นาโปลี ขยับขึ้นรั้งจ่าฝูงของตาราง หลังจากนัดล่าสุดบุกเอาชนะ อินเตอร์ มิลาน ซึ่งเหลือผู้เล่น 10 คน 3-0 ถึงสนามจูเซปเป เมซซา ในศึกฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา
ผลฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 0-3 นาโปลี
เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือ อินเตอร์ ยังมีปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคนรวมถึง เวสลีย์ สไนเดอร์ มิดฟิลด์ชาวดัตช์ แต่คู่หน้ายังอันตราย จามเปาโล ปาซซินี ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ดิเอโก ฟอร์ลัน ขณะที่ นาโปลี ของเทรนเนอร์ วอลเตอร์ มาซซาร์รี ก็ขาด เอดินสัน คาวานี กองหน้าตัวเก่งจึงเป็นโอกาสของ โกรัน ปันเดฟ อดีตแข้ง "งูใหญ่" ลงมาประสานงานในแดนหน้าร่วมกับ เอเซคีล ลาเวซซี และ มาเร็ก ฮัมซิก
เริ่มครึ่งแรก อินเตอร์ เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า ในนาที 3 ก็ได้ทักทายก่อน ริคาร์โด อัลวาเรซ สับไกยิงจากเขตโทษหลุดเสาแรก หลังจากนั้นนาที 13 ฟอร์ลัน เลี้ยงบอลตัดจากกราบซ้ายมาซัดหน้าเขตโทษเฉียดเสาสองนิดเดียว
ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ฟูลแบ็กจอมบุกเติมเกมขึ้นมาส่องหน้าเขตโทษในนาที 24 มอร์แกน เดอ ซานติส นายด่าน นาโปลี ปัดไม่อยู่มาเข้าทาง ปาสซินี ตามซ้ำตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากกองหน้าทีมชาติอิตาลียืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อน
กระทั่งมาถึงนาที 41 ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกม โจเอล โอบี มิดฟิลด์ตัวตัดเกมไปชน คริสเตียน มัจโจ ห้องเครื่องทีมเยือนล้มลงในเขตโทษจนถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง นอกจาก อินเตอร์ เหลือผู้เล่น 10
แล้วยังเสียจุดโทษ ฮาเร็ก ฮัมซิก ยิงจุดโทษจังหวะแรกติดเซฟ ชูลิโอ เซซาร์ นายทวารเจ้าถิ่น แต่ ฮูโก กัมปัญนาโร ตามมาซ้ำดาบสองไม่เหลือให้ นาโปลี ออกนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังผ่านมาถึงนาที 56 นาโปลี ขยับหนี 2-0 ยูโตะ นากาโตโมะ ฟูลแบ็กชาวญี่ปุ่นซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายครึ่งแรกตัดสินใจพลาดไม่เตะสกัดบอลทิ้งจังหวะแรกจนถูก มัจโจ เบียดเอาชนะ ก่อนยิงบอลสวนตัว เซซาร์ เข้าประตูที่เปิดโล่ง
เจ้าถิ่นพยายามทำเกมบุกแต่เจาะไม่เข้า เกมดำเนินมาถึงนาที 75 ลาเวซซี ลากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนแทงทะลุช่อง ฮัมซิก หลุดเข้าไปยิงสวนตัว เซซาร์ ซุกก้นตาข่ายให้ นาโปลี นำห่าง 3-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มทีมเยือนเก็บสามคะแนนเต็มมีเพิ่ม 10 แต้มจากการลงสนาม 5 นัดขึ้นนำจ่าฝูงของตารางลีกแดนมะกะโรนี ขณะที่ อินเตอร์ มี 4 แต้มเท่าเดิมอยู่อันดับ 15
