เดิร์ก โนวิตซกี นำ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ เขยิบใกล้โอกาสครองแชมป์ศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) สมัยแรกในประวัติศาสตร์ หลังไล่ทุบ ไมอามี ฮีท 112-103 คะแนน พลิกสถานการณ์กลับมานำ 3-2 เกม เมื่อช่วงเช้าวันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน 2554
ที่ดัลลัส : เหล่า "แมฟส์แมน" ในสนามอเมริกันแอร์ไลน์ส เซ็นเตอร์ นั่งไม่ติดเก้าอี้กันตั้งแต่ช่วง 2.45 นาทีสุดท้าย เมื่อ เดิร์ก โนวิตซกี ลุยขึ้นไปดั๊งก์สนั่นห่วงช่วยให้ ดัลลัส แมฟเวอร์ริกส์ ฮึดสุดกำลังในการเล่นในบ้านทิ้งทวนฤดูกาล 2010/11 ขอแค่บุกไปชิงอีกแค่เกมเดียวมาจากถิ่น ไมอามี ฮีท ก็จะได้สัมผัส "แลร์รี โอไบรอัน" ดั่งหวัง
เกมที่ แมฟเวอร์ริกส์ ชู้ตฟิลด์โกลระดับ 60 เปอร์เซ็นต์ มาตลอดสามควอเตอร์ ทว่า ฮีท ก็แม่นเอาการ (ตลอดเกมชู้ตฟิลด์โกลลงคิดเป็นร้อยละ 52.9) อย่างไรก็ดี เจ้าถิ่นอาศัยตัวช่วยที่หลากหลายดั่งที่แฟนๆ หวังไว้ นอกจาก โนวิตซกี กดคนเดียว 29 แต้ม 6 รีบาวด์ เจ.เจ.บาเรีย การ์ดร่างจิ๋วเปอร์โตริกันที่ยืนตัวจริงแทน เดอชอว์น สตีเวนสัน ขุนฟอร์มเด็ดทำ 17 แต้ม 5 แอสซิสต์ เจสัน คิดด์ กับ ทายสัน แชนด์เลอร์ เพิ่มเติมคนละ 13 แต้ม เจสัน เทอร์รี ลุกจากม้านั่งสำรองสอยอีก 21 แต้ม 4 รีบาวด์ 6 แอสซิสต์ ช่วยให้ "แมฟส์แมน" มีโอกาสถอนแค้น ฮีท จากเมื่อ 5 ปีก่อน ที่นำซีรีส์ 2-0 แล้วกลับมาพ่าย 2-4 เกม
ในส่วนของทีมเยือนอาศัย เลอบรอน เจมส์ เล่นเกมรุกตามสไตล์ทำ "ทริปเปิล-ดับเบิล" 17 แต้ม 10 รีบาวด์ 10 แอสซิสต์ ดีเวย์น เหว็ด ยังมีซีรีส์ยอดเยี่ยมได้อีก 23 แต้ม 8 แอสซิสต์ คริส บอช หนึ่งใน "บิ๊กทรี" เสริม 19 แต้ม 10 รีบาวด์ ถึงแม้ มาริโอ ชาลเมอร์ ลงมาช่วย 15 แต้ม อูโดนิส ฮาสเลม เพิ่มเติมไป 10 แต้ม 5 รีบาวด์ แต่ไม่ดีพอ อย่างไรก็ตาม ฮีท ยังจะได้กลับไปปิดซีรีส์ 2 เกมสุดท้ายที่อเมริกันแอร์ไลน์ส อารีนา ถ้าเกม 6 ไม่พ่ายคาถิ่นต่อ แมฟเวอร์ริกส์ เสียก่อน
ตามสถิติ เมื่อซีรีส์เสมอกัน 2-2 เกม ในรอบชิง 26 ครั้ง ปรากฏว่าทีมใดที่ชนะเกม 5 จะเข้าป้ายคว้าแชมป์ได้ 19 หน ดังนั้นแนวโน้มจึงเอนมาทาง "แมฟส์แมน" ทว่าย้อนกลับไปถึงอีกหนึ่งสถิติ เมื่อใดที่ซีรีส์เสมอกัน 1-1 เกม แล้วทีมใดชนะเกมที่ 3 ทั้ง 11 ครั้งก็ขึ้นเถลิงแชมป์เช่นกัน ซึ่ง ฮีท เป็นผู้ชนะเกม 3 ในซีรีส์ชิงใหญ่ปีนี้
