ลือ! "โค้ชป้ำ" นั่งกุนซือปลาทูต่อจาก "พล"

เอสซีจี สมุทรสงคราม ตัดสินใจลดบทบาทของ พล ชมชื่น จากหัวหน้าผู้ฝึกสอนไปเป็นแมวมองประจำทีมแล้ว พร้อมทั้งมีข่าวลือว่าเตรียมดึง วรวรรณ ชิตะวณิช ที่ขอลาออกจาก แทมิเนส โรเวอร์ส ทีมในเอส-ลีก สิงคโปร์ มาเป็นกุนซือคนใหม่

โดยเรื่องนี้ สงคราม ตะวัน ผู้จัดการทีม “ปลาทูคะนอง” เปิดเผยว่าเกิดขึ้นภายหลังการประชุมสรุปผลงานของทีมหลังจบศึกสปอนเซอร์ ไทยพรีเมียร์ลีก 2011 เลกแรก ซึ่ง “โค้ชยศ” ทำผลงานไม่เข้าเป้าโดยเก็บชัยชนะเพียง 4 ครั้ง เสมอ 7 แพ้ 6 อยู่อันดับ 11 มี 19 คะแนน ถือว่าต่ำกว่าเป้าหมายของผู้บริหารที่ต้องการคว้าอันดับท็อปไฟว์ อย่างไรก็ตาม อดีตเฮดโค้ชราชวิถียังอยู่ในทีมสตาฟฟ์โค้ชเหมือนเดิม แต่จะไปทำหน้าที่เป็นสเกาต์คอยหานักเตะใหม่ๆ เข้ามาสู่ทีม

ส่วน “โค้ชหรั่ง” ชาญวิทย์ ผลชีวิน ก็ยังคงทำหน้าที่ประธานพัฒนาเทคนิคต่อไปเหมือนเดิม ขณะที่กุนซือคนใหม่มีกระแสลือมาระยะหนึ่งแล้วว่าเป็น วรวรรณ ชิตะวณิช ซึ่งทำงานอยู่ในศึกเอส-ลีก แดนลอดช่องมานานนับ 10 ปี และมีข่าวว่าเพิ่งลาออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการเทคนิคของ แทมปิเนส โรเวอร์ส มาหมาดๆ เพื่อกลับมารับงานในเมืองไทย โดยคาดว่า เอสซีจี สมุทรสงคราม จะมีการเปิดตัวนายใหญ่คนใหม่ในวันที่ 20 มิถุนายนนี้

ขณะเดียวกัน ภายหลังจับสลากประกบคู่ ฟุตบอลโตโยต้า ลีก คัพ 2011 รอบ 64 ทีม กันไปแล้ว ซึ่ง “ปลาทูคะนอง” จะได้บุกไปเยือน ปัตตานี จ่าฝูงโซนภาคใต้ของลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในวันเสาร์ที่ 18 มิถุนายนนี้ ด้าน สมศักดิ์ ศิริธรรม ประธานสโมสรฯ ก็ออกมากล่าวถึงเป้าหมายของทีมในรายการนี้ว่า “เราเล่นเต็มที่ในทุกรายการที่เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้น เป้าหมายจึงอยู่ที่การลุ้นแชมป์ เพราะนี่เป็นโอกาสหนึ่งของสโมสรในการไขว่คว้าความสำเร็จ อีกทั้งเงินรางวัลของทีมชนะเลิศที่สูงถึง 5 ล้านบาทก็เป็นแรงจูงใจชั้นดีด้วย”

ส่วนเรื่องการย้ายรังเหย้าจากสนาม อบจ.สมุทรสงคราม ไปเล่นที่สนามกีฬากลาง จ.ราชบุรี ซึ่งได้มาตรฐานตามเกณฑ์ของสหพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (เอเอฟซี) ที่จะมาประเมินภาพรวมของศึกไทยพรีเมียร์ลีกอีกครั้งในเดือนตุลาคมนี้ก่อนพิจารณามอบโควตาให้สโมสรตัวแทนจากไทยได้ไปเล่น เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ น่าจะพับแผนค่อนข้างแน่นอนแล้ว

โดย “บิ๊กเปี๊ยก” ชี้แจงว่า “การย้ายไปเล่นที่ราชบุรีมีความไม่สะดวกในหลายประการ ทั้งการบริหารจัดการสนามซึ่งตรงนั้นไม่ใช่บ้านของเราเอง การเดินทางของแฟนบอลซึ่งอาจจะมีแฟนบอลตามมาเชียร์ถึงขอบสนามน้อยลง และที่สำคัญที่สุดคือ หากเราย้ายสนามเหย้าจริงจะกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด เพราะในแต่ละครั้งที่มีเกมนัดเหย้าแฟนบอลทีมเยือนก็จะแวะไปเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ในจังหวัด เช่น แวะสักการะหลวงพ่อบ้านแหลม วัดเพชรสมุทรวรวิหาร เที่ยวตลาดน้ำอัมพวา ชมอุทยาน ร.2 เป็นต้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้ช่วยให้มีรายได้ไหลเวียนเข้ามาในจังหวัดสมุทรสงครามอย่างมหาศาล”

ท้ายสุด นายสมศักดิ์ เปิดเผยว่าองค์บริหารส่วนจังหวัดสมุทรสงครามได้อนุมัติงบประมาณมาให้กับสโมสรจำนวน 1.7 ล้านบาทแล้ว ซึ่งจะนำเงินก้อนนี้มาใช้ปรับปรุงสนามในช่วงปิดฤดูกาล 2011 โดยเบื้องต้นวางแผนว่าจะมีการก่อสร้างบ็อกซ์วีไอพีที่ชั้นบนสุดของอัฒจันทร์ฝั่งประธาน, ปรับปรุงห้องรับรองแขกวีไอพีใหม่เพื่อเพิ่มพื้นที่สำหรับสื่อมวลชน ตลอดจนสร้างอัฒจันทร์ฝั่งตรงข้ามขึ้นมาอีกบล็อกหนึ่งซึ่งจะทำให้สนามมีความจุเพิ่มขึ้นเป็น 5,500 คน