คอลัมน์ Final Quarter โดย ลุงแซม
งวดเข้ามาทุกขณะสำหรับบทสรุปของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2010/11 โดยสุดสัปดาห์นี้จะมีเกมชิงแชมป์สายระหว่าง นิวยอร์ก เจ็ตส์ กับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ทางฝั่งเอเอฟซี (AFC) และ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ดวลเดือด ชิคาโก แบร์ส ทางฟากเอ็นเอฟซี (NFC) ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีเป็นการพบกันของทีมอันดับ 6 กับทีมอันดับ 2 ของแต่ละคอนเฟอร์เรนซ์
แต่ถึงชั่วโมงนี้ไม่ว่าทีมใดจะขึ้นไปเถลิงแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 45 ผู้เขียนมองว่าก็คู่ควรแล้วกับฝีมือ และนี่อาจเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ที่เราจะได้เห็นทีม Seed 6 ขึ้นโพเดียมจุมพิต "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" อย่างเต็มภาคภูมิ สำหรับแฟนคนชนคนที่แอบเชียร์ทีมรองอย่าง เจ็ตส์ กับ แพ็คเกอร์ส ต้องเอาใจช่วยกันหน่อย เพราะการบุกไปประกาศชัยถึงไฮนซ์ ฟิลด์ บ้านของ "คนเหล็ก" สตีลเลอร์ส หรือเดินออกจากถิ่นโซลเจอร์ ฟิลด์ รังของ "พญาหมี" แบร์ส ในฐานะผู้ชนะคงไม่ใช่งานง่ายเท่าใดนัก
ในรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ที่ผ่านมา สงครามจิตวิทยาของ เร็กซ์ ไรอัน ยังใช้ได้ผล อีกนัยหนึ่งดูเหมือนหัวหน้าโค้ชพุงพลุ้ยเชื่อมั่นในความเป็นเลิศของขุมกำลังที่มีอยู่ ถ้า มาร์ค ซานเชซ ยังโชว์ฟอร์มเนี้ยบเหมือนเกมบุกโค่น นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 28-21 บอกได้เลยว่า สตีลเลอร์ส มีโอกาสงานเข้า อีกทั้งย้อนกลับไปในสัปดาห์ที่ 15 ของฤดูกาลปกติ ควอเตอร์แบ็กเชื้อสายเม็กซิกันเคยพาต้นสังกัดบุกอัด "คนเหล็ก" แบบพลิกล็อกมาแล้ว 22-17
การเจอกันหนนี้เมื่อเทียบขุมกำลังแต่ละตำแหน่งเรียกได้ว่าสูสีจนงัดกันแทบไม่ลง เจ็ตส์ มีหมัดหนึ่งสองภาคพื้นดิน ชอนน์ กรีน คอยกระทุ้ง ลาไดเนียน ทอมลินสัน วิ่งโฉบและฉีกไปรับบอลได้ดี แต่ต้องไม่ลืมว่า สตีลเลอร์ส มีทีมรับที่ป้องกันเกมวิ่งเป็นอันดับ 1 ของ NFL ส่วนเกมบุกทางอากาศ ซานเชซ ได้ทั้ง เบรย์ลอน เอ็ดเวิร์ดส กับ ซานโตนิโอ โฮล์มส มารับบิ๊กเพลย์ ในขณะที่ทางฝั่ง "คนเหล็ก" ผู้เขียนมองว่า เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ได้ความมั่นใจเพิ่มขึ้น หลังนำทีมพลิกอัด บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 31-24 ซึ่งหากเกมสูสีคงต้องตัดสินชัยชนะกันที่ความเก๋าของ "จอมทัพ" โดย "บิ๊กเบน" เล่นเกมชิงแชมป์สาย 3 หน ชนะ 2 ครั้ง และเผอิญว่าความสำเร็จทั้งสองหนแปรเปลี่ยนเป็นตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ส่วน ซานเชซ นี่เป็นโอกาสแก้ตัว หลังเปิดซิงซีซันก่อนบุกพ่าย อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 17-30
ไปกันที่ฝั่ง NFC นี่ถือเป็นเกมชิงแชมป์สายครั้งแรกของทั้ง แอรอน ร็อดเจอร์ส (แพ็คเกอร์ส) และ เจย์ คัตเลอร์ (แบร์ส) แน่นอนเกมใหญ่ขนาดนี้ ความตื่นเต้นย่อมต้องมี ทว่าด้วยฟอร์มปัจจุบันบอกได้คำเดียวว่าควอเตอร์แบ็กทั้ง 2 คน กำลังแกร่งทั้งฝีมือและจิตใจ โดยเฉพาะ ร็อดเจอร์ส บอมบ์ไป 6 ทัชดาวน์ ใส่เกมรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ แถมวิ่งเองอีกสกอร์ ที่สำคัญไม่พลาดเสียแม้แต่อินเทอร์เซปต์เดียว ขณะที่ คัตเลอร์ ทั้งขว้างและวิ่งเองอย่างละ 2 สกอร์ในการกำราบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส 35-24 ในรอบที่ผ่านมา นี่จะเป็นบทพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของทั้งคู่อย่างแท้จริง ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทีมรับสุดหินของแต่ละฝ่าย ดูเหมือนว่า เคลย์ แม็ทธิวส์ ยอดไลน์แบ็กเกอร์ "แพ็คส์แมน" จ้องจะอัด คัตเลอร์ ให้ลงไปวัดพื้น เช่นเดียวกับที่ จูเลียส เพพเพอร์ส สุดยอดดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ หวังแซ็ค ร็อดเจอร์ส ที่ขึ้นชื่อเรื่องการวิ่งหลบหลีกคู่แข่งได้เป็นอย่างดี
งวดเข้ามาทุกขณะสำหรับบทสรุปของศึกอเมริกัน ฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประจำฤดูกาล 2010/11 โดยสุดสัปดาห์นี้จะมีเกมชิงแชมป์สายระหว่าง นิวยอร์ก เจ็ตส์ กับ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส ทางฝั่งเอเอฟซี (AFC) และ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ดวลเดือด ชิคาโก แบร์ส ทางฟากเอ็นเอฟซี (NFC) ซึ่งถ้าสังเกตให้ดีเป็นการพบกันของทีมอันดับ 6 กับทีมอันดับ 2 ของแต่ละคอนเฟอร์เรนซ์
แต่ถึงชั่วโมงนี้ไม่ว่าทีมใดจะขึ้นไปเถลิงแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ครั้งที่ 45 ผู้เขียนมองว่าก็คู่ควรแล้วกับฝีมือ และนี่อาจเป็นหนแรกในประวัติศาสตร์ที่เราจะได้เห็นทีม Seed 6 ขึ้นโพเดียมจุมพิต "วินซ์ ลอมบาร์ดี โทรฟี" อย่างเต็มภาคภูมิ สำหรับแฟนคนชนคนที่แอบเชียร์ทีมรองอย่าง เจ็ตส์ กับ แพ็คเกอร์ส ต้องเอาใจช่วยกันหน่อย เพราะการบุกไปประกาศชัยถึงไฮนซ์ ฟิลด์ บ้านของ "คนเหล็ก" สตีลเลอร์ส หรือเดินออกจากถิ่นโซลเจอร์ ฟิลด์ รังของ "พญาหมี" แบร์ส ในฐานะผู้ชนะคงไม่ใช่งานง่ายเท่าใดนัก
ในรอบดิวิชันนัล เพลย์ออฟ ที่ผ่านมา สงครามจิตวิทยาของ เร็กซ์ ไรอัน ยังใช้ได้ผล อีกนัยหนึ่งดูเหมือนหัวหน้าโค้ชพุงพลุ้ยเชื่อมั่นในความเป็นเลิศของขุมกำลังที่มีอยู่ ถ้า มาร์ค ซานเชซ ยังโชว์ฟอร์มเนี้ยบเหมือนเกมบุกโค่น นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ 28-21 บอกได้เลยว่า สตีลเลอร์ส มีโอกาสงานเข้า อีกทั้งย้อนกลับไปในสัปดาห์ที่ 15 ของฤดูกาลปกติ ควอเตอร์แบ็กเชื้อสายเม็กซิกันเคยพาต้นสังกัดบุกอัด "คนเหล็ก" แบบพลิกล็อกมาแล้ว 22-17
การเจอกันหนนี้เมื่อเทียบขุมกำลังแต่ละตำแหน่งเรียกได้ว่าสูสีจนงัดกันแทบไม่ลง เจ็ตส์ มีหมัดหนึ่งสองภาคพื้นดิน ชอนน์ กรีน คอยกระทุ้ง ลาไดเนียน ทอมลินสัน วิ่งโฉบและฉีกไปรับบอลได้ดี แต่ต้องไม่ลืมว่า สตีลเลอร์ส มีทีมรับที่ป้องกันเกมวิ่งเป็นอันดับ 1 ของ NFL ส่วนเกมบุกทางอากาศ ซานเชซ ได้ทั้ง เบรย์ลอน เอ็ดเวิร์ดส กับ ซานโตนิโอ โฮล์มส มารับบิ๊กเพลย์ ในขณะที่ทางฝั่ง "คนเหล็ก" ผู้เขียนมองว่า เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ได้ความมั่นใจเพิ่มขึ้น หลังนำทีมพลิกอัด บัลติมอร์ เรฟเวนส์ 31-24 ซึ่งหากเกมสูสีคงต้องตัดสินชัยชนะกันที่ความเก๋าของ "จอมทัพ" โดย "บิ๊กเบน" เล่นเกมชิงแชมป์สาย 3 หน ชนะ 2 ครั้ง และเผอิญว่าความสำเร็จทั้งสองหนแปรเปลี่ยนเป็นตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์โบว์ล ส่วน ซานเชซ นี่เป็นโอกาสแก้ตัว หลังเปิดซิงซีซันก่อนบุกพ่าย อินเดียนาโปลิส โคลต์ส 17-30
ไปกันที่ฝั่ง NFC นี่ถือเป็นเกมชิงแชมป์สายครั้งแรกของทั้ง แอรอน ร็อดเจอร์ส (แพ็คเกอร์ส) และ เจย์ คัตเลอร์ (แบร์ส) แน่นอนเกมใหญ่ขนาดนี้ ความตื่นเต้นย่อมต้องมี ทว่าด้วยฟอร์มปัจจุบันบอกได้คำเดียวว่าควอเตอร์แบ็กทั้ง 2 คน กำลังแกร่งทั้งฝีมือและจิตใจ โดยเฉพาะ ร็อดเจอร์ส บอมบ์ไป 6 ทัชดาวน์ ใส่เกมรับ ฟิลาเดลเฟีย อีเกิลส์ และ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ แถมวิ่งเองอีกสกอร์ ที่สำคัญไม่พลาดเสียแม้แต่อินเทอร์เซปต์เดียว ขณะที่ คัตเลอร์ ทั้งขว้างและวิ่งเองอย่างละ 2 สกอร์ในการกำราบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์คส 35-24 ในรอบที่ผ่านมา นี่จะเป็นบทพิสูจน์ความยอดเยี่ยมของทั้งคู่อย่างแท้จริง ในเมื่อต้องเผชิญหน้ากับทีมรับสุดหินของแต่ละฝ่าย ดูเหมือนว่า เคลย์ แม็ทธิวส์ ยอดไลน์แบ็กเกอร์ "แพ็คส์แมน" จ้องจะอัด คัตเลอร์ ให้ลงไปวัดพื้น เช่นเดียวกับที่ จูเลียส เพพเพอร์ส สุดยอดดีเฟนด์ซีฟ เอนด์ หวังแซ็ค ร็อดเจอร์ส ที่ขึ้นชื่อเรื่องการวิ่งหลบหลีกคู่แข่งได้เป็นอย่างดี