"ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน เปิดบ้านเรียงหน้ายิง "ไก่แดนใต้" บารี กระจุย 3-0 กรุยทางเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายของศึกลูกหนังโคปปา อิตาเลีย เมื่อคืนวันพฤหัสบดีที่ 20 มกราคม 2554 ได้สำเร็จ
มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ประสบปัญหาในการจัดทัพ "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ในเกมเปิด ซาน ซิโร รับการมาเยือนของ "ไก่แดนใต้" บารี อยู่บ้างในศึกโคปปา อิตาเลีย รอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจาก มาร์โก อเมเลีย บาดเจ็บ จึงต้องส่ง ฟลาวิโอ โรมา นายทวารมือ 3 ลงเฝ้าเสา แถม ติอาโก ซิลวา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟบราซิเลียนบาดเจ็บ จึงไม่สามารถพัก อเลสซานโดร เนสตา ได้ตามที่หวัง ส่วนแนวรุกจัด โรบินโญ, อันโตนิโอ คาสซาโน ล่าตาข่ายร่วมกับ ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช ด้านทีมเยือนต้องฝากความหวังไว้ที่ วิตาลี คูตูซอฟ
เริ่มเกมการแข่งขัน มิลาน ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เปิดฉากรุกกดดันใส่ทีมเยือนทันทีช่วง 15 นาทีแรกทั้ง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช กับ โรบินโญ ได้โอกาสเป็นระยะแต่ยังเฉียดไปเฉี่ยวมา ถึงนาที 19 ขณะที่ บารี ดันเกมรุกขึ้นไปดันส่งบอลกันพลาดถูก โรบินโญ ตัดได้กลางสนามก่อนแทงทะลุให้ อิบราฮิมโมวิช กระชากเข้ากรอบโทษก่อนล็อกยิงบอลผ่านมือ ดานิเอเล ปาเดลลี เสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด จากนั้นเจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมบุก โรบินโญ ได้วางเท้ายิงเน้นๆ ร้อนถึงนายทวารทีมเยือนต้องปัดบอลพ้นคานไป ถึงช่วงทดเจ็บ "ปิศาจแดงดำ" หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ โรบินโญ ตบคืนให้ อเล็กซานเดอร์ เมอร์เคล กลางดาวรุ่งชาวเยอรมันกดด้วยซ้ายไม่เหลือ
ลุยต่อครึ่งหลัง "ไก่แดนใต้" ลงมาหวังทวงประตูคืน มัสซิโม โดนาติ ได้ยิงบอลหลุดกรอบ มิลาน สวนขึ้นมาเหมือนกันแต่ลูกยิงของ โรบินโญ ยังไม่เป็นผล และแฟนๆ ทีมเยือนก็ต้องเฮเก้อ แม้ ไฮเม โรเมโร โกเมซ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ ฟลาวิโอ โรมา ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 65 เจ้าถิ่นมาได้ประตูฝังชัย 3-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ โรบินโญ หมดเวลา "ปิศาจแดงดำ" ประคองตัวเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปเจอ ซามพ์โดเรีย ที่ดวลจุดโทษชนะ อูดิเนเซ มาได้ต่อไป
มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี ประสบปัญหาในการจัดทัพ "ปิศาจแดงดำ" เอซี มิลาน ในเกมเปิด ซาน ซิโร รับการมาเยือนของ "ไก่แดนใต้" บารี อยู่บ้างในศึกโคปปา อิตาเลีย รอบ 16 ทีมสุดท้าย เนื่องจาก มาร์โก อเมเลีย บาดเจ็บ จึงต้องส่ง ฟลาวิโอ โรมา นายทวารมือ 3 ลงเฝ้าเสา แถม ติอาโก ซิลวา เซ็นเตอร์ฮาล์ฟบราซิเลียนบาดเจ็บ จึงไม่สามารถพัก อเลสซานโดร เนสตา ได้ตามที่หวัง ส่วนแนวรุกจัด โรบินโญ, อันโตนิโอ คาสซาโน ล่าตาข่ายร่วมกับ ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช ด้านทีมเยือนต้องฝากความหวังไว้ที่ วิตาลี คูตูซอฟ
เริ่มเกมการแข่งขัน มิลาน ไม่พูดพร่ำทำเพลงให้เสียเวลา เปิดฉากรุกกดดันใส่ทีมเยือนทันทีช่วง 15 นาทีแรกทั้ง ซลาตัน อิบราฮิมโมวิช กับ โรบินโญ ได้โอกาสเป็นระยะแต่ยังเฉียดไปเฉี่ยวมา ถึงนาที 19 ขณะที่ บารี ดันเกมรุกขึ้นไปดันส่งบอลกันพลาดถูก โรบินโญ ตัดได้กลางสนามก่อนแทงทะลุให้ อิบราฮิมโมวิช กระชากเข้ากรอบโทษก่อนล็อกยิงบอลผ่านมือ ดานิเอเล ปาเดลลี เสียบตาข่ายอย่างเด็ดขาด จากนั้นเจ้าถิ่นยังไม่เพลาเกมบุก โรบินโญ ได้วางเท้ายิงเน้นๆ ร้อนถึงนายทวารทีมเยือนต้องปัดบอลพ้นคานไป ถึงช่วงทดเจ็บ "ปิศาจแดงดำ" หนีห่างเป็น 2-0 เมื่อ โรบินโญ ตบคืนให้ อเล็กซานเดอร์ เมอร์เคล กลางดาวรุ่งชาวเยอรมันกดด้วยซ้ายไม่เหลือ
ลุยต่อครึ่งหลัง "ไก่แดนใต้" ลงมาหวังทวงประตูคืน มัสซิโม โดนาติ ได้ยิงบอลหลุดกรอบ มิลาน สวนขึ้นมาเหมือนกันแต่ลูกยิงของ โรบินโญ ยังไม่เป็นผล และแฟนๆ ทีมเยือนก็ต้องเฮเก้อ แม้ ไฮเม โรเมโร โกเมซ หลุดเข้าไปซัดบอลผ่านมือ ฟลาวิโอ โรมา ทว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าเสียก่อน เกมดำเนินมาถึงนาทีที่ 65 เจ้าถิ่นมาได้ประตูฝังชัย 3-0 จากการหลุดเข้าไปยิงของ โรบินโญ หมดเวลา "ปิศาจแดงดำ" ประคองตัวเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศไปเจอ ซามพ์โดเรีย ที่ดวลจุดโทษชนะ อูดิเนเซ มาได้ต่อไป
