"ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เปิดรังไล่ทุบ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล 3-1 เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2554 พร้อมกับหนีบ๊วยแซงทั้ง เวสต์บรอมวิช อัลเบียน และ วีแกน แอธเลติก ขึ้นมารั้งอันดับ 18 ของตารางพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล
เคนนี ดัลกลิช มีการปรับทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในการมาเยือน "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อได้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ฟิตกลับมาค้ำกลางร่วมกับ ราอูล เมเรเลส ขณะที่แนวรับยังไว้ใจให้ แดนนี วิลสัน ปักหลักแบ็กซ้ายเหมือนในศึกยูโรปา ลีก ที่ทำผลงานได้ดี แนวรุกได้ หลุยส์ ซัวเรซ ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ เดิร์ก เคาท์ ทางฝั่งเจ้าถิ่น อัฟราม แกรนท์ ได้ แม็ทธิว อัพสัน กลับมาช่วยแผงรับ แผงมิดฟิลด์มีผึ้งงานอย่าง สกอตต์ พาร์เกอร์ กับ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ เป็นตัวอันตราย คู่หน้าเลือก เดมบา บา ประสานงาน เฟรเดริก ปิกิยอน
เริ่มเกมการแข่งขัน เวสต์แฮม ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะตะบันด้วยซ้ายจากระยะกว่า 35 หลาของ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ บอลลอยโด่งไปเข้าซอง โฆเซ เรนา จากนั้น ลิเวอร์พูล ลุยขึ้นมาบ้าง มาร์ติน เคลลี สาดแบบได้เสียไปเสาสอง ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ต้องเตะทิ้งออกหลัง จากลูกเตะมุม เกล็น จอห์นสัน ลอยตัวโขกได้ลุ้นทว่า เฟรเดริก ปิกิยอน ลงมาช่วยเคลียร์สกัดออกไปได้ นาทีที่ 20 "ขุนค้อน" ต่อบอลกันขึ้นมา เดมบา บา ไหลคืนหลังให้ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ซัดไกลอีกครั้งแต่ยังไม่ผ่านมือ เรนา
ถึงครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี เจ้าบ้านก็ออกนำ 1-0 จากการต่อบอลขึ้นมา ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ชิ่งให้ สกอตต์ พาร์เกอร์ หลุดเข้าไปดีดด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมอย่างสวยงาม จนปัญญาที่ เรนา จะเหยียดมือไปปัดไว้ได้ พอโดนไปก่อน "หงส์แดง" ต้องลุยกันมากขึ้นจากจังหวะสวนกลับเร็ว เดิร์ก เคาท์ ได้ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย ผ่านครึ่งชั่วโมงกลายเป็น เวสต์แฮม ที่กลับมาคุมสถานการณ์ครองเกมได้เหนือกว่า ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก "ขุนค้อน" ก็ตอกนำเป็น 2-0 เมื่อ แกรี โอนีล ตักบอลจากกราบขวาให้ บา ขวิดบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
ลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ไม่รีรอเป็นฝ่ายเดินเกมรุกเร้าใส่ทันที แต่ผ่านไปแค่ 3 นาที "คิง เคนนี" ก็ต้องถอดเอา ราอูล เมเรเลส ที่เจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกฝืดต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับเติม ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาเล่นแทน ปรับแท็คติกถ่าง เคาท์ ไปทำเกมทางขวา นาที 52 เวสต์แฮม ตัดบอลตรงกลางได้ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ แทงให้ บา ยิงหักข้อด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านเสาไปแบบได้เสียว หนึ่งชั่วโมงพอดี ทีมเยือนน่าจะได้ประตูตีไข่แตกเป็นที่สุด สตีเวน เจอร์ราร์ด ดีดต่อให้ หลุยส์ ซัวเรซ สกัดการประกบของ เจมส์ ทอมกินส์ เข้าไปส่องด้วยขวาทว่า กรีน พุ่งปัดออกหลังไปได้
จังหวะสวนกลับมา โอนีล เกือบทำให้เจ้าถิ่นหนีห่างเมื่อแตะหนี แดนนี วิลสัน ซึ่งค่อนข้างผิดพลาดในเกมนี้ แต่บอลแฉลบตัว เจมี คาร์ราเกอร์ หลุดกรอบไป นาที 66 "ขุนค้อน" เกือบทิ้งห่างถ้า ปิกิยอน ไม่โขกบอลลงพื้นหลุดเสาไป เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย "สตีวี จี" ได้ตะบันเป็นครั้งแรกโดน กรีน ปัดปลายมือพ้นคาน ถัดมา ปิกิยอน ส่องไกล เรนา รับกระฉอกเกือบปลิ้นเข้าประตูเหมือนกัน ก่อนหมดเวลา 6 นาที ทีมเยือนตีไข่แตกไล่มา 1-2 เมื่อ ซัวเรซ ผ่านให้ จอห์นสัน เข้าฮอร์สง่ายๆ ทว่าช่วงทดเจ็บ คาร์ตัน โคล ลงมาเป็นสำรองยิงฝังชัย 3-1 ให้ เวสต์แฮม มีเพิ่มเป็น 28 คะแนนจาก 28 นัด หนีบ๊วยขึ้นมารั้งอันดับ 18 ของตาราง พร้อมกับเขี่ย วีแกน ลงไปจมปลักแทน ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีอยู่ 39 แต้ม รั้งอันดับ 6 ดังเดิม
ส่วนผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอีกคู่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เสมอกับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม 1-1 โดยเจ้าบ้านออกนำไปก่อนจาก มาริโอ บาโลเตลลี นาทีที่ 26 ก่อนที่ เดเมียน ดัพฟ์ จะทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 48 แบ่งกันไปคนละหนึ่งแต้ม ส่วนอันดับตาราง แมนฯซิตี ยังคงอยู่อันดับที่ 3 เก็บแต้มเพิ่มเป็น 50 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ 10 คะแนน ส่วนฟูแลมก็ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13 โดยมีแต้มเท่ากับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ แบล็คพูล ที่ 32 คะแนน แต่ลูกได้เสียดีกว่าทั้งสองทีม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , ลาร์ส ยาค็อบเซน , เจมส์ ทอมกินส์ , แม็ทธิว อัพสัน , เวย์น บริดจ์ , แกรี โอนีล , มาร์ค โนเบิล , สกอตต์ พาร์เกอร์ , โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ , เดมบา บา , เฟรเดริก ปิกิยอน
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , มาร์ติน เคลลี , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , แดนนี วิลสัน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ลูคัส เลวา , ราอูล เมเรเลส , เกล็น จอห์นสัน , เดิร์ก เคาท์ , หลุยส์ ซัวเรซ
ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 3-1 ลิเวอร์พูล
เคนนี ดัลกลิช มีการปรับทัพ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ในการมาเยือน "ขุนค้อน" เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เมื่อได้ สตีเวน เจอร์ราร์ด ฟิตกลับมาค้ำกลางร่วมกับ ราอูล เมเรเลส ขณะที่แนวรับยังไว้ใจให้ แดนนี วิลสัน ปักหลักแบ็กซ้ายเหมือนในศึกยูโรปา ลีก ที่ทำผลงานได้ดี แนวรุกได้ หลุยส์ ซัวเรซ ยืนล่าตาข่ายร่วมกับ เดิร์ก เคาท์ ทางฝั่งเจ้าถิ่น อัฟราม แกรนท์ ได้ แม็ทธิว อัพสัน กลับมาช่วยแผงรับ แผงมิดฟิลด์มีผึ้งงานอย่าง สกอตต์ พาร์เกอร์ กับ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ เป็นตัวอันตราย คู่หน้าเลือก เดมบา บา ประสานงาน เฟรเดริก ปิกิยอน
เริ่มเกมการแข่งขัน เวสต์แฮม ได้ลุ้นก่อนจากจังหวะตะบันด้วยซ้ายจากระยะกว่า 35 หลาของ โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ บอลลอยโด่งไปเข้าซอง โฆเซ เรนา จากนั้น ลิเวอร์พูล ลุยขึ้นมาบ้าง มาร์ติน เคลลี สาดแบบได้เสียไปเสาสอง ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ต้องเตะทิ้งออกหลัง จากลูกเตะมุม เกล็น จอห์นสัน ลอยตัวโขกได้ลุ้นทว่า เฟรเดริก ปิกิยอน ลงมาช่วยเคลียร์สกัดออกไปได้ นาทีที่ 20 "ขุนค้อน" ต่อบอลกันขึ้นมา เดมบา บา ไหลคืนหลังให้ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ซัดไกลอีกครั้งแต่ยังไม่ผ่านมือ เรนา
