณะ ยังพุ่งออกมาป้องกันไว้ได้อย่างเหนียวแน่น นาทีที่ 45 ฟาวเลอร์ ไหลให้ คริสเตียน ล็อกบอลหลบกองหลังบีจีหนึ่งจังหวะแล้วยิงผ่านมือ กฤษณะ ไปได้แล้ว ทว่าลูกชนเสาผ่านหน้าประตูออกมาอย่างน่าเสียดาย จบครึ่งแรก เมืองทองฯ ยังนำอยู่ 1-0

กลับมาเล่นกันต่อในครึ่งหลัง ทีมเยือนแก้เกมด้วยการส่ง พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ ลงมาสร้างสรรค์เกมตรงกลางแทน นพพล ปิตะฝ่าย ที่แทบไม่มีบทบาท แต่เจ้าบ้านยังไม่เพลาเกมบุก นาทีที่ 48 ฟาวเลอร์ กดด้วยขวาบริเวณกรอบเขตโทษแต่ถูก ประวีณวัช บุญยงค์ เข้ามาขวางได้ทัน ถัดมา 5 นาที จักรพันธ์ หลุดเดี่ยวเข้าไปในเขตโทษ แต่ กฤษณะ ยังเซฟลูกยิงของ “เจ้าบอล” ไว้ได้ด้วยมือเดียว ซึ่งปีกร่างเล็กพยายามบอกผู้ตัดสินว่าถูก ศุภชัย คมศิลป์ ดึงจากด้านหลัง แต่ ชัยยะ มหาปราบ ยังนิ่งและปล่อยให้เกมดำเนินต่อไป

เกมดำเนินมาครบ 1 ชั่วโมงเต็ม บางกอกกล๊าส เปลี่ยนตัวอีกครั้งโดยให้ ทนงศักดิ์ ประจักกะตา แบ็กขวาตัวเก๋าลงไปแทน วสันต์ ก่อนที่ เมืองทองฯ จะปรับแผนบ้างด้วยการส่ง ปิยพล บรรเทา ลงมาเติมความสดในแดนกลางแทน พิชิตพงษ์ เฉยฉิว ถึงนาทีที่ 70 บีจี ทิ้งไพ่ตายด้วยการส่ง “โจ้ 5 หลา” ศรายุทธ ชัยคำดี ลงมาแทน ธฤติ โนนศรีชัย หวังทวงประตูคืนอย่างเต็มที่ แต่เกือบโดนกิเลนผยองเจาะตาข่ายอีกครั้งจากลูกเตะมุมที่ จักรพันธ์ เปิดเข้ากลางให้ ดานโญ เทกตัวขึ้นโขกเต็มหัวส่งบอลเฉียดคานบนไปนิดเดียว

เข้าสู่นาทีที่ 73 ปิยพล กระชากบอลเข้าเขตโทษฝั่งซ้ายแล้วถูก ทนงศักดิ์ ตามมาสไลด์จากด้านหลังจนล้มลง แต่ผู้ตัดสิน ชัยยะ มหาปราบ ยังใจแข็งไม่ยอมให้จุดโทษ เรียกเสียงโห่จากสาวกกิเลนผยองดังระงม จากนั้น ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมเจ้าถิ่นก็ถูกถอดออกมาพักโดยมี เซช เรห์มาน ปราการหลังทีมชาติปากีสถานเชื้อสายอังกฤษลงมาคุมหลังบ้านแทน

แต่แล้วนาทีที่ 84 สาวกกระต่ายแก้วที่ตามมาเชียร์จากคลอง 3 ซึ่งถูกน้ำท่วมค่อนข้างหนักก็ได้เฮกันบ้าง เมื่อ พีรพงศ์ ตัวสำรองได้ซัดไกลหน้าเขตโทษส่งลูกแฉลบผู้เล่นกิเลนผยองเปลี่ยนทางหนีมือ กวิน เข้าไปซุกก้นตาข่ายเป็น 1-1 ทำให้ เมืองทองฯ ต้องเร่งเกมรุกทันที นาทีที่ 87 ฟาวเลอร์ บรรจงส่องด้วยซ้ายส่งลูกพุ่งผ่านมือ กฤษณะ เฉี่ยวเสาแรกออกไปอย่างน่าใจหาย

ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เจ้าถิ่นบดขยี้อย่างหนักจนสามารถส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้จากจังหวะที่ คริสเตียน หลุดเข้าไปปาดเรียดให้ ปิยพล แปจ่อๆ ไม่เหลือ แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าก่อน จากนั้น ฟาวเลอร์ ก็ตะบันด้วยซ้ายบนเส้นเขตโทษไปชนเสาแรก ลูกกระดอนมาให้ซ้ำด้วยขวาอีกทีก็ยังไปชนอีกเสาหนึ่งอย่างเหลือเชื่อ จบ 90 นาทีจึงเสมอ 1-1 ต้องต่อเวลาพิเศษออกไปอีก 30 นาที

