ทันทีที่โปรจากท้อป 125 รายบนตารางเฟดเอ็กซ์ คัพทีออฟลูกแรกบนสนาม เพลนฟีลด์ คันทรี่ คลับ นั่นหมายถึง ซีรีย์ที่มีเงินโบนัสสูงถึง 10 ล้านเหรียญสหรัฐอย่าง เฟดเอ็กซ์ คัพ ได้เริ่มต้นขึ้นแล้วโดยรายการ เดอะบาร์เคลย์ส เป็นต้นทางไปสู่โบนัสก้อนโต ซึ่งระบบการแข่งขันในสี่รายการอันประกอบไปด้วย เดอะ บาร์เคลย์ส ดอยช์แบงค์ แชมเปี้ยนชิป บีเอ็มดับเบิลยู แชมเปี้ยนชิป และ เดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิปนั้นถูกผูกให้เกี่ยวเนื่องกันจากผลงาน โดยรายการแรกให้สิทธิโปรในท้อป 125 ขณะที่รายการถัดมาให้เฉพาะท้อป 100 ส่วนสองรายการที่เหลือให้สิทธิเฉพาะ ท้อป 70 และ ท้อป 30 ตามลำดับ
สำหรับการแข่งขัน เดอะบาร์เคลย์ส ปีนี้จะทำการแข่งขันกันที่ เพลนฟีลด์ คันทรี่ คลับ สนามที่ได้รับสมญาว่าเป็นสนามที่มี "กรีนปราบโปร" ระยะของสนามอยู่ที่ 6,964 พาร์ 71 เป็นสนามที่นักกอล์ฟต้องเน้นไปที่ลูกสั้นและพยายามคอนโทรลลูกให้อยู่ในทิศทางบนแฟร์เวย์มากกว่าจะตีไกลกันเพียงอย่างเดียว ทั้งนี้มีการพยากรณ์อากาศในวันแข่งขันเอาไว้ว่า จะไม่มีฝนไปจนกระทั่งวันพฤหัส ก่อนที่อากาศจะกลับมาดีอีกครั้งในวันศุกร์ที่ 26 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันตัดตัว
ทั้งนี้โปรที่เป็นผู้นำอยู่ในตารางเฟดเอ็กซ์ คัพ ยังคงถูกจับตามองไม่ว่าจะเป็น สตีฟ สตริกเกอร์ ลุค โดนัลด์ เว็บบ์ ซิมป์สัน เจ้าของแชมป์วินด์แฮม เมื่อสัปดาห์ก่อนโดย ร็อบ โบลตัน คอลัมนิสต์กอล์ฟ ของพีจีเอทัวร์ ได้คัดเอา 5 นักกอล์ฟที่มีโอกาสสูงสุดในการคว้าแชมป์ เดอะ บาร์เคลย์สเอาไว้ห้ารายโดยพิจารณาจากผลงาน และ สถิติการตีที่ถูกบันทึกโดยพีจีเอทัวร์ และโปรรายแรกที่ โบลตัน มองว่ามีโอกาสทำผลงานได้ดีที่สุดบนสนาม เพลนฟีลด์ คือ สตีฟ สตริกเกอร์ เจ้าของฉายา "มิสเตอร์เซปเทมเบอร์" ปีนี้ สตริกเกอร์ นั้นสามารถยืนเล่นจนถึงวันสุดท้ายได้ ถึง11 รายการและเป็นการจบในระดับท้อป 20 โปรรายนี้ได้ชื่อว่าเป็นนักกอล์ฟที่ได้ชื่อว่า มีลูกพัตต์ที่เฉียบคม มีมาตรฐานในการทำเบอร์ดี้อยู่ในเกณฑ์สูงและมักจะทำแต้มได้ในหลุมพาร์ 4
รายต่อมาคือนักกอล์ฟฝีมือดีจากออสเตรเลียที่เพิ่งจะได้แคดดี้ของไทเกอร์ วูดส์ ไปครอบครองอย่าง อดัม สก๊อตต์ ที่ปีนี้จบการแข่งขันในระดับท้อป 7 มาโดยตลอดและยังสามารถคว้าแชมป์รายการใหญ่มาครองได้สำเร็จจากรายการเวิลด์กอล์ฟแชมเปี้ยนชิป ทั้งนี้ โปรชาวออสซี่ นั้นถูกยกย่องว่าเป็นนักกอล์ฟฝีมือดีแต่ยังขาดแชมป์ระดับเมเจอร์ หากปีนี้อดัม สก๊อตต์ จะคว้าแชมป์เฟดเอ็กซ์ คัพไปครองน่าจะพอช่วยเยียวยาหัวใจได้บ้าง
มาที่ดัสติน จอห์นสัน โปรอีกรายที่ถูกจัดมาอยู่ในพาวเวอร์ แรงกิ้ง ของ เดอะบาร์เคลย์ส จะเห็นว่าที่ผ่านมา ดัสติน ยังไม่ประสบความสำเร็จในการคว้าแชมป์มาครอง แต่ก็สามารถจบในระดับท้อป 5 จากสี่รายการที่เข้าร่วมการแข่งขัน เป็นนักกอล์ฟอีกรายที่เริ่มมีลูกสั้นคมๆ ปล่อยออกมาให้เห็นกัน นอกจากนี้ ดัสติน จอห์นสัน ยังเป็นโปรที่มักได้แต้มในพาร์สี่มาโดยตลอด
รายที่สี่ คือ ลุค โดนัลด์ โปรที่สามารถรักษาอันดับของตนเองไว้เป็นอย่างดี รวมไปถึงผลงานระดับบีบวกจากอันดับที่สองร่วมรายการ บริดจ์สโตน แชมเปี้ยนชิป หนึ่งในซีรีย์เวิลด์กอล์ฟนอกจากนี้ยังทำผลงานได้ดีในเมเจอร์สุดท้ายของปีอย่างพีจีเอแชมเปี้ยนชิปด้วยอันดับ ที่ 8 ร่วมมาถึงรายการนี้โปรชาวอังกฤษ ยังคงมีแต้มต่อที่น่าสนใจ และรายสุดท้ายคือเจ้าของแชมป์วินด์แฮม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาสำหรับ เวบบ์ ซิมป์สัน หลายคนอาจมองว่า เวบบ์ นั้นขึ้นมาในช่วงจังหวะที่เหล่ามือวางกำลังอ่อนแรง แต่ถ้าย้อนกลับไปมองผลงานในฤดูกาล 2011 เวบบ์ คือนักกอล์ฟที่สามารถจบในระดับท้อป 20 ได้จาก 7 รายการที่เวบบ์เข้าร่วม ความร้อนแรงของเจ้าตัวจาก วินด์แฮม ทำให้เกจิริมสนามมองว่าโปรหนุ่มชาวอเมริกันรายนี้มีโอกาสที่จะไปถึงวันสุดท้ายของการแข่งขัน
ด้วยความที่การแข่งขันนั้นถูกผูกให้เกี่ยวเนื่องกันไปตั้งแต่ เดอะบาร์เคลย์ส ไปจนถึง รายการสุดท้ายในเดอะ ทัวร์ แชมเปี้ยนชิป ดังนั้นการเริ่มต้นที่ดีของเหล่าโปรในทัวร์นาเมนท์นี้ก็อาจหมายถึงชัยชนะที่ได้เดินทางมาแล้วกว่าครึ่ง ส่วนใครจะประสบความสำเร็จมากที่สุดนั้น แฟนกอล์ฟต้องคอยติดตามต่อไป