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในวันเดียวกัน "หมาป่า" โรมา เปิดบ้านเอาชนะ อตาลันตา 3-1 โดย โบยาน เกร์กิช ยิงประตูเบิกร่องให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ พาโบล ออสวัลโด และ ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ ซัลโวอีกคนละลูก ส่วนทีมเยือนทวงคืนลูกเดียวจาก เกร์มาน เดนิส
ผลฟุตบอลกัลโช เซเรีย อา อิตาลี
อินเตอร์ มิลาน 0-3 นาโปลี
เคลาดิโอ รานิเอรี กุนซือ อินเตอร์ ยังมีปัญหาบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลักหลายคนรวมถึง เวสลีย์ สไนเดอร์ มิดฟิลด์ชาวดัตช์ แต่คู่หน้ายังอันตราย จามเปาโล ปาซซินี ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ ดิเอโก ฟอร์ลัน ขณะที่ นาโปลี ของเทรนเนอร์ วอลเตอร์ มาซซาร์รี ก็ขาด เอดินสัน คาวานี กองหน้าตัวเก่งจึงเป็นโอกาสของ โกรัน ปันเดฟ อดีตแข้ง "งูใหญ่" ลงมาประสานงานในแดนหน้าร่วมกับ เอเซคีล ลาเวซซี และ มาเร็ก ฮัมซิก
เริ่มครึ่งแรก อินเตอร์ เป็นฝ่ายครองเกมเหนือกว่า ในนาที 3 ก็ได้ทักทายก่อน ริคาร์โด อัลวาเรซ สับไกยิงจากเขตโทษหลุดเสาแรก หลังจากนั้นนาที 13 ฟอร์ลัน เลี้ยงบอลตัดจากกราบซ้ายมาซัดหน้าเขตโทษเฉียดเสาสองนิดเดียว
ฮาเวียร์ ซาเน็ตติ ฟูลแบ็กจอมบุกเติมเกมขึ้นมาส่องหน้าเขตโทษในนาที 24 มอร์แกน เดอ ซานติส นายด่าน นาโปลี ปัดไม่อยู่มาเข้าทาง ปาสซินี ตามซ้ำตุงตาข่าย แต่ไม่ได้ประตูเนื่องจากกองหน้าทีมชาติอิตาลียืนอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าก่อน
กระทั่งมาถึงนาที 41 ก็เกิดจุดเปลี่ยนของเกม โจเอล โอบี มิดฟิลด์ตัวตัดเกมไปชน คริสเตียน มัจโจ ห้องเครื่องทีมเยือนล้มลงในเขตโทษจนถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดง นอกจาก อินเตอร์ เหลือผู้เล่น 10
แล้วยังเสียจุดโทษ ฮาเร็ก ฮัมซิก ยิงจุดโทษจังหวะแรกติดเซฟ ชูลิโอ เซซาร์ นายทวารเจ้าถิ่น แต่ ฮูโก กัมปัญนาโร ตามมาซ้ำดาบสองไม่เหลือให้ นาโปลี ออกนำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก
เกมครึ่งหลังผ่านมาถึงนาที 56 นาโปลี ขยับหนี 2-0 ยูโตะ นากาโตโมะ ฟูลแบ็กชาวญี่ปุ่นซึ่งลงมาเป็นตัวสำรองในช่วงท้ายครึ่งแรกตัดสินใจพลาดไม่เตะสกัดบอลทิ้งจังหวะแรกจนถูก มัจโจ เบียดเอาชนะ ก่อนยิงบอลสวนตัว เซซาร์ เข้าประตูที่เปิดโล่ง
เจ้าถิ่นพยายามทำเกมบุกแต่เจาะไม่เข้า เกมดำเนินมาถึงนาที 75 ลาเวซซี ลากบอลขึ้นมาถึงหน้าเขตโทษ ก่อนแทงทะลุช่อง ฮัมซิก หลุดเข้าไปยิงสวนตัว เซซาร์ ซุกก้นตาข่ายให้ นาโปลี นำห่าง 3-0 หลังจากนั้นไม่มีประตูเพิ่มทีมเยือนเก็บสามคะแนนเต็มมีเพิ่ม 10 แต้มจากการลงสนาม 5 นัดขึ้นนำจ่าฝูงของตารางลีกแดนมะกะโรนี ขณะที่ อินเตอร์ มี 4 แต้มเท่าเดิมอยู่อันดับ 15
ส่วนผลการแข่งขันอีกคู่ในวันเดียวกัน "หมาป่า" โรมา เปิดบ้านเอาชนะ อตาลันตา 3-1 โดย โบยาน เกร์กิช ยิงประตูเบิกร่องให้เจ้าถิ่น ก่อนที่ พาโบล ออสวัลโด และ ฟาบิโอ ซิมปลิซิโอ ซัลโวอีกคนละลูก ส่วนทีมเยือนทวงคืนลูกเดียวจาก เกร์มาน เดนิส