แคร์รี เว็บบ์ โปรสาวชาวออสซี ขุนฟอร์มรอบสุดท้ายขึ้นมาคว้าแชมป์กอล์ฟ อาร์อาร์ ดอนเนลเลย์ แอลพีจีเอ ฟาวเดอร์ส คัพ ขณะที่ พรอนงค์ เพชรล้ำ หนึ่งเดียวของไทยน่าทึ่งซิวอันดับ 13 ร่วมมาครอง
ศึกกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ อาร์อาร์ ดอนเนลเลย์ แอลพีจีเอ ฟาวเดอร์ส คัพ ที่อริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาถึงการดวลวงสวิงกันในรอบสุดท้าย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า แคร์รี เว็บบ์ วันสุดท้ายเก็บมา 6 อันเดอร์พาร์ จากผลงาน 7 เบอร์ดี เสียคืนแค่โบกีเดียว สกอร์รวมพุ่งเป็น 12 อันเดอร์พาร์ ครองแชมป์ได้สำเร็จ เบียดเอาชนะ พอลลา เครเมอร์ กับ บริททานีย์ ลินซีย์คัม จากสหรัฐฯ แค่สโตรกเดียว โดย ลินซีย์คัม ชวดโอกาสไปเพลย์ออฟ เนื่องจากเสียโบกีในหลุมสุดท้าย
โดยการแข่งขันรายการนี้จะนำเอาเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 30 ล้านบาท) บริจาคเข้าการกุศลทั้งหมด นอกจากนี้ เว็บบ์ ยังควักกระเป๋าบริจาค 1 แสนเหรียญฯ (ราว 3 ล้านบาท) เข้ามูลนิธิ "คริสโตเฟอร์ และ ดานา รีฟ" ในการต่อสู้กับอัมพาต รวมถึงยังเซ็นเช็คอีก 1 แสนเหรียญฯ มอบให้แก่ประเทศญี่ปุ่นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่ม
เว็บบ์ เผยหลังเสร็จการแข่งขันทำนองให้เครดิตเพื่อนร่วมอาชีพ "บริททานีย์ (ลินซีย์คัม) เล่นได้ดีในสัปดาห์นี้ วันนี้เธอก็เล่นเยี่ยม ส่วนฉันยินดีที่ได้มายืนในตำแหน่งแชมป์ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งที่ชนะการแข่งขันฟาวเดอร์ส คัพ ในครั้งแรก นี่ถือเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม เรารู้สึกเป็นเกียรติ มันมากกว่าอะไรที่เราทำกันมา นี่เป็นเหตุผลที่พวกเรามาเล่นกอล์ฟในวันนี้"
"ส่วนเงินบริจาคให้ญี่ปุ่น เป็นเพราะฉันรู้สึกต้องการตอบแทนไปยังชาวญี่ปุ่น และบริษัทจากญี่ปุ่นที่ให้อะไรต่อมิอะไรแก่ฉันมากมาย" ก้านเหล็กวัย 36 ปี ทิ้งท้าย
ด้าน คริสตี เคอร์ จบที่ 4 หลังสามรอบเก็บไป 10 อันเดอร์พาร์ ส่วน แองเจลา สแตนฟอร์ด ซึ่งนำมาตั้งแต่รอบแรก วันสุดท้ายฟอร์มบู่ตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ สกอร์รวมหล่นเหลือ 9 อันเดอร์พาร์ คว้าที่ 5 ปลอบใจ ตามด้วย มินดี คิม ที่ได้มา 8 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ มอร์แกน เพรสเซลล์ อีกหนึ่งก้านเหล็กจากเมืองลุงแซม จบอันดับ 7 ร่วมกับ ซุน ยอง ยู (เกาหลีใต้) ทำมาคนละ 7 อันเดอร์พาร์
สำหรับ สเตซีย์ พราหมณสูตร ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วันสุดท้ายได้มา 1 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 5 อันเดอร์พาร์ คว้าที่ 10 ร่วมกับ ซานดรา กัล ส่วน "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ สร้างชื่อให้วงการกอล์ฟไทย ด้วยการเค้นฟอร์มเก็บอีก 2 อันเดอร์พาร์ ในรอบสุดท้าย ขึ้นมาจบที่ 13 ร่วมกับ บริทานีย์ แลง, ชานชาน เฟง (จีน) รวมทั้ง คีออง เบ ชาวเกาหลี หลังเก็บมาคนละ 4 อันเดอร์พาร์
