ไบรอัน ร็อบสัน ตำนานกองกลางทีมชาติอังกฤษ เผยถึงสาเหตุที่ลาออกจากตำแหน่งกุนซือทีมชาติไทยว่าเป็นเพราะรู้สึกเหมือน “เอาหัวโขกกำแพง” จากการที่พยายามพัฒนาโครงสร้างหลักสูตรโค้ชในไทยแต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
“ร็อบโบ” วัย 54 ปียุติบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากทำงานได้เพียง 1 ปี 8 เดือน 17 วัน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าของฉายา “กัปตันมาร์เวล” บอกถึงสาเหตุของการตัดสินใจว่ามาจากปัญหาเรื่องสุขภาพที่ตนเป็นมะเร็งในลำคอ
อย่างไรก็ตาม อดีตมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจผ่านทางหนังสือพิมพ์ เดลี มิร์เรอร์ (Daily Mirror) ในบทสัมภาษณ์พิเศษหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้กับโรคมะเร็งในลำคอ, ความเปลี่ยนแปลงภายในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด, ไรอัน กิกส์, จุดพลิกผันในชีวิตก่อนมาเป็นนักฟุตบอล รวมทั้งการลาออกจากการคุมทีมชาติไทย
ซึ่งในประเด็นหลังสุด ร็อบสัน กล่าวว่า “ผมรู้สึกเหมือนเอาหัวไปโขกกับกำแพง หลังจากพยายามมาตลอด 2 ปีในการวางโครงสร้างหลักสูตราการฝึกสอนฟุตบอล แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ขณะที่ในอังกฤษ เรามีการวางโครงการระยะยาวนานสิบปีในการสร้างโค้ชรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาในเกมฟุตบอลทุกระดับ ตอนที่ผมผ่านหลักสูตรระดับโปร-ไลเซนส์ ผมคิดว่าน่าจะมีไม่ถึง 100 คนที่ผ่านการอบรม แต่ตอนนี้น่าจะมีประมาณ 2,000 คนได้”
“ผมตั้งใจว่าจะนำโครงสร้างดังกล่าวเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทย อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับคิดว่าหากคุณทำงานร่วมกับเหล่าผู้เล่นชั้นนำเพียง 1 สัปดาห์ก่อนเกมการแข่งขันก็จะช่วยให้มีความพร้อมมากขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานต้องเกิดขึ้นในทุกๆ วันที่สโมสรของพวกเขา ซึ่งผมรู้สึกว่าคงไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว”
ขณะเดียวกัน เดลี เมล์ (Daily Mail) แท็บลอยด์ชื่อดังอีกเล่มของเมืองผู้ดีมีรายงานว่า “ปิศาจแดง” กำลังทบทวนถึงบทบาททูตประจำสโมสรที่ ร็อบโบ ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ หลังจากถูกนักข่าวแฉผ่านทางคลิปวิดีโอว่ามีส่วนชี้ช่องให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลอังกฤษแบบไม่ซื่อด้วยการอาศัยช่องโหว่ของกฎ
“ร็อบโบ” วัย 54 ปียุติบทบาทหัวหน้าผู้ฝึกสอนฟุตบอลทีมชาติไทยชุดใหญ่ เมื่อวันที่ 8 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากทำงานได้เพียง 1 ปี 8 เดือน 17 วัน ซึ่งเบื้องต้นเจ้าของฉายา “กัปตันมาร์เวล” บอกถึงสาเหตุของการตัดสินใจว่ามาจากปัญหาเรื่องสุขภาพที่ตนเป็นมะเร็งในลำคอ
อย่างไรก็ตาม อดีตมิดฟิลด์แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ออกมาเปิดใจผ่านทางหนังสือพิมพ์ เดลี มิร์เรอร์ (Daily Mirror) ในบทสัมภาษณ์พิเศษหลายประเด็นไม่ว่าจะเป็นเรื่องการต่อสู้กับโรคมะเร็งในลำคอ, ความเปลี่ยนแปลงภายในทีม แมนฯ ยูไนเต็ด, ไรอัน กิกส์, จุดพลิกผันในชีวิตก่อนมาเป็นนักฟุตบอล รวมทั้งการลาออกจากการคุมทีมชาติไทย
ซึ่งในประเด็นหลังสุด ร็อบสัน กล่าวว่า “ผมรู้สึกเหมือนเอาหัวไปโขกกับกำแพง หลังจากพยายามมาตลอด 2 ปีในการวางโครงสร้างหลักสูตราการฝึกสอนฟุตบอล แต่สุดท้ายก็ไม่มีอะไรคืบหน้า ขณะที่ในอังกฤษ เรามีการวางโครงการระยะยาวนานสิบปีในการสร้างโค้ชรุ่นใหม่ๆ ขึ้นมาในเกมฟุตบอลทุกระดับ ตอนที่ผมผ่านหลักสูตรระดับโปร-ไลเซนส์ ผมคิดว่าน่าจะมีไม่ถึง 100 คนที่ผ่านการอบรม แต่ตอนนี้น่าจะมีประมาณ 2,000 คนได้”
“ผมตั้งใจว่าจะนำโครงสร้างดังกล่าวเข้ามาพัฒนาวงการฟุตบอลไทย อย่างไรก็ตาม พวกเขากลับคิดว่าหากคุณทำงานร่วมกับเหล่าผู้เล่นชั้นนำเพียง 1 สัปดาห์ก่อนเกมการแข่งขันก็จะช่วยให้มีความพร้อมมากขึ้น แต่แท้ที่จริงแล้วการทำงานต้องเกิดขึ้นในทุกๆ วันที่สโมสรของพวกเขา ซึ่งผมรู้สึกว่าคงไม่อาจทำอะไรได้มากไปกว่านี้แล้ว”
ขณะเดียวกัน เดลี เมล์ (Daily Mail) แท็บลอยด์ชื่อดังอีกเล่มของเมืองผู้ดีมีรายงานว่า “ปิศาจแดง” กำลังทบทวนถึงบทบาททูตประจำสโมสรที่ ร็อบโบ ดำรงตำแหน่งนี้อยู่ หลังจากถูกนักข่าวแฉผ่านทางคลิปวิดีโอว่ามีส่วนชี้ช่องให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อสโมสรฟุตบอลอังกฤษแบบไม่ซื่อด้วยการอาศัยช่องโหว่ของกฎ