เดนนิส ร็อดแมน อดีตราชารีบาวด์แห่งศึกบาสเกตบอล เอ็นบีเอ (NBA) ปลื้มไม่น้อยที่เห็นสาวก "กระทิงเปลี่ยว" ชิคาโก บูลส์ ไม่ลืม ยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ในการกลับมาเยือนถิ่นยูไนเต็ด เซ็นเตอร์ อีกครั้ง
"เจ้าหนอน" เดนนิส ร็อดแมน ประสานงาน ไมเคิล จอร์แดน และ สกอตตี พิพเพน ช่วยกันนำ ชิคาโก บูลส์ ผงาดแชมป์สามสมัยระหว่างปี 1996-98 มาล่าสุด อดีตฟอร์เวิร์ดที่เล่นเกมรับเหนียวหนึบมีโอกาสกลับมาเยือนถิ่นเก่า นั่งชมรุ่นน้อง "กระทิงเปลี่ยว" เปิดบ้านปะทะ ไมอาฮีท ในเกมสองของรอบชิงแชมป์สายตะวันออก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่น
ซึ่ง ร็อดแมน ได้รับเกียรติให้ส่ง "บอลเกม" ให้กรรมการเพื่อนำไปใช้ในการแข่งขัน และช่วงที่โฆษกขานชื่อ "เดอะเวิร์ม" ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ อย่างล้นหลาม เล่นเอาเจ้าตัวปลื้มไม่น้อย "มันเป็นการนำความทรงจำเก่าๆ กลับมา มันเป็นความรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ ที่ทุกคนยังรักสิ่งที่คุณทำมาในชีวิต เมืองแห่งนี้ดีต่อผมมาก แต่ผมก็ประหลาดใจไม่น้อยที่มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ณ ตรงนี้"
นอกจากนี้ ร็อดแมน ยังกล่าวถึงบูลส์ ชุดปัจจุบัน ซึ่งเขาดูชื่นชอบ โจอาคิม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยันเป็นพิเศษ "ผมรักทีมนี้ ผมชอบ โนอาห์ เขาวิ่งไปทั่วกับทรงผมที่ดูขัดๆ ไปบ้าง แต่ผมก็รักหมอนี่ โนอาห์ ดูเหมือนผมทว่าเขาสูงกว่า ผมมองว่าซีรีส์จะจบลงใน 5 หรือ 6 เกม โดยเป็นบูลส์ที่ชนะ แม้ ไมอามี มีสามตัวเก่ง (เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช) พวกเขามีราคา 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าสังเกตให้ดีไม่มีใครสนใจผู้เล่นคนอื่นเลย"
"มันจึงยากที่จะจินตนาการว่าเรา (บูลส์) เป็นอย่าง ไมอามี หรือไม่ ที่ว่าบางคนการให้ความสำคัญอาจจะน้อยแต่เป็นผู้เล่นที่มีบทบาทกับเกม แน่นอนพวกคุณรู้จัก ไมเคิล จอร์แดน ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ สกอตตี (พิพเพน) ก็เป็นสตาร์เช่นกัน แต่ทุกคนคงรู้สึกมีความสุขไปด้วยที่เห็นผู้เล่นอย่าง จุด บูชเลอร์ส, สตีฟ เคอร์ส หรือ แรนดี บราวน์ คอยให้การสนับสนุนทีม" ผู้เล่นที่มีชื่อเข้าหอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) กล่าวต่อ
อีกทั้ง ร็อดแมน วัย 50 ปี ยังให้เครดิต ทอม ธีโบดัว หัวหน้าโค้ช "กระทิงเปลี่ยว" ที่ได้รับเลือกให้เป็นโค้ชแห่งปี 2010/11 "ทอม ทำทีมได้เยี่ยม เพราะเขาเน้นเกมรับเหนียวแน่น เหล่าผู้เล่นจึงเชื่อในการเล่นเกมรับมาเป็นอันดับแรก"
