คอลัมน์สุดฟากสนาม เรื่อง นกฟินิกซ์
หลังจากหาทาออกให้กับตนเองด้วยการยกความผิดทั้งหมดให้กับ สลิม อดีตผู้ช่วยว่าเป็นผู้ส่งเครื่องดื่มผสมสารเสพติดให้ดื่มโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเป็นการกระทำที่ อังเดร เองรู้สึกไม่ดีสักเท่าไร หากแต่นี่คือทางออกทางเดียว ขณะที่สลิม เองก็เป็นผู้แนะนำให้เขาได้รู้จักกับโคเคน เมื่อตัดสินใจไปแล้ว อังเดรฝากความหวังที่เหลือไว้กับทีมทนายความส่วนตัว จากนั้นหันความสนใจทั้งหมดไปที่การเริ่มต้นฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อลงสู่สนามแข่งขัน
แน่นอนว่าการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดของอังเดรในวัย 27 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนี่คือช่วงวัยที่บรรดานักเทนนิสทั้งหลายจะเริ่มลามือจากวงการ แต่เขากลับมาพูดถึงการเริ่มต้นใหม่ หากเพื่อนรักต่างวัยอย่าง กิล ยังคงเป็นความหวังสุดท้ายที่ อังเดร พึ่งพาได้ตลอดเวลา เมื่อเทรนเนอร์ส่วนตัวที่ร่วมงานกันมากว่าสิบปีบอกกับนักเทนนิสหนุ่มที่มองหาโอกาสครั้งที่สองว่า “ผมจะช่วยคุณเองอังเดร คุณจำไม่ได้แล้วหรือว่าผมเคยสัญญาว่าจะเป็นไหล่ให้คุณได้ปีนขึ้นไปสู่ความสำเร็จ และถึงเวลานี้ผมยังคงมีหน้าที่เช่นนั้นอยู่” กิล เรเยส ยังคงไม่ลืมคำสัญญาและศรัทธาที่มีต่อตัวนักเทนนิสหนุ่มรุ่นลุก
เมื่อเทรนเนอร์ และ นักเทนนิสในวัย 27 ปี บรรลุข้อตกลงในการสร้างโอกาสครั้งที่สองให้กับตนเอง ทั้งคู่เริ่มทำงานทันที และ แน่นอนว่า อังเดร เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตนเอง ทั้งรูปร่างที่อ้วนขึ้น การเคลื่อนไหวที่ช้าลง ทั้งหมดเกิดจาความไม่ใส่ใจต่อกีฬาที่เจ้าตัวใช้เป็นอาชีพหาเลี้ยงตนเองมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ ขณะที่ กิล เอง สังเกตเห็นถึงความเสื่อมโทรมของร่างกายที่เขาเคยทำให้แข็งแกร่งมาก่อนได้เป็นอย่างดี และในที่สุดอังเดร ตัดสินใจสารภาพเรื่องยาเสพติดกับชายสูงวัยที่เขาเคารพเหมือนพ่อคนที่สอง
คำสารภาพที่อธิบายถึงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและให้คำสัญญาว่าจะไม่กลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับของเหล่านั้นอีกสร้างความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่กิล จะทำลายความเงียบและกล่าวกับ อังเดรว่า “ขอบคุณมากที่คุณซื่อสัตย์และบอกความจริงกับผม แต่ในเมื่อเรื่องดังกล่าวผ่านไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์จะพูดถึงมันอีก เรื่องราวต่อจากนี้มากกว่าคือสิ่งสำคัญ เพราะมันคือก้าวต่อไปของคุณนะอังเดร เป็นการก้าวเดินไปในทางที่ถูก และที่ที่คุณควรจะดำเนินชีวิตอยู่มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา”
หลังจากหาทาออกให้กับตนเองด้วยการยกความผิดทั้งหมดให้กับ สลิม อดีตผู้ช่วยว่าเป็นผู้ส่งเครื่องดื่มผสมสารเสพติดให้ดื่มโดยที่ตนเองไม่รู้ตัว แน่นอนว่าเป็นการกระทำที่ อังเดร เองรู้สึกไม่ดีสักเท่าไร หากแต่นี่คือทางออกทางเดียว ขณะที่สลิม เองก็เป็นผู้แนะนำให้เขาได้รู้จักกับโคเคน เมื่อตัดสินใจไปแล้ว อังเดรฝากความหวังที่เหลือไว้กับทีมทนายความส่วนตัว จากนั้นหันความสนใจทั้งหมดไปที่การเริ่มต้นฟื้นฟูสมรรถภาพเพื่อลงสู่สนามแข่งขัน
แน่นอนว่าการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมดของอังเดรในวัย 27 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนี่คือช่วงวัยที่บรรดานักเทนนิสทั้งหลายจะเริ่มลามือจากวงการ แต่เขากลับมาพูดถึงการเริ่มต้นใหม่ หากเพื่อนรักต่างวัยอย่าง กิล ยังคงเป็นความหวังสุดท้ายที่ อังเดร พึ่งพาได้ตลอดเวลา เมื่อเทรนเนอร์ส่วนตัวที่ร่วมงานกันมากว่าสิบปีบอกกับนักเทนนิสหนุ่มที่มองหาโอกาสครั้งที่สองว่า “ผมจะช่วยคุณเองอังเดร คุณจำไม่ได้แล้วหรือว่าผมเคยสัญญาว่าจะเป็นไหล่ให้คุณได้ปีนขึ้นไปสู่ความสำเร็จ และถึงเวลานี้ผมยังคงมีหน้าที่เช่นนั้นอยู่” กิล เรเยส ยังคงไม่ลืมคำสัญญาและศรัทธาที่มีต่อตัวนักเทนนิสหนุ่มรุ่นลุก
เมื่อเทรนเนอร์ และ นักเทนนิสในวัย 27 ปี บรรลุข้อตกลงในการสร้างโอกาสครั้งที่สองให้กับตนเอง ทั้งคู่เริ่มทำงานทันที และ แน่นอนว่า อังเดร เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของตนเอง ทั้งรูปร่างที่อ้วนขึ้น การเคลื่อนไหวที่ช้าลง ทั้งหมดเกิดจาความไม่ใส่ใจต่อกีฬาที่เจ้าตัวใช้เป็นอาชีพหาเลี้ยงตนเองมาตั้งแต่อายุยังไม่ถึงสิบขวบ ขณะที่ กิล เอง สังเกตเห็นถึงความเสื่อมโทรมของร่างกายที่เขาเคยทำให้แข็งแกร่งมาก่อนได้เป็นอย่างดี และในที่สุดอังเดร ตัดสินใจสารภาพเรื่องยาเสพติดกับชายสูงวัยที่เขาเคารพเหมือนพ่อคนที่สอง
คำสารภาพที่อธิบายถึงการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและให้คำสัญญาว่าจะไม่กลับเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับของเหล่านั้นอีกสร้างความเงียบขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่กิล จะทำลายความเงียบและกล่าวกับ อังเดรว่า “ขอบคุณมากที่คุณซื่อสัตย์และบอกความจริงกับผม แต่ในเมื่อเรื่องดังกล่าวผ่านไปแล้วก็ไม่มีประโยชน์จะพูดถึงมันอีก เรื่องราวต่อจากนี้มากกว่าคือสิ่งสำคัญ เพราะมันคือก้าวต่อไปของคุณนะอังเดร เป็นการก้าวเดินไปในทางที่ถูก และที่ที่คุณควรจะดำเนินชีวิตอยู่มากกว่าในอดีตที่ผ่านมา”