"ร็อคเกอร์" ตากาล็อก แฟนพันธุ์แท้รองเท้าบาสฯ

ASTVผู้จัดการรายสัปดาห์ - "การที่เรารักในอะไรสักอย่าง ย่อมต้องแสวงหาเพื่อให้ได้มา" นี่อาจเป็นนิยามที่ มิทช์ ซิงสัน (Mitch Singson) อดีตมือกลอง "ชูการ์ ฟรี" (Sugar Free) วงร็อคเลื่องชื่อแดนตากาล็อก ใช้ในการสรรหารองเท้าบาสเกตบอลมาสะสม รวมแล้ว ณ ปัจจุบันกว่า 100 คู่ ถือเป็นโอกาสอันดีที่ทีมข่าวกีฬา MGR Sport ได้จับเข่าคุยกับหนุ่มวัย 32 ปี ผู้มีกีฬายัดห่วงอยู่ในสายเลือด พร้อมทั้งสัมผัส "สนีคเกอร์" (Sneaker) คู่โปรดที่ถูกนำมาวางเรียงรายให้ได้ชมกัน

ครั้งได้รับความไว้วางใจจาก "ไนกี้" ผลิตภัณฑ์กีฬายักษ์ใหญ่ของโลกเชิญเข้าร่วมงาน "โคบี มะนิลา ทัวร์ 2011" ตามติด โคบี ไบรอันท์ การ์ดซูเปอร์สตาร์ แอลเอ เลเกอร์ส แห่งศึกเอ็นบีเอ (NBA) ร่วมทำกิจกรรมพัฒนาทักษะบาสเกตบอล สร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ระหว่างวันที่ 12-14 กรกฎาคมที่ผ่านมา ผู้เขียนได้รับการประสานจาก "คุณบี" พิณรัตน์ ทัศนะพยัคฆ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัท ไนกี้ (ประเทศไทย) จำกัด ในการพูดคุยกับ มิทช์ ซิงสัน ยอดนักสะสมรองเท้าบาสฯ ซึ่งเป็นที่รู้กันในวงการยัดห่วงฟิลิปิโน

โดย มิทช์ เริ่มสัมผัสกับกีฬาบาสเกตบอลอย่างจริงจังสมัยเรียนมหาวิทยาลัย การมี ไมเคิล จอร์แดน ตำนานชิคาโก บูลส์ เป็นฮีโร่ ทำให้หนุ่มร่างสันทัดเลือกเล่นในตำแหน่งชู้ตติ้งการ์ด เมื่อต้องตระเวนแข่งกับเพื่อนๆ ทำให้ มิทช์ เริ่มคิดถึงการหารองเท้าบาสฯ คู่ใจไว้ใส่สักคู่ ก่อนมีความคิดสะสมอย่างจริงจังในปี 2008 นับหนึ่งจาก ไมเคิล จอร์แดน รุ่นไฮเปอร์ดังก์ สนนราคา 7 พันเปโซ (ประมาณ 4,000 บาท) ก่อนไล่เก็บ "แอร์ จอร์แดน" ในหลายรุ่น รวมทั้ง "ไนกี้" รุ่นต่างๆ ทั้งของ โคบี ไบรอันท์ หรือว่า เลอบรอน เจมส์

ร็อคเกอร์หนุ่ม เล่าให้ฟังว่า "รองเท้าที่เก็บอยู่ทุกคู่ ผมสวมใส่แล้วทั้งนั้น อาจต่างจากนักสะสมรายอื่นที่บางคู่เลือกที่จะไม่หยิบมาใส่เลย แต่ทั้งหมดผมมีการดูแลรักษาเป็นอย่างดี ถึงขนาดเช่าห้องเก็บรองเท้าขนาด 300 ตารางเมตร พร้อมจ้างคนดูแลเช็ดถูในแต่ละวัน โดยคู่ที่ผมรักที่สุดคงหนีไม่พ้น จอร์แดน 11 ออลไวท์ ซึ่งมีจำหน่ายเพียง 10-12 คู่เท่านั้น คู่นี้ผมต้องลงทุนบินไปที่สหรัฐฯ ปักหลักรอหน้าร้านตั้งแต่ 10 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็นเพื่อซื้อหามาในราคา 600 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ราว 18,000 บาท)"

