ผีย้ำแค้นสิงห์ควงบาร์ซาลิ่วยูซีแอล

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ ศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก หลังจากย้ำแค้นเอาชนะ เชลซี ที่เหลือผู้เล่น 10 คนอีก 2-1 ในเกมรอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง เมื่อคืนวันอังคารที่ 12 เมษายนที่ผ่านมา รวมผลสองนัดเอาชนะ 3-1 เช่นเดียวกับ บาร์เซโลนา ที่บุกเข่น ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค อีก 1-0 รวมชนะ 6-1

ผลฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบ 8 ทีมสุดท้าย เลกสอง
แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 เชลซี (รวมผลสองนัด แมนฯ ยูไนเต็ด ผ่านเข้ารอบด้วยประตูรวมชนะ 3-1)

ศึกฟุตบอลยูฟา แชมเปียนส์ ลีก รอบก่อนรองชนะเลิศ เลกสอง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดสนามโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รับ เชลซี โดย "ผีแดง" กุมความได้เปรียบจากการบุกชนะเลกแรก 1-0 สำหรับเกมนี้ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ตัดสินใจพัก ดิมิทาร์ เบอร์บาตอฟ ทำให้คู่หน้าเป็น เวย์น รูนีย์ ล่าตาข่ายกับ ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ ขณะที่ คาร์โล อันเชล็อตติ กุนซือ "สิงห์บลูส์" ยังให้โอกาส เฟร์นานโด ตอร์เรส ลงมาจับคู่กับ นิโกลาส์ อเนลกา

ทั้งสองทีมสู้กันอย่างสูสีเมื่อเริ่มครึ่งแรก เชลซี มีโอกาสลุ้นประตูก่อนในนาที 10 นิโกลาส์ อเนลกา เปิดบอลจากกราบขวาไปทางเสาสอง เฟร์นานโด ตอร์เรส โดดสูงกว่า ริโอ เฟอร์ดินานด์ โหม่งหลุดเสาสอง อีก 3 นาทีถัดมาทีมเยือนบุกมาอีกครั้ง เฟอร์ดินานด์ โหม่งเคลียร์ทิ้งไม่ดีมาเข้าทาง ตอร์เรส พลิกยิงไม่ได้จึงแตะย้อนมาให้ อเนลกา ซัดจากนอกเขตโทษไม่ตรงกรอบ

แมนฯ ยูไนเต็ด ตอบโต้กลับบ้างในนาที 14 เวย์น รูนีย์ ได้ฮาล์ฟวอลเลย์จากระยะ 25 หลา บอลพุ่งไปเข้ามือ ปีเตอร์ เช็ก รับเข้าซอง หลังจากนั้นสิงห์บลูส์โต้กลับเร็ว ฟลอรองต์ มาลูดา กระชากบอลแหวกแนวรับเจ้าถิ่น 2-3 คนจนหลุดเข้าเขตโทษ ก่อนผ่านเรียดมาให้ แฟรงค์ แลมพาร์ด แปเน้นๆถูก เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์ ล้มตัวรับไว้ได้

นาที 21 ปาร์ค จี-ซอง มีแผลแตกบริเวณคิ้วซ้ายต้องออกไปปฐมพยาบาล เชลซี ใช้โอกาสนี้ทำเกมบุกกดดันเจ้าถิ่นกระทั่ง แอชลีย์ โคล ทำเกมขึ้นมาทางซ้ายก่อนเปิดเข้ามาในเขตโทษ จอห์น โอเชีย โหม่งเคลียร์มาเข้าทาง อเนลกา วอลเลย์จากนอกเขตโทษหลุดสามเหลี่ยมนิดเดียว

ผีแดงเกือบได้ประตูออกนำในนาที 26 จากจังหวะที่ รูนีย์ ได้บอลทางริมเส้นด้านขวา ก่อนโยกหลบ มาลูดา แล้วเปิดเข้ากลาง ชิชาริโต โหม่งเต็มศีรษะเข้าตุงตาข่าย แต่ผู้กำกับเส้นยกธงล้ำหน้าจึงไม่ได้ประตู โอกาสลุ้นประตูของทั้งสองทีมหายไปพักใหญ่ กระทั่งก่อนจบครึ่งแรก 2 นาที กิ๊กส์ ได้บอลทางกราบขวาทำชิ่งกับ โอเชีย แล้วลากเข้าไปในเขตโทษ ก่อนเปิดบอลไปทางเสาสอง ชิชาริโต ชาร์จเสียบใต้คานทำให้ แมนฯ ยูไนเต็ด นำ 1-0 เมื่อจบครึ่งแรก