ศึกกอล์ฟแอลพีจีเอ ทัวร์ รายการ อาร์อาร์ ดอนเนลเลย์ แอลพีจีเอ ฟาวเดอร์ส คัพ ที่อริโซน่า ประเทศสหรัฐอเมริกา เดินทางมาถึงการดวลวงสวิงกันในรอบสุดท้าย เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 20 มีนาคม 2554 ที่ผ่านมา
ปรากฏว่า แคร์รี เว็บบ์ วันสุดท้ายเก็บมา 6 อันเดอร์พาร์ จากผลงาน 7 เบอร์ดี เสียคืนแค่โบกีเดียว สกอร์รวมพุ่งเป็น 12 อันเดอร์พาร์ ครองแชมป์ได้สำเร็จ เบียดเอาชนะ พอลลา เครเมอร์ กับ บริททานีย์ ลินซีย์คัม จากสหรัฐฯ แค่สโตรกเดียว โดย ลินซีย์คัม ชวดโอกาสไปเพลย์ออฟ เนื่องจากเสียโบกีในหลุมสุดท้าย
โดยการแข่งขันรายการนี้จะนำเอาเงินรางวัล 1 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 30 ล้านบาท) บริจาคเข้าการกุศลทั้งหมด นอกจากนี้ เว็บบ์ ยังควักกระเป๋าบริจาค 1 แสนเหรียญฯ (ราว 3 ล้านบาท) เข้ามูลนิธิ "คริสโตเฟอร์ และ ดานา รีฟ" ในการต่อสู้กับอัมพาต รวมถึงยังเซ็นเช็คอีก 1 แสนเหรียญฯ มอบให้แก่ประเทศญี่ปุ่นที่ประสบภัยพิบัติแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิถล่ม
เว็บบ์ เผยหลังเสร็จการแข่งขันทำนองให้เครดิตเพื่อนร่วมอาชีพ "บริททานีย์ (ลินซีย์คัม) เล่นได้ดีในสัปดาห์นี้ วันนี้เธอก็เล่นเยี่ยม ส่วนฉันยินดีที่ได้มายืนในตำแหน่งแชมป์ ฉันรู้สึกเป็นเกียรติยิ่งที่ชนะการแข่งขันฟาวเดอร์ส คัพ ในครั้งแรก นี่ถือเป็นแนวคิดที่ยอดเยี่ยม เรารู้สึกเป็นเกียรติ มันมากกว่าอะไรที่เราทำกันมา นี่เป็นเหตุผลที่พวกเรามาเล่นกอล์ฟในวันนี้"
"ส่วนเงินบริจาคให้ญี่ปุ่น เป็นเพราะฉันรู้สึกต้องการตอบแทนไปยังชาวญี่ปุ่น และบริษัทจากญี่ปุ่นที่ให้อะไรต่อมิอะไรแก่ฉันมากมาย" ก้านเหล็กวัย 36 ปี ทิ้งท้าย
ด้าน คริสตี เคอร์ จบที่ 4 หลังสามรอบเก็บไป 10 อันเดอร์พาร์ ส่วน แองเจลา สแตนฟอร์ด ซึ่งนำมาตั้งแต่รอบแรก วันสุดท้ายฟอร์มบู่ตีเกิน 3 โอเวอร์พาร์ สกอร์รวมหล่นเหลือ 9 อันเดอร์พาร์ คว้าที่ 5 ปลอบใจ ตามด้วย มินดี คิม ที่ได้มา 8 อันเดอร์พาร์ ขณะที่ มอร์แกน เพรสเซลล์ อีกหนึ่งก้านเหล็กจากเมืองลุงแซม จบอันดับ 7 ร่วมกับ ซุน ยอง ยู (เกาหลีใต้) ทำมาคนละ 7 อันเดอร์พาร์
สำหรับ สเตซีย์ พราหมณสูตร ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วันสุดท้ายได้มา 1 อันเดอร์พาร์ สกอร์รวมเป็น 5 อันเดอร์พาร์ คว้าที่ 10 ร่วมกับ ซานดรา กัล ส่วน "โปรแหวน" พรอนงค์ เพชรล้ำ สร้างชื่อให้วงการกอล์ฟไทย ด้วยการเค้นฟอร์มเก็บอีก 2 อันเดอร์พาร์ ในรอบสุดท้าย ขึ้นมาจบที่ 13 ร่วมกับ บริทานีย์ แลง, ชานชาน เฟง (จีน) รวมทั้ง คีออง เบ ชาวเกาหลี หลังเก็บมาคนละ 4 อันเดอร์พาร์