แอนดี คาร์โรลล์ เบิ้ลสกอร์ช่วยให้ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดรังไล่จิก "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี กระเจิง 3-0 ในศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำคืนวันจันทร์ที่ 11 เมษายน 2554
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 แมนเชเสตอร์ ซิตี
เคนนี ดัลกลิช นำทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี โดยเจ้าถิ่นขาดตัวหลักที่เจ็บหลายรายทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด, แดนเนียล แอ็กเกอร์ หรือว่า เกล็น จอห์นสัน ทำให้ต้องส่งดาวรุ่งอย่าง จอห์น ฟลาเนแกน ลงยืนแบ็กขวา แนวรุกใช้ หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่ แอนดี คาร์โรลล์ ด้าน โรแบร์โต มันชินี พาทีมเยือนมากันเต็มสูบ แดนกลางใช้ เจมส์ มิลเนอร์ กับ อดัม จอห์นสัน คอยเปิดบอลให้ คาร์ลอส เตเบซ กับ เอดิน เซโก ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันไป 5 นาที ลิเวอร์พูล ได้โอกาสก่อนจากการลุยของ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนจิ้มให้ เดิร์ก เคาท์ สับไกจากนอกกรอบเหินเกินไป สองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูเป็นที่สุดเมื่อ ซัวเรซ อาศัยความเร็วกระชากเข้าไปยิงด้วยซ้ายบอลแฉลบมือ โจ ฮาร์ท เปลี่ยนทางไปชนเสาออกมา บี้อยู่พักใหญ่ "หงส์แดง" ก็จิกนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 จากจังหวะ ราอูล เมเรเลส ยิงจังหวะแรกติดบล็อก แว็งซองต์ กอมปานี มาเข้าทาง แอนดี คาร์โรลล์ กระหน่ำด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงาม
15 นาทีผ่านไป แมนฯ ซิตี ต้องเปลี่ยนเอา คาร์ลอส เตเบซ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ลงไปเล่นแทน ทีมเยือนได้โงหัวขึ้นมาบ้าง อดัม จอห์นสัน เปิดให้ เอดิน เซโก ขวิดหลุดเสาแรกไป โอกาสของ "เรือใบสีฟ้า" เริ่มมีมากขึ้น เซโก หาจังหวะได้ยิงแต่ยังไม่ตรงเป้าหมาย ทว่าถึงนาที 33 กลายเป็นเจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 เมื่อแผงหลังผู้มาเยือนสกัดบอลกันไม่ขาดมาเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ แปเล่นทางหนีมือ ฮาร์ท เสียบตาข่าย สองนาทีถัดมา "หงส์แดง" ได้ใจหนี 3-0 เมเรเลส เปิดให้ คาร์โรลล์ โถมโขกไม่เหลือ จบครึ่งแรก "เดอะค็อป" นั่งเชียร์กันสบายใจ
ลุยต่อครึ่งหลัง ยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าบุก เคาท์ ได้โฉบมาโขกลูกเตะมุมที่เสาแรกบอลถากเสาไกลออกไป เกมของ แมนฯ ซิตี ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทำให้ โรแบร์โต มันชินี ต้องส่งเอา ดาบิด ซิลบา ลงมาปั้นเกมแทน เจมส์ มิลเนอร์ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก จากนั้นทีมเยือนได้ครองบอลมากขึ้น ก็เนื่องจากผู้เล่นเจ้าบ้านลงไปเน้นตั้งเกมรับ ทำให้ บาโลเตลลี ต้องลองยิงไกลแต่ก็เหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
นาที 69 "หงส์แดง" เกือบใส่สกอร์ได้อีก จากความขยันของ เมเรเลส กระดกบอลเข้ามาให้ ซัวเรซ ยิงไปติดบล็อกจังหวะแรก เคาท์ ซ้ำกระฉอกมาเข้าทางดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย แต่คราวนี้ตะบันบอลปลิ้นหลังเท้าเออกไป ถัดมา กองหลังทีมเยือนยังโหม่งบอลพลาด ซัวเรซ แตะให้ เคาท์ ยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านเสาสองไป "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้เหมือนกันถ้า โฆเซ เรนา ไม่ทุบลูกยิงเต็มข้อของ ยายา ตูเร เอาไว้ ท้ายเกม คาร์โรลล์ เกือบทำแฮตทริกถ้าลูกโหม่งไม่สูงเกินไป อย่างไรก็ตาม หมดเวลา ลิเวอร์พูล ถล่มชัยเก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนจาก 32 นัด ยังอยู่ที่ 6 ตามหลัง แมนฯ ซิตีโควตาสุดท้ายไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ ลีก (อันดับ 4) อยู่ 8 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , จอห์น ฟลาเนแกน, เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เดิร์ก เคาท์ , ลูคัส เลวา , เจย์ สเพียริง , ราอูล เมเรเลส , หลุยส์ ซัวเรซ , แอนดี คาร์โรลล์
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ดีเร็ค โบยาตา , แว็งซองต์ กอมปานี , โจลีออน เลสค็อตต์ , อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , ยายา ตูเร , แกเร็ธ แบร์รี , อดัม จอห์นสัน , คาร์ลอส เตเบซ , เอดิน เซโก
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ลิเวอร์พูล 3-0 แมนเชเสตอร์ ซิตี
เคนนี ดัลกลิช นำทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล เปิดแอนฟิลด์ รับการมาเยือนของ "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี โดยเจ้าถิ่นขาดตัวหลักที่เจ็บหลายรายทั้ง สตีเวน เจอร์ราร์ด, แดนเนียล แอ็กเกอร์ หรือว่า เกล็น จอห์นสัน ทำให้ต้องส่งดาวรุ่งอย่าง จอห์น ฟลาเนแกน ลงยืนแบ็กขวา แนวรุกใช้ หลุยส์ ซัวเรซ จับคู่ แอนดี คาร์โรลล์ ด้าน โรแบร์โต มันชินี พาทีมเยือนมากันเต็มสูบ แดนกลางใช้ เจมส์ มิลเนอร์ กับ อดัม จอห์นสัน คอยเปิดบอลให้ คาร์ลอส เตเบซ กับ เอดิน เซโก ลุ้นสกอร์
เริ่มเกมการแข่งขันไป 5 นาที ลิเวอร์พูล ได้โอกาสก่อนจากการลุยของ หลุยส์ ซัวเรซ ก่อนจิ้มให้ เดิร์ก เคาท์ สับไกจากนอกกรอบเหินเกินไป สองนาทีถัดมาเจ้าถิ่นน่าจะได้ประตูเป็นที่สุดเมื่อ ซัวเรซ อาศัยความเร็วกระชากเข้าไปยิงด้วยซ้ายบอลแฉลบมือ โจ ฮาร์ท เปลี่ยนทางไปชนเสาออกมา บี้อยู่พักใหญ่ "หงส์แดง" ก็จิกนำ 1-0 ในนาทีที่ 12 จากจังหวะ ราอูล เมเรเลส ยิงจังหวะแรกติดบล็อก แว็งซองต์ กอมปานี มาเข้าทาง แอนดี คาร์โรลล์ กระหน่ำด้วยซ้ายบอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างงดงาม
15 นาทีผ่านไป แมนฯ ซิตี ต้องเปลี่ยนเอา คาร์ลอส เตเบซ ที่บาดเจ็บเล่นต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับส่ง มาริโอ บาโลเตลลี ลงไปเล่นแทน ทีมเยือนได้โงหัวขึ้นมาบ้าง อดัม จอห์นสัน เปิดให้ เอดิน เซโก ขวิดหลุดเสาแรกไป โอกาสของ "เรือใบสีฟ้า" เริ่มมีมากขึ้น เซโก หาจังหวะได้ยิงแต่ยังไม่ตรงเป้าหมาย ทว่าถึงนาที 33 กลายเป็นเจ้าบ้านหนีห่าง 2-0 เมื่อแผงหลังผู้มาเยือนสกัดบอลกันไม่ขาดมาเข้าทาง เดิร์ก เคาท์ แปเล่นทางหนีมือ ฮาร์ท เสียบตาข่าย สองนาทีถัดมา "หงส์แดง" ได้ใจหนี 3-0 เมเรเลส เปิดให้ คาร์โรลล์ โถมโขกไม่เหลือ จบครึ่งแรก "เดอะค็อป" นั่งเชียร์กันสบายใจ
ลุยต่อครึ่งหลัง ยังเป็น ลิเวอร์พูล ที่เดินหน้าบุก เคาท์ ได้โฉบมาโขกลูกเตะมุมที่เสาแรกบอลถากเสาไกลออกไป เกมของ แมนฯ ซิตี ยังไม่มีอะไรดีขึ้นเมื่อผ่านหนึ่งชั่วโมงเต็ม ทำให้ โรแบร์โต มันชินี ต้องส่งเอา ดาบิด ซิลบา ลงมาปั้นเกมแทน เจมส์ มิลเนอร์ ที่โชว์ฟอร์มไม่ออก จากนั้นทีมเยือนได้ครองบอลมากขึ้น ก็เนื่องจากผู้เล่นเจ้าบ้านลงไปเน้นตั้งเกมรับ ทำให้ บาโลเตลลี ต้องลองยิงไกลแต่ก็เหินข้ามคานแบบไม่ได้ลุ้น
นาที 69 "หงส์แดง" เกือบใส่สกอร์ได้อีก จากความขยันของ เมเรเลส กระดกบอลเข้ามาให้ ซัวเรซ ยิงไปติดบล็อกจังหวะแรก เคาท์ ซ้ำกระฉอกมาเข้าทางดาวยิงทีมชาติอุรุกวัย แต่คราวนี้ตะบันบอลปลิ้นหลังเท้าเออกไป ถัดมา กองหลังทีมเยือนยังโหม่งบอลพลาด ซัวเรซ แตะให้ เคาท์ ยิงด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านเสาสองไป "เรือใบสีฟ้า" เกือบได้เหมือนกันถ้า โฆเซ เรนา ไม่ทุบลูกยิงเต็มข้อของ ยายา ตูเร เอาไว้ ท้ายเกม คาร์โรลล์ เกือบทำแฮตทริกถ้าลูกโหม่งไม่สูงเกินไป อย่างไรก็ตาม หมดเวลา ลิเวอร์พูล ถล่มชัยเก็บเพิ่มเป็น 48 คะแนนจาก 32 นัด ยังอยู่ที่ 6 ตามหลัง แมนฯ ซิตีโควตาสุดท้ายไปเตะยูฟา แชมเปียนส์ ลีก (อันดับ 4) อยู่ 8 แต้ม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , จอห์น ฟลาเนแกน, เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , ฟาบิโอ ออเรลิโอ , เดิร์ก เคาท์ , ลูคัส เลวา , เจย์ สเพียริง , ราอูล เมเรเลส , หลุยส์ ซัวเรซ , แอนดี คาร์โรลล์
แมนฯ ซิตี : โจ ฮาร์ท , ดีเร็ค โบยาตา , แว็งซองต์ กอมปานี , โจลีออน เลสค็อตต์ , อเล็กซานดาร์ โคลารอฟ , เจมส์ มิลเนอร์ , ยายา ตูเร , แกเร็ธ แบร์รี , อดัม จอห์นสัน , คาร์ลอส เตเบซ , เอดิน เซโก