สุดท้าย "เจ้าหนอน" ดีกรีผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมแห่งปีของ NBA สองสมัย ทิ้งท้ายทำนองไม่ติดใจอะไรหาก บูลส์ ไม่คิดรีไทร์เสื้อ "หมายเลข 91" ให้ตน (ร็อดแมน ได้รับเกียรติรีไทร์เสื้อเบอร์ 10 จากดีทรอยต์ พิสตันส์ เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา) " มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา"
"เจ้าหนอน" เดนนิส ร็อดแมน ประสานงาน ไมเคิล จอร์แดน และ สกอตตี พิพเพน ช่วยกันนำ ชิคาโก บูลส์ ผงาดแชมป์สามสมัยระหว่างปี 1996-98 มาล่าสุด อดีตฟอร์เวิร์ดที่เล่นเกมรับเหนียวหนึบมีโอกาสกลับมาเยือนถิ่นเก่า นั่งชมรุ่นน้อง "กระทิงเปลี่ยว" เปิดบ้านปะทะ ไมอาฮีท ในเกมสองของรอบชิงแชมป์สายตะวันออก เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมาตามวัน-เวลาท้องถิ่น
ซึ่ง ร็อดแมน ได้รับเกียรติให้ส่ง "บอลเกม" ให้กรรมการเพื่อนำไปใช้ในการแข่งขัน และช่วงที่โฆษกขานชื่อ "เดอะเวิร์ม" ได้รับเสียงเชียร์จากแฟนๆ อย่างล้นหลาม เล่นเอาเจ้าตัวปลื้มไม่น้อย "มันเป็นการนำความทรงจำเก่าๆ กลับมา มันเป็นความรู้สึกเหลือเชื่อจริงๆ ที่ทุกคนยังรักสิ่งที่คุณทำมาในชีวิต เมืองแห่งนี้ดีต่อผมมาก แต่ผมก็ประหลาดใจไม่น้อยที่มันเกิดขึ้นอีกครั้ง ณ ตรงนี้"
นอกจากนี้ ร็อดแมน ยังกล่าวถึงบูลส์ ชุดปัจจุบัน ซึ่งเขาดูชื่นชอบ โจอาคิม โนอาห์ เซ็นเตอร์จอมขยันเป็นพิเศษ "ผมรักทีมนี้ ผมชอบ โนอาห์ เขาวิ่งไปทั่วกับทรงผมที่ดูขัดๆ ไปบ้าง แต่ผมก็รักหมอนี่ โนอาห์ ดูเหมือนผมทว่าเขาสูงกว่า ผมมองว่าซีรีส์จะจบลงใน 5 หรือ 6 เกม โดยเป็นบูลส์ที่ชนะ แม้ ไมอามี มีสามตัวเก่ง (เลอบรอน เจมส์, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช) พวกเขามีราคา 500 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่ถ้าสังเกตให้ดีไม่มีใครสนใจผู้เล่นคนอื่นเลย"
"มันจึงยากที่จะจินตนาการว่าเรา (บูลส์) เป็นอย่าง ไมอามี หรือไม่ ที่ว่าบางคนการให้ความสำคัญอาจจะน้อยแต่เป็นผู้เล่นที่มีบทบาทกับเกม แน่นอนพวกคุณรู้จัก ไมเคิล จอร์แดน ว่าเป็นซูเปอร์สตาร์ สกอตตี (พิพเพน) ก็เป็นสตาร์เช่นกัน แต่ทุกคนคงรู้สึกมีความสุขไปด้วยที่เห็นผู้เล่นอย่าง จุด บูชเลอร์ส, สตีฟ เคอร์ส หรือ แรนดี บราวน์ คอยให้การสนับสนุนทีม" ผู้เล่นที่มีชื่อเข้าหอเกียรติยศ (ฮอล ออฟ เฟม) กล่าวต่อ
อีกทั้ง ร็อดแมน วัย 50 ปี ยังให้เครดิต ทอม ธีโบดัว หัวหน้าโค้ช "กระทิงเปลี่ยว" ที่ได้รับเลือกให้เป็นโค้ชแห่งปี 2010/11 "ทอม ทำทีมได้เยี่ยม เพราะเขาเน้นเกมรับเหนียวแน่น เหล่าผู้เล่นจึงเชื่อในการเล่นเกมรับมาเป็นอันดับแรก"
สุดท้าย "เจ้าหนอน" ดีกรีผู้เล่นเกมรับยอดเยี่ยมแห่งปีของ NBA สองสมัย ทิ้งท้ายทำนองไม่ติดใจอะไรหาก บูลส์ ไม่คิดรีไทร์เสื้อ "หมายเลข 91" ให้ตน (ร็อดแมน ได้รับเกียรติรีไทร์เสื้อเบอร์ 10 จากดีทรอยต์ พิสตันส์ เมื่อวันที่ 1 เมษายนที่ผ่านมา) " มันก็ขึ้นอยู่กับพวกเขา"
