xs
xsm
sm
md
lg

"ซูเปอร์โบว์ล" รสเด็ด!! / ลุงแซม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม

ปิดฉากกันไปสำหรับศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2010/11 ซึ่งแฟนๆ คงจะทราบกันไปแล้วว่าตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 45 ตกเป็นของพลพรรค "แพ็คส์แมน" กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ที่โชว์ฟอร์มสมราคาไล่บดเอาชนะ "คนเหล็ก" พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส 31-25 เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา

โดยส่วนตัวผู้เขียนมองว่าภาพรวมของศึกชิงแชมป์ประเทศออกมาค่อนข้างน่าประทับใจ แม้ คริสตินา อกีเลรา นักร้องสาวเสียงทรงพลัง เปิดหัวคาใจเพื่อนร่วมชาติชาวอเมริกันอยู่บ้าง เมื่อดันร้องเพลงชาติ "The Star-Spangled Banner" ผิดจากท่อนที่ต้องเปล่งเสียงว่า "O’er the ramparts we watched, were so gallantly streaming?" เป็น "What so proudly we watched, were so gallantly streaming?" และเปลี่ยนเนื้อร้อง จากคำว่า "hailed" เป็นคำว่า "watched" ซึ่งภายหลัง อกีเลรา ออกมาแก้ต่างทำนองหวังว่าทุกคนคงเข้าใจถึงความรู้สึกถึงความรักที่เธอมีให้ประเทศสหรัฐฯ ถึงแม้จะร้องผิดเพี้ยนไปบ้างแต่จิตวิญญาณยังคงอยู่

ส่วนการแสดงช่วงพักครึ่ง (Halftime Shows) เรื่องการ Setting แสงสีเสียงต่างๆ ของ NFL เป๊ะตามมาตรฐาน ทำให้การแสดงบนเวทีของวง "เดอะ แบล็ค อาย พีส์" ออกมาอย่างตระการตา ยิ่งได้ "สแลช" มือกีตาร์ในตำนานแห่งกันส์ แอนด์ โรสเซส มาโซโล่เพลง "Sweet Child O'Mine" ให้สาวฮอตอย่าง "เฟอร์กี้" ขับขานด้วยแล้วทำเอาเคลิ้มไปเหมือนกัน ขณะที่ "อัสเชอร์" แร็พเพอร์คนดัง ดูไปลีลาการเต้นคล้ายๆ พ่อหนุ่มเรนอย่างไรอย่างนั้น

มาว่ากันรูปการของ "ซูเปอร์โบว์ล" ซึ่งแน่นอนว่าเข้มข้นระดับท็อป 5 ในประวัติศาสตร์ ความแตกต่างที่นำมาซึ่งผลการแข่งขันดังข้างต้นเห็นจะหนีไม่พ้นเรื่องของ "เทิร์นโอเวอร์" มันปิดกั้นโอกาสเป็นแชมป์สมัยที่ 7 ของ สตีลเลอร์ส อย่างแท้จริง การเสีย 2 อินเทอร์เซปต์ของ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ทำให้ แพ็คเกอร์ส นำไปเปลี่ยนเป็น 14 แต้ม แม้ "บิ๊กเบน" โชว์ลูกฮึดพาทีมไล่มาเหลือ 17-21 ทิศทางของเกมดูเทมาทางฝั่ง "คนเหล็ก" แต่แล้วฟัมเบิลต้นควอเตอร์สุดท้ายของ ราชาร์ด เมนเดนฮอลล์ จึงโดน แอรอน ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนเป็นสกอร์ใหญ่ให้ "แพ็คส์แมน" ได้อีกครั้ง

ซึ่งผู้เขียนได้ประจักษ์กับตาอีกครั้งถึงฝีมือและความเป็นเพชฌฆาตในตัว ร็อดเจอร์ส นอกจากวิสัยทัศน์กับการมองหาปีกในเอ็นด์โซน ไม่ว่าได้ตำแหน่งบุกแห่งหนใดในสนาม การขว้างบอลของพ่อหนุ่มวัย 27 ปี เด็ดสะระตี๋ยิ่ง ช่วงที่โดน สตีลเลอร์ส ไล่กวดอย่างหนัก ร็อดเจอร์ส เปลี่ยนดาวน์ที่ 1 สำคัญ 2 หนด้วยการขว้างบอลเสียบตรงกลางให้ จอร์ดี เนลสัน และ เกร็ก เจนนิงส์ ด้วยผลงานบอมบ์ไป 306 หลา 3 ทัชดาวน์ ตำแหน่งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ซูเปอร์โบว์ลไม่หนีไปไหน ถึงวันนี้ชื่อของ ร็อดเจอร์ส ระบือไกล สาวก "หัวเนยแข็ง" คงลืมชื่อ เบร็ตต์ ฟาร์ฟ ไปอีกสักระยะจนกว่าตำนานจะหวนกลับมารีไทร์อย่างเป็นทางการที่แลมโบว์ ฟิลด์

ถึงบรรทัดนี้ต้องบอกว่าซีซัน 2010/11 ของ NFL ปิดจ็อบอย่างลงตัว เราได้เห็นการเติบโตของทีมอย่าง แพ็คเกอร์ส, แอตแลนตา ฟอลคอนส์ หรือว่า นิวยอร์ก เจ็ตส์ กับการขึ้นมาต่อกรกับมหาอำนาจอย่าง สตีลเลอร์ส, นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ รวมถึง อินเดียนาโปลิส โคลต์ส ได้เห็นรุคกี้ฟอร์มเด่นอย่าง แซม แบรดฟอร์ด หรือ เอ็นดามูคอง ซูห์ และอีกหลายคนที่จะขึ้นมาเป็นซูเปอร์สตาร์ในอนาคตอันใกล้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคงต้องภาวนาให้ โรเจอร์ กูเดลล์ บิ๊กบอสลีกคนชนคนใช้ลมปากหว่านล้อมให้บรรดาเจ้าของทีมและสหภาพผู้เล่นยอมตกลงสัญญาผลประโยชน์ร่วมกันฉบับใหม่ให้ได้ก่อนวันที่ 4 มีนาคมนี้ ซึ่งเชื่อว่า "ผลประโยชน์" ครั้งนี้น่าจะคงแบ่งเค้กกันลงตัว มิเช่นนั้นแฟนกีฬามะกันคงต้องเหงาไปเป็นปี
กำลังโหลดความคิดเห็น