สมศักดิ์ ศิริธรรม บิ๊กบอสของ"ปลาทูคะนอง" เอสซีจี สมุทรสงคราม เอฟซี แสดงน้ำใจพาครอบครัวของโนงูจิ ปินโต นายด่านประจำทีมมาอาศัยที่เมืองไทย พร้อมร่วมมอบเงินค่าบัตรผ่านประตูและเงินบริจาคในเกมเจ๊า "มังกรไฟ"บีอีซี เทโรศาสน ผ่านตัวแทนสองแข้งแดนปลาดิบ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศญี่ปุ่น
หลังจากเกิดเหตุการณ์ธรณีพิบัติครั้งร้ายแรงที่ญี่ปุ่น ตั้งแต่วันที่ 11 มีนาคม 2554 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จนสร้างความกังวลให้กับนักเตะญี่ปุ่นที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากหวั่นครอบครัวที่บ้านเกิดจะได้รับผลกระทบ ล่าสุดการแข่งขันฟุตบอลสปอนเซอร์ไทยพรีเมียร์ลีก ในแต่ละสนาม ต่างก็มีการตั้งโต๊ะรับบริจาคเงินและสิ่งของเพื่อช่วยเหลือชาวญี่ปุ่นกันทุกสนาม ไม่เว้นแม้แต่กระทั่งเกมที่ "ปลาทูคะนอง"เอสซีจี สมุทรสงคราม เสมอกับ "มังกรไฟ"บีอีซี เทโรศาสน 1-1 ที่สนาม อบจ. สมุทรสงคราม เมื่อวันเสาร์ที่ 19 มีนาคม 2554 สโมสรเอสซีจีฯ ได้มีการมอบเงินค่าบัตรผ่านประตู และยอดบริจาคเงินรวมทั้งหมด มูลค่า 138,769 บาท มอบให้แก่ โนงูจิ ปินโต นายทวารของทีมจากเมืองแม่กลอง และโนบุยูกิ ไซเซน กองกลางของบีอีซีฯ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ญี่ปุ่นต่อไป
ส่วนเรื่องความเป็นอยู่ของครอบครัวนายด่านทีมปลาทูที่อาศัยอยู่ที่จังหวัดอิบารากิ โดยห่างจากจังหวัดฟุกุชิมะ สถานที่เกิดเหตุเพียง 180 กิโลเมตรเท่านั้น ล่าสุดทางสโมสรจากแม่กลองพร้อมให้ความช่วยเหลือ ด้วยการนำครอบครัวของโนงูจิ มาอาศัยอยู่ที่เมืองไทยเป็นเวลา 3 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นจะดีขึ้น พร้อมรับผิดชอบค่าเดินทาง ที่พัก และความเป็นอยู่ให้ทั้งหมด หลังจากนายทวารชาวญี่ปุ่นเชื้อสายบราซิลนำเรื่องเข้าปรึกษาประธานสโมสรของเอสซีจี สมุทรสงคราม
ซึ่งนาย สมศักดิ์ ศิริธรรม ประธานสโมสร เปิดเผยถึงการตัดสินใจในเรื่องดังกล่าว ว่า “จากสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วงปินโต เพราะเขาเป็นนักเตะของเรา จึงขอแสดงน้ำใจในเบื้องต้นด้วยการนำครอบครัวของเขามาอยู่ที่ประเทศไทยเป็นการชั่วคราว โดยทางสโมสรจะออกค่าใช้จ่ายทั้งตั๋วเครื่องบินไป-กลับ ที่พักอาศัย และเรื่องอาหารการกินให้ทั้งหมด เป็นเวลา 3 เดือน หรือจนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น เพื่อให้เขามีขวัญกำลังใจที่ดีในการลงเล่นให้กับทีมของเราต่อไป”
ด้านโนงูจิ ปินโต ก็ไอ้ออกมากล่าวขอบคุณประธานสโมสรที่ให้ความช่วยเหลือตนเป็นอย่างดี พร้อมหวังสถานการณ์ที่บ้านเกิดจะกลับมาปกติเหมือนเดิม “แม้จังหวัดอิบารากิที่ครอบครัวผมอยู่ จะไม่ได้รับผลกระทบโดยตรง แต่มันไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหลังจากนี้ มันอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกขึ้นมาอีกครั้งก็ได้ ผมจึงเข้าไปปรึกษากับคุณสมศักดิ์ และอยากขอบคุณที่ท่านให้ความช่วยเหลือ ซึ่งผมหวังว่าสถานการณ์ที่ญี่ปุ่นจะเข้าสู่สภาวะปกติเร็วๆนี้ เพราะเกรงใจประธานสโมสร ถ้าหากครอบครัวต้องอยู่เมืองไทยเป็นเวลานาน และการย้ายที่อยู่บ่อยๆ ก็คงเป็นเรื่องลำบากสำหรับพวกเขาด้วย” อดีตนายทวารของนากาโนะ พาร์เซโร กล่าว