นาทีที่ 96 กิเลนผยองส่ง อานนท์ สังสระน้อย อดีตดาวยิงตัวฉกาจของ บีอีซี เทโรศาสน ลงมาเสริมแดนหน้าแทน จักรพันธ์ หวังเผด็จศึกเต็มที่ ซึ่งเพียงแค่นาทีที่ 4 ที่อยู่ในสนาม "เจ้ายัน" ก็เกือบแผลงฤทธิ์หลังได้บอลจาก ปิยพล แล้ววัดด้วยขวากะยัดเสาแรก แต่ กฤษณะ ยังเื้อื้อมมือซ้ายไปปัดออกหลังได้ทัน นาทีที่ 103 ฟาวเลอร์ หยอดบอลให้ อานนท์ ยิงตามน้ำหน้ากรอบ 6 หลา แต่ถูก คุนิฮิโกะ ทากิซาวะ ตามมาบล็อกไว้ได้อย่างหวุดหวิดจน "ทากิ" บาดเจ็บเล็กน้อย ต้องปฐมพยาบาลก่อนกลับไปเล่นต่อ

หลังจากนั้น นักเตะทั้งสองทีมต่างก็ถูกตะคริวถามหากันหลายรายจนเกมขาดความต่อเนื่อง ขณะที่การเซตเกมและจังหวะจบสกอร์ก็เริ่มสะเปะสะปะ หาความแม่นยำไม่ค่อยได้ ส่วน ฟาวเลอร์ ที่ยืนระยะมาตั้งแต่นาทีแรกก็ถอยต่ำลงมาล้วงบอลตรงกลางแล้วคอยหาจังหวะวางยาวแม่นๆ แทน ทว่าก็ยังทำอะไรกันไม่ได้จึงเสมอกันที่ 1-1 หลังครบ 120 นาที ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ

ซึ่งในช่วงดวลเป้า ผู้ตัดสินให้มีการยิงจุดโทษฝั่งอัฒจันทร์โซน N ทำให้กองเชียร์ที่อยู่โซน S ต้องเดินข้ามฟากเพื่อไปกดดัน บีจี โดยที่เจ้าหน้าที่สนามยามาฮ่า สเตเดียม ไม่ขัดขวาง ก่อนที่ คุนิฮิโกะ ทากิวาวะ ของกระต่ายแก้วจะยิงไปถูก กวิน ธรรมสัจจานันท์ เซฟไว้ได้ ขณะที่ เมืองทองฯ สังหารเข้าครบทั้ง 5 คน ทำให้ เมืองทองฯ ชนะในการดวลจุดโทษ 5-4 รวมสกอร์ในเวลา 120 นาที 6-5 เข้าสู่รอบ 5 ไปเยือน พัทยา ยูไนเต็ด ในวันที่ 30 ตุลาคมต่อไป

รายชื่อผู้เล่น 11 คนแรกของทั้งสองทีม
เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด - ผู้รักษาประตู กวิน ธรรมสัจจานันท์ กองหลัง พลวัฒน์ วังฆะฮาด, ภานุพงศ์ วงศ์ษา, ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ (กัปตันทีม) (เซช เรห์มาน แทน น.78), วีระวุฒิ กาเหย็ม กองกลาง อาลี ดิยาร์รา, พิชิตพงษ์ เฉยฉิว (ปิยพล บรรเทา แทน น.66), ดานโญ เซียกา กองหน้า คริสเตียน คัวคู, ร็อบบี ฟาวเลอร์, จักรพันธ์ พรใส (อานนท์ สังสระน้อย แทน น.96)

บางกอกกล๊าส - ผู้รักษาประตู กฤษณะ กลั่นกลิ่น กองหลัง วสันต์ ฮมแสน (ทนงศักดิ์ ประจักกะตา แทน น.60), ธฤติ โนนศรีชัย (ศรายุทธ ชัยคำดี แทน น.70), ประวีณวัช บุญยงค์, ศุภชัย คมศิลป์ (กัปตันทีม) กองกลาง มุสซา ซิลลา, ฟลาเวียง มิเชลินี, คุนิฮิโกะ ทากิซาวะ, นพพล ปิตะฝ่าย (พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ แทน น.46) กองหน้า ฮิโรโนริ ซารุตะ, เปาโล เอ็นริเก

ผลฟุตบอลไทยคม เอฟเอ คัพ ประจำวันพุธที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2554
อาร์มี่ ยูไนเต็ด ชนะ ชลบุรี 2-1

เมืองทอง หนองจอก ยูไนเต็ด เสมอ บางกอกกล๊าส 1-1 (ต่อเวลาพิเศษ ดวลจุดโทษตัดสิน เมืองทองฯ ชนะ 5-4 สกอร์รวม 6-5)

อาลี ดิยาร์รา ผู้ซัดประตูเบิกร่องให้ กิเลนผยอง


พีรพงศ์ พิชิตโชติรัตน์ (กลาง) กางปีกร่อนหลังตีเสมอให้ บีจี จนเกมต้องยืดเยื้อถึงฎีกา
กองเชียร์ กระต่ายแก้ว ยังตามมาเชียร์ แม้คลอง 3 ถูกน้ำท่วมหนัก
อาร์มี่ ยูไนเต็ด โค่น ชลบุรี แชมป์เก่าทะลุเข้ารอบ 5
กำลังโหลดความคิดเห็น