เจ้าชาย อาลี บิน อัล ฮัสเซน รองประธานฟีฟา ชาวจอร์แดน หนึ่งในตัวเต็งที่จะได้รับการเลือกให้เป็นประธานสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) คนใหม่ แทนที่ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ตัดสินใจไม่ขอลงชิงตำแหน่งประมุขลูกหนังเอเชีย ส่งผลให้ วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมลูกหนังไทย มีโอกาสมากขึ้นในการลุ้นคุมบังเหียน ส.ลูกหนังเอเชีย

หลังจากที่ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลตลอดชีวิต จากกรณีพยายามซื้อเสียงจากเจ้าหน้าที่สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกากลาง และอเมริกาเหนือ หรือ “คอนคาเคฟ” ในการลงคะแนนโหวตเลือกตั้งประธาน “ฟีฟา” แข่งกับ เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ พร้อมกับต้องหลุดจากตำแหน่งประธานเอเอฟซี โดยปริยาย
ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าชาย อาลี บิน อัล ฮัสเซน รองประธานฟีฟา ชาวจอร์แดน ที่มีลุ้นเป็นผู้จะเข้ามานั่งแท่นประมุขลูกหนังเอเชีย แทนที่บิน ฮัมมัม อดีตประธานชาวกาตาร์ ตัดสินใจไม่ขอร่วมวงลุ้นตำแหน่งดังกล่าว แต่ได้เผยถึงแนวทางและคุณสมบัติผู้นำคนใหม่ของเอเอฟซี ก่อนที่จะมีการประชุมสมาชิก ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ค.นี้ ณ สำนักงานใหญ่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
โดยเจ้าชายจากจอร์แดน เผยว่า “ฟุตบอลในเอเชียโดยเฉพาะดินแดนตะวันออกกลางพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และเราจะต้องไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมันคือสิ่งที่นักเตะและแฟนๆ ต้องการ ผมยังเชื่อมั่นว่า วงการฟุตบอลเอเชียยังมีคนมีฝีมืออีกมากที่พร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่นี้ แต่คนที่จะเข้ามาจะต้องทำงานภายใต้ความรับผิดชอบทางจริยธรรม ขณะเดียวกัน ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องไม่โปร่งใสเกิดขึ้นอีก”
ซึ่งจากการแสดงท่าทีไม่รับตำแหน่งของเจ้าชาย อาลี ส่งผลให้โอกาสของ วรวีร์ มะกูดี ในการได้รับเลือกเป็นประธานเอเอฟซี มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า “บังยี” เป็นเต็งจ๋าที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ดี คู่แข่งของนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ มีทั้ง จุนจิ โองูระ จากญี่ปุ่น,จาง จิลอง รักษาการประธาน เอเอฟซี ชาวจีน รวมถึง เวอร์นัน มานิลัล เฟอร์นานโด จากศรีลังกา
สำหรับตำแหน่งประธานเอเอฟซีเพิ่งจะมีการเลือกตั้งกันไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง บิน ฮัมมัม ประธานลูกหนังกาตาร์ ได้รับเลือกให้ตำรงตำแหน่งอีกสมัย อย่างไรก็ดี จากการที่เจ้าตัวถูกแบนตลอดชีวิต ส่งผลให้บอร์ดบริหารของเอเอฟซีออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเฟ้นหาประธานคนใหม่โดยเร็วที่สุด
หลังจากที่ โมฮาเหม็ด บิน ฮัมมัม ถูกสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ “ฟีฟา” ลงโทษห้ามยุ่งเกี่ยวกับวงการฟุตบอลตลอดชีวิต จากกรณีพยายามซื้อเสียงจากเจ้าหน้าที่สหพันธ์ฟุตบอลอเมริกากลาง และอเมริกาเหนือ หรือ “คอนคาเคฟ” ในการลงคะแนนโหวตเลือกตั้งประธาน “ฟีฟา” แข่งกับ เซ็ปป์ แบล็ตเตอร์ พร้อมกับต้องหลุดจากตำแหน่งประธานเอเอฟซี โดยปริยาย
ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าชาย อาลี บิน อัล ฮัสเซน รองประธานฟีฟา ชาวจอร์แดน ที่มีลุ้นเป็นผู้จะเข้ามานั่งแท่นประมุขลูกหนังเอเชีย แทนที่บิน ฮัมมัม อดีตประธานชาวกาตาร์ ตัดสินใจไม่ขอร่วมวงลุ้นตำแหน่งดังกล่าว แต่ได้เผยถึงแนวทางและคุณสมบัติผู้นำคนใหม่ของเอเอฟซี ก่อนที่จะมีการประชุมสมาชิก ในวันศุกร์ที่ 29 ก.ค.นี้ ณ สำนักงานใหญ่ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
โดยเจ้าชายจากจอร์แดน เผยว่า “ฟุตบอลในเอเชียโดยเฉพาะดินแดนตะวันออกกลางพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในช่วงที่ผ่านมา และเราจะต้องไม่หยุดเพียงเท่านี้ เพราะมันคือสิ่งที่นักเตะและแฟนๆ ต้องการ ผมยังเชื่อมั่นว่า วงการฟุตบอลเอเชียยังมีคนมีฝีมืออีกมากที่พร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่นี้ แต่คนที่จะเข้ามาจะต้องทำงานภายใต้ความรับผิดชอบทางจริยธรรม ขณะเดียวกัน ก็ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดเรื่องไม่โปร่งใสเกิดขึ้นอีก”
ซึ่งจากการแสดงท่าทีไม่รับตำแหน่งของเจ้าชาย อาลี ส่งผลให้โอกาสของ วรวีร์ มะกูดี ในการได้รับเลือกเป็นประธานเอเอฟซี มีโอกาสเพิ่มมากขึ้น หลังก่อนหน้านี้ มีกระแสข่าวว่า “บังยี” เป็นเต็งจ๋าที่จะได้รับตำแหน่งดังกล่าว อย่างไรก็ดี คู่แข่งของนายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในครั้งนี้ มีทั้ง จุนจิ โองูระ จากญี่ปุ่น,จาง จิลอง รักษาการประธาน เอเอฟซี ชาวจีน รวมถึง เวอร์นัน มานิลัล เฟอร์นานโด จากศรีลังกา
สำหรับตำแหน่งประธานเอเอฟซีเพิ่งจะมีการเลือกตั้งกันไปเมื่อวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่ง บิน ฮัมมัม ประธานลูกหนังกาตาร์ ได้รับเลือกให้ตำรงตำแหน่งอีกสมัย อย่างไรก็ดี จากการที่เจ้าตัวถูกแบนตลอดชีวิต ส่งผลให้บอร์ดบริหารของเอเอฟซีออกมาเรียกร้องให้มีการเลือกตั้งเฟ้นหาประธานคนใหม่โดยเร็วที่สุด