ถึงครึ่งทางของครึ่งแรกพอดี เจ้าบ้านก็ออกนำ 1-0 จากการต่อบอลขึ้นมา ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ ชิ่งให้ สกอตต์ พาร์เกอร์ หลุดเข้าไปดีดด้วยขวาส่งบอลเสียบมุมอย่างสวยงาม จนปัญญาที่ เรนา จะเหยียดมือไปปัดไว้ได้ พอโดนไปก่อน "หงส์แดง" ต้องลุยกันมากขึ้นจากจังหวะสวนกลับเร็ว เดิร์ก เคาท์ ได้ซัดด้วยซ้ายบอลพุ่งเข้าแค่ข้างตาข่าย ผ่านครึ่งชั่วโมงกลายเป็น เวสต์แฮม ที่กลับมาคุมสถานการณ์ครองเกมได้เหนือกว่า ถึงนาทีสุดท้ายของครึ่งแรก "ขุนค้อน" ก็ตอกนำเป็น 2-0 เมื่อ แกรี โอนีล ตักบอลจากกราบขวาให้ บา ขวิดบอลเข้าไปซุกก้นตาข่าย
ลุยต่อครึ่งหลัง ลิเวอร์พูล ไม่รีรอเป็นฝ่ายเดินเกมรุกเร้าใส่ทันที แต่ผ่านไปแค่ 3 นาที "คิง เคนนี" ก็ต้องถอดเอา ราอูล เมเรเลส ที่เจ็บตั้งแต่ครึ่งแรกฝืดต่อไม่ไหวออกมา พร้อมกับเติม ดาวิด เอ็นก็อก ลงมาเล่นแทน ปรับแท็คติกถ่าง เคาท์ ไปทำเกมทางขวา นาที 52 เวสต์แฮม ตัดบอลตรงกลางได้ ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ แทงให้ บา ยิงหักข้อด้วยซ้ายบอลพุ่งผ่านเสาไปแบบได้เสียว หนึ่งชั่วโมงพอดี ทีมเยือนน่าจะได้ประตูตีไข่แตกเป็นที่สุด สตีเวน เจอร์ราร์ด ดีดต่อให้ หลุยส์ ซัวเรซ สกัดการประกบของ เจมส์ ทอมกินส์ เข้าไปส่องด้วยขวาทว่า กรีน พุ่งปัดออกหลังไปได้
จังหวะสวนกลับมา โอนีล เกือบทำให้เจ้าถิ่นหนีห่างเมื่อแตะหนี แดนนี วิลสัน ซึ่งค่อนข้างผิดพลาดในเกมนี้ แต่บอลแฉลบตัว เจมี คาร์ราเกอร์ หลุดกรอบไป นาที 66 "ขุนค้อน" เกือบทิ้งห่างถ้า ปิกิยอน ไม่โขกบอลลงพื้นหลุดเสาไป เข้าสู่ช่วง 20 นาทีสุดท้าย "สตีวี จี" ได้ตะบันเป็นครั้งแรกโดน กรีน ปัดปลายมือพ้นคาน ถัดมา ปิกิยอน ส่องไกล เรนา รับกระฉอกเกือบปลิ้นเข้าประตูเหมือนกัน ก่อนหมดเวลา 6 นาที ทีมเยือนตีไข่แตกไล่มา 1-2 เมื่อ ซัวเรซ ผ่านให้ จอห์นสัน เข้าฮอร์สง่ายๆ ทว่าช่วงทดเจ็บ คาร์ตัน โคล ลงมาเป็นสำรองยิงฝังชัย 3-1 ให้ เวสต์แฮม มีเพิ่มเป็น 28 คะแนนจาก 28 นัด หนีบ๊วยขึ้นมารั้งอันดับ 18 ของตาราง พร้อมกับเขี่ย วีแกน ลงไปจมปลักแทน ขณะที่ ลิเวอร์พูล มีอยู่ 39 แต้ม รั้งอันดับ 6 ดังเดิม
ส่วนผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกอีกคู่ "เรือใบสีฟ้า" แมนเชสเตอร์ ซิตี เปิดรัง ซิตี ออฟ แมนเชสเตอร์ เสมอกับ "เจ้าสัวน้อย" ฟูแลม 1-1 โดยเจ้าบ้านออกนำไปก่อนจาก มาริโอ บาโลเตลลี นาทีที่ 26 ก่อนที่ เดเมียน ดัพฟ์ จะทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 48 แบ่งกันไปคนละหนึ่งแต้ม ส่วนอันดับตาราง แมนฯซิตี ยังคงอยู่อันดับที่ 3 เก็บแต้มเพิ่มเป็น 50 คะแนน ตามหลังจ่าฝูง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่ 10 คะแนน ส่วนฟูแลมก็ขยับขึ้นมาอยู่อันดับที่ 13 โดยมีแต้มเท่ากับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส และ แบล็คพูล ที่ 32 คะแนน แต่ลูกได้เสียดีกว่าทั้งสองทีม
รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงของทั้งสองทีม
เวสต์แฮม : โรเบิร์ต กรีน , ลาร์ส ยาค็อบเซน , เจมส์ ทอมกินส์ , แม็ทธิว อัพสัน , เวย์น บริดจ์ , แกรี โอนีล , มาร์ค โนเบิล , สกอตต์ พาร์เกอร์ , โธมัส ฮิตเซิลสแปร์เกอร์ , เดมบา บา , เฟรเดริก ปิกิยอน
ลิเวอร์พูล : โฆเซ เรนา , มาร์ติน เคลลี , เจมี คาร์ราเกอร์ , มาร์ติน สเคอร์เทล , แดนนี วิลสัน , สตีเวน เจอร์ราร์ด , ลูคัส เลวา , ราอูล เมเรเลส , เกล็น จอห์นสัน , เดิร์ก เคาท์ , หลุยส์ ซัวเรซ
