"ผู้ท้าชิงอันดับ 1" คือตำแหน่งที่ทุกสำนักต่างคล้องสายสะพายให้ เชลซี ที่จะพุ่งขึ้นมาต่อกรกับแชมป์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ก่อนเปิดฤดูกาล ทว่ากลับตรงข้ามกับฟอร์ม 2 นัดแรกศึก พรีเมียร์ชิป อังกฤษ อย่างสิ้นเชิง เพราะตลอด 180 นาทีที่ผ่านไปกับการเสมอ สโต๊ก ซิตี 0-0 และล่าสุดเปิดรังแซงชนะ เวสต์ บรอมวิช อัลเบียน แบบหืดจับ 2-1 เมื่อวันเสาร์ที่ 20 สิงหาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่าลูกทีม อังเดร บียาส-โบอาส ต้องกระเสือกกระสนพอสมควรกว่าจะได้ 4 แต้มมาอยู่ในมือเวลานี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องปรับทีมเป็นการด่วนก่อนตลาดซื้อ-ขายนักเตะซัมเมอร์นี้ปิดทำการวันที่ 31 สิงหาคมนี้ โดย "เซียนไก๋" คอลัมนิสต์ประจำ MGR Sport จึงขอโอกาสนำเสนอ 4 กลยุทธ์ที่จะเป็นการติดปีกให้ "สิงโตลอนดอน"
จิ๊กซอว์ 2 ชิ้นสุดท้าย
เชลซี กำลังจะได้แข้งใหม่เสริมทัพเป็นตัวเป็นตัวคนแรกซัมเมอร์นี้ก็คือ ฮวน มาตา เพราะลำพังแข้งใหม่ที่ตบเท้ามาก่อนหน้านี้อย่าง ออเรียล โรเมอู กองกลางวัย 19 ปีและ โรเมลู ลูกากู กองหน้าวัย 18 ปีกระดูกยังไม่แข็งพอ บาเลนเซีย ตกลงขายปีกซ้ายทีมชาติสเปนชุดแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปอายุต่ำกว่า 21 ปีหรือ ยูโร 2011 คาดว่าค่าตัวอยู่ที่ 30 ล้านยูโร (ประมาณ 1.3 พันล้านบาท) เหลือแค่เจรจาเงื่อนไขส่วนตัวและตรวจร่างกายก็พร้อมชูเสื้ออย่างเป็นทางการ ทว่าจำต้องคว้าอีกรายคือ ลูกา โมดริช เพลย์เมกเกอร์ชาวโครแอตของ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ เพื่อแบ่งเบารวมถึงเป็นตัวแทนของ แฟรงค์ แลมพาร์ด ห้องเครื่องที่ฟอร์มฮวบฮาบอย่างน่าใจหายด้วยวัย 33 ปีปั้นเกมและผลิตสกอร์จากแถวสองไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว หากได้ 2 รายนี้บวกกับ ฟลอร็องต์ มาลูดา และ ยอสซี เบนายูน ตัวเดินเกม 2 รายที่มีอยู่น่าจะเรียกได้ว่า "สิงโตติดปีก" ทันที ถือเป็นจุดที่ต้องแก้ไขเพราะปีที่แล้วจากสถิติคนทำทางให้เพื่อนซัดประตูมากที่สุดคือ ดิดิเยร์ ดร็อกบา ดาวยิงไอวอรีโคสต์ จ่ายไป 13 ประตู
สูตรสำเร็จ 4-4-2
ไล่ตั้งแต่ยุคคุมทัพของ โชเซ มูรินโญ อัฟราม แกรนท์ กุส ฮิดดิงค์ และ คาร์โล อันเชล็อตต์ เชลซี ถือว่ามีมาตรฐานและระดับชัดเจน ทว่าเวลานี้ขุมกำลังที่มีอื้อกับระบบ 4-4-2 มากกว่า 4-3-3 เกมพลิกชนะ เวสต์ บรอมวิช โบอาส ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวถอด ซาโลมอน กาลู ทั้งที่ผ่านไปแค่นาที 35 พร้อมส่ง มาลูดา และปรับกองหน้าเหลือแค่ 2 คนดูลงตัวกว่าและเป็นรูปแบบที่เข้าใจง่าย ส่วน รามิเรส เหมือนเป็นตัวแถมมากกว่าพยายามจะช่วย แลมพาร์ด ปั้นเกมแต่ไม่ค่อยได้น้ำได้เนื้อเท่าที่ควร ส่วนกองกลางตัวรับปล่อยเป็นหน้าที่ของ จอห์น โอบิ มิเกล กองหลังปึ้กอยู่แล้วไม่จำเป็นต้องส่งกองกลาง 3 ตัวที่สำคัญจะเปิดพื้นให้ แอชลีย์ โคล และ โชเซ โบซิงวา เติมขึ้นมาจากแบ็กเพื่อประสานงานกับปีกได้อีกด้วย
คู่หู เฟร์นานโด ตอร์เรส
ที่สำคัญระบบ 4-4-2 จะเหมือนเป็นการหาคู่ขาที่ชัดเจนให้ ตอร์เรส ดาวยิงทีมชาติสเปนเพื่อสลัดสนิมที่เกาะอยู่เสียที เพราะที่ผ่านมาโดดเดี่ยวแดนหน้าเกินไปและถูกประกบง่าย ถ้ามีกองหน้าอีกคนก็จะเป็นการฉีกกองหลังคู่ต่อสู้ไปจับตาโดยธรรมชาติ 4-3-3 ตัวริมเส้นถ่างออกมากเกินไป นิโกลาส์ อเนลกา ทีมเวิร์คไม่ค่อยดีอยู่แล้วแถมทางกราบเล่นคนเดียวกระชากเข้าไปยิงเองเป็นส่วนใหญ่ประตูตีเสมอ เวสต์ บรอมวิช ก็มาจากความสามารถเฉพาะตัวและโชคช่วย ส่วนลูกนำชัยมาจาก โบซิงวา ที่เติมจากแบ็กขวาปาดไปเสาสองให้ มาลูดา ปิดบัญชี
เปิดโอกาสหอกดาวรุ่ง
ไม่แปลกใจที่กองหน้าของ เชลซี ผลิตสกอร์ได้น้อย โดยปีที่แล้วตำแหน่งดาวซัลโวประจำทีมในศึก พรีเมียร์ชิป คือ มาลูดา ซัดไป 13 ประตู เพราะด้วยวัยของ ดร็อกบา 33 ปีและ อเนลกา 32 ปีบวกกับ ตอร์เรส ที่กำลังสูญเสียความมั่นใจ โบอาส จึงจำเป็นต้องเปิดโอกาสให้ ดาเนียล สเตอร์ริดจ์ และ ลูกากู ซึ่งทั้งคู่เป็นดาวรุ่งมีความสด แข็งแกร่ง รวมถึงความกระหายที่จะลงสนามกระซวกประตูมากกว่า บางเกมควรที่จะใช้นักเตะประเภทนี้ โดยเฉพาะกองหน้าทีมชาติอังกฤษชุดเล็กที่แสดงให้เห็นแล้วตอนยืมตัวอยู่กับ โบลตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อปีที่แล้วเมื่อซัดไป 8 ประตูจาก 12 นัด นอกจากนี้ยังมี กาแอล กากูตา หอกทีมชาติฝรั่งเศสชุดเล็ก ดูจากขุมกำลังแนวรุกถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ แล้วถือว่าไม่ขี้เหร่เลย