เกมครึ่งหลัง ดิดิเยร์ ดร็อกบา ถูกเปลี่ยนตัวลงมาแทนที่ ตอร์เรส โดยที่ เชลซี เป็นฝ่ายเดินเกมบุกทันที ในนาที 53 โคล ทำเกมขึ้นมาทางกราบซ้าย ก่อนเปิดมาให้ มาลูดา สับไกด้วยซ้ายหลุดเสาแรก อีก 4 นาทีถัดมา ดร็อกบา ประสานงานกับ อเนลกา ก่อนพลิกตัวยิงหน้าเขตโทษไม่ตรงกรอบอีก จากนั้นนาที 60 ดร็อกบา ลองส่องฟรีคิกบริเวณมุมเขตโทษด้านขวาให้ ฟาน เดอร์ ซาร์ ออกแรกพุ่งปัดออกไป

แมนฯ ยูไนเต็ด ได้โอกาสลุ้นเช่นกันในนาที 69 นานี เก็บอลได้ทางกราบซ้าย ก่อนเลี้ยงตัดมายิงหน้าเขตโทษให้ เช็ก ปัดทิ้งออกหลัง แต่แล้วนาทีถัดมารามิเรส ไปทำฟาวล์ นานี จนถูกใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกทำให้ทีมเยือนเหลือผู้เล่นแค่ 10 คน

แต่ เชลซี ซึ่งเหลือผู้เล่นน้อยกว่าก็ยังทำเกมได้ดี ในนาที 74 ดร็อกบา พลิกตัวยิงในเขตโทษไปเข้ามือนายด่านชาวดัตช์ กระทั่งนาที 76 ดาวยิงชาวไอเวอรี โคสต์ มายิงประตูให้ทีมเยือนตามตีเสมอ 1-1 หลังได้บอลจากการโยนยาวของ ไมเคิล เอสเซียง บริเวณกลางสนามหลุดเข้าไปยิงผ่านตัว ฟาน เดอร์ ซาร์ ตุงตาข่าย

อย่างไรก็ตาม ผีแดง ก็มาทำสกอร์ขึ้นนำ 2-1 แบบทันควันในนาทีถัดมา จากจังหวะที่ ไรอัน กิ๊กส์ เก็บบอลได้หน้าเขตโทษ ก่อนยกบอลมาให้ ปาร์ค หลุดเข้ายิงสวนตัว เช็ก เข้าทางเสาไกล ช่วงเวลาที่เหลือ สิงห์บลูส์ พยายามบุกหนัก แต่ก็ไม่สามารถเจาะตาข่ายเจ้าบ้านได้ สุดท้ายจบ 90 นาที แมนฯ ยูไนเต็ด ย้ำแค้นไปอีก 2-1 รวมสองนัดเอาชนะ 3-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศไปรอพบผู้ชนะระหว่างแชมป์เก่า อินเตอร์ มิลาน หรือ ชาลเก 04

ขณะที่ผลการแข่งขันอีกคู่ บาร์เซโลนา จากศึกลาลีกา สเปน ซึ่งชนะมาก่อนนัดแรก 5-1 บุกไปเฉือนเอาชนะ ชัคเตอร์ โดเน็ทส์ค ที่ยูเครนอีก 1-0 จากประตูชัยของ ลีโอเนล เมสซี ในนาที 43 รวมผลสองนัดเป็นฝ่ายเอาชนะ 6-1 ผ่านเข้าสู่รอบตัดเชือกไปรอพบผู้ชนะระหว่าง รีล มาดริด เพื่อนร่วมลีก หรือ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ จากอังกฤษ

รายชื่อผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
แมนฯ ยูไนเต็ด : เอ็ดวิน ฟาน เดอร์ ซาร์, เนมานยา วิดิช, ริโอ เฟอร์ดินานด์, ปาทริซ เอฟรา, จอห์น โอเชีย, ไรอัน กิ๊กส์, ไมเคิล คาร์ริก, ปาร์ค จี-ยอง, นานี, เวย์น รูนีย์, ฮาเวียร์ เฮอร์นานเดซ
เชลซี : ปีเตอร์ เช็ก, จอห์น เทอร์รี, อเล็กซ์, แอชลีย์ โคล, บรานิสลาฟ อีวาโนวิช, ไมเคิล เอสเซียง, แฟรงค์ แลมพาร์ด, รามิเรส, ฟลอรองต์ มาลูดา, เฟร์นานโด ตอร์เรส, นิโกลาส์ อเนลกา