นอกจากนี้ มิทช์ ยังมีข้อแนะนำสำหรับนักสะสมรองเท้าหน้าใหม่ที่เล็งเข้าสู่วงการว่า "ส่วนตัวผมชอบรองเท้าที่ใส่เล่นบาสฯ และใส่เดินเที่ยวทั่วไปได้ โดยรองเท้ารุ่นจอร์แดน ใส่เดินข้างนอกได้แบบไม่อายใคร ขณะที่รุ่นโคบี ไนกี้ใช้เทคโนโลยีช่วยให้รองเท้ามีน้ำหนักเบาจึงเหมาะกับการใส่แข่ง ซึ่งถ้าใครอยากเลือกเก็บผมแนะนำให้ดูพวกลิมิเทด อิดิชัน ทำขายออกมาในจำนวนจำกัด หรือรุ่นที่ผู้เล่นสตาร์ใส่แข่งเกมสำคัญๆ หากมีกำลังพอก็น่าหามาไว้ในคอเลคชัน เพราะนานไปมูลค่ายิ่งสูงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า"

อีกทั้งผู้เขียนยังได้พูดคุยกับ วัชรินทร์ จัตุชัย แฟนพันธุ์แท้บาสเกตบอล NBA ผู้ร่วมทริปนี้มากับเราด้วย โดยความคิดเป็นนักสะสมรองเท้าบาสฯ จุดกำเนิดจากการได้รับตำแหน่งแฟนพันธุ์แท้เมื่อ พ.ศ.2549 ปัจจุบัน "หนุ่มแดน" มีรองเท้าสะสมราว 30-40 คู่ บ้างบินไปซื้อด้วยตนเองถึงต่างประเทศ บางคู่ฝากเพื่อนในกลุ่ม "บี คิกซ์" (B Kickz) ที่มีอยู่ราว 20-30 คน ช่วยตาหา หรือท่องอินเทอร์เน็ต "ประมูล" (Bid) ในอีเบย์ เว็บไซต์ซื้อ-ขายสินค้าชื่อดังของโลก

งานนี้ วัชรินทร์ แจกแจงให้ฟังถึงความโดดเด่นของรองเท้ายอดฮิต "ถ้าเป็นรองเท้าบาสฯ ที่ทรงคุณค่าที่สุดก็ต้อง แอร์ จอร์แดน ทางไนกี้ทำออกมาแต่ละปีจะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันไป ที่ผมชอบคือรุ่น 23 ได้มาในราคา 6 พันบาท ต้องบินไปซื้อถึงฮ่องกง ความโดดเด่นคงเป็นลายรองเท้าที่มีเบอร์ 23 ทั้งยังมีลายนิ้วหัวแม่มืออยู่ตรงลิ้นรองเท้าด้วย ส่วนคู่ที่แพงของจอร์แดน หนีไม่พ้นรุ่น 23/500 เพื่อนผมต้องลงทุนไปหลายหมื่นบาทกว่าจะได้มาเป็นเจ้าของ"

"สำหรับของโคบี รุ่นแรกๆ จะคล้ายยานอวกาศ ก่อนที่ไนกี้จะมาปรับให้มีดีไซน์ที่โฉบเฉี่ยวมากขึ้น อย่างที่ทราบกันว่า โคบี มีส่วนในการออกแบบและแสดงความคิดเห็นในแต่ละรุ่นแต่ละปีที่ถูกผลิตออกมา โดยรุ่นที่โดดเด่นได้แก่ โคบี 5 ที่น้ำหนักเบามากแค่ 0.8 ออนซ์ รุ่นที่นักสะสมหาเก็บกันคือ โคบี 5 Ring ออกมาตอนได้แชมป์สมัยที่ 5 กับเลเกอร์สพอดี ปัจจุบันมาถึง โคบี 6 ที่เนื้อรองเท้าออกแบบคล้ายเกล็ดงู (โคบี ฉายา แบล็ค มัมบา) ด้านรองเท้า เลอบรอน คู่แรกตอนเข้าลีกเมื่อปี 2003 เป็นอีกรุ่นที่ขายดีในตลาดนักสะสม ที่พิเศษของ LBJ คงเป็นรุ่นปี 2008/09 ที่ได้ตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ทำให้ไนกี้ ออกรุ่น LeBron 6 MVP มีสัญลักษณ์เด่นตรงลิ้นรองเท้า สนนราคาก็เหยียบหมื่นบาท" หนุ่มแดน ทิ้งท้าย

เรียบเรียง - ดิษฐพงษ์ ภูศิริวรพันธุ์
ภาพโดย - ธัชกร กิจไชยภณ