เอเยนซี-เริ่มทวีความเข้มข้นแล้วสำหรับศึก โคปา อเมริกา 2011 เมื่อเวลานี้ได้ 8 อรหันต์ทะลุเข้าสู่รอบน็อกเอาท์ น่าจะพอกระชากคอลูกหนังชาวไทยให้ลุกจากที่นอนมาเกาะติดขอบจอกันตั้งแต่รุ่งอรุณ โดยเฉพาะคู่เอกของรอบนี้เป็นการเจอกันของสองทีมดีกรีแชมป์สูงสุด 14 สมัยเท่ากัน "เจ้าภาพ" อาร์เจนตินา พบ อุรุกวัย และเมื่อเหลือบมองจากสายแล้วมีโอกาสที่จะเป็นดรีมไฟนัล "ฟ้า-ขาว" ปะทะ "แชมป์เก่า" บราซิล ที่หนทางค่อนข้างเบากว่าอาจจะได้ลุ้นเข้าไปป้องกันแชมป์
สำหรับโฉมหน้า 4 คู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายมีดังนี้ สายบน โคลัมเบีย-เปรู และ อาร์เจนตินา-อุรุกวัย เตะเช้าวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคมนี้ ตามด้วยสายล่าง บราซิล-ปารากวัย และ ชิลี-เวเนซูเอลา เตะเช้าวันจันทร์ที่ 18 กรกฎาคมตามเวลาประเทศไทย ถือว่าไม่พลิกโผมีเพียงแขกรับเชิญอย่าง เม็กซิโก อันดับ 3 เมื่อครั้งที่แล้วทำผลงานน่าผิดหวังแพ้ 3 นัดรวดอมบ๊วยกลุ่ม ซี
คู่ที่น่าสนใจที่สุดคือ อาร์เจนตินา พบ อุรุกวัย เข้ารอบมาอย่างกระท่อนกระแท่นจากการคว้าชัยนัดสุดท้ายของกลุ่มเป็นอันดับ 2 ด้วยกันทั้งคู่ เซร์คิโอ บาติสตา กุนซือ "ฟ้าขาว" คลำจนมาได้ทีมที่ลงตัวในนัดที่ถล่ม คอสตา ริกา 3-0 ด้วยการส่ง อังเคล ดิ มาเรีย มาเป็นตัวเชื่อม หลัง 2 นัดแรกใช้กองกลางตัวรับถึง 3 คน คนที่คายพิษสงออกมาไม่ใช่ ลิโอเนล เมสซี แต่เป็น เซร์คิโอ อกูเอโร ซัดไปแล้ว 3 ประตู ทว่าจุดอ่อนของทีมอยู่ที่คู่เซนเตอร์ฮาล์ฟ นิโคลัส บูดิสโซ และ กาเบรียล มิลิโต ซึ่งค่อนข้างเชื่องช้า
ทว่า อุรุกวัย ที่คว้าอันดับ 4 ฟุตบอลโลก 2010 ไม่ใช่คู่ต่อกรของ อาร์เจนตินา ด้วยสภาพของ ดิเอโก ฟอร์ลัน ที่ร่วงโรยลงไปและ เอดินสัน คาวานี กรอบจากการเล่นให้ นาโปลี มีอาการบาดเจ็บ เหลือแค่ หลุยส์ ซัวเรซ ที่พอฝากผีฝากไข้ได้ ถ้า "ฟ้าขาว" ผ่านไปได้ด่านต่อไป โคลัมเบีย และ เปรู คงยากสร้างเซอร์ไพรส์ น่าจะทะลุเข้าสู่นัดชิงไม่ยาก
ขณะที่สายล่างทุกสายตาจับจ้องไปที่ บราซิล พบกับ ปารากวัย ชิมลางกันมาแล้วในรอบแบ่งกลุ่มๆ บี เสมอกันไป 2-2 แชมป์โลก 5 สมัยต้องกระเสือกกระสนตีเสมอช่วงท้ายเกม คราวนี้ต้องลุ้นว่าจะเป็นหนังม้วนเดิมหรือไม่ เพราะทัพแซมบ้าได้ความมั่นใจเต็มเปี่ยมจากการถล่ม เอกวาดอร์ 4-2 ส่วน ปารากวัย โดนตีเสมอท้ายเกม 2 นัดรวดเสมอ เวเนซูเอลา 3-3 จึงเข้ารอบมาในฐานะอันดับ 3 ที่ดีที่สุดอันดับ 2 ในตารางมินิลีก
หลังเกม มาโน เมเนเซส กุนซือที่พา บราซิล เบียด เวเนซูเอลา คว้าแชมป์กลุ่มด้วยประตูได้เสียที่ดีกว่าเผยว่า "ผมคิดว่าเราสามารถเล่นกันได้ดีกว่านี้ ทุกคนรู้ดี แต่ว่าตอนนี้ต้องแสดงให้เห็น ผมทำงานร่วมกับทุกคนและรู้ดี แน่นอนว่าฟอร์มที่ดีที่สุดจะมาในไม่ช้า เพราะทุกคนล้วนมีฝีเท้าโดดเด่น"
อย่างไรก็ตาม บราซิล ชุดนี้คือเน้นเลือดใหม่ไม่มีแข้งอย่าง กาก้า และ โรนัลดินโญ ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ ปาโต และ โรบินโญ จุดอ่อนอยู่ที่แผงกองกลางอย่าง รามิเรส, กานโซ และ ลูคัส ไม่มีจอมทัพตัวคุมจังหวะอย่างในอดีต ดุงกา หรือ กิลแบร์โต ซิลวา ทว่าคู่แข่งอย่าง ปารากวัย หรือสถานีหน้าอย่าง ชิลี หรือ เวเนซูอลา ก็ยากจะต่อกรน่าจะผ่านไปได้
ดูจากสายแล้วมีความเป็นไปได้ที่คู่ชิงจะเป็นรีแมตช์นัดชิงเมื่อ 4 ปีก่อน บราซิล ถล่ม 3-0 ระยะหลัง อาร์เจนตินา ตกเป็นลูกไล่มาโดยตลอดและผลงานก็ไม่สู้ดีแชมป์ครั้งสุดท้ายต้องย้อนไปในปี 1993 ทว่าโอกาสที่จะล้างตาและทวงความยิ่งใหญ่บนแดนละตินกลับคืนมาก็คือปีนี้ก็ต้องติดตามดูว่า "ฟ้าขาว" จะทำสำเร็จและได้ชูถ้วยแชมป์บนดินแดนของตัวเองหรือไม่วันที่ 24 กรกฎาคมนี้จะได้รู้กัน