ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตยอดนักเทนนิสมือ 9 ของโลก พอใจในความสามารถทางการแสดงบทแอ็คชัน พร้อมแสดงความเชื่อมั่นไปได้ สวยในวงการจอเงิน หลังภาพยนตร์ "บางระจัน 2" ซึ่งตนรับบท นายมั่น ออกฉายทั่วประเทศตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา ด้าน ดนัย อุดมโชค นักเทนนิสรุ่นน้อง ทึ่งสุดขีดหลังเห็น "ซูเปอร์บอล" เข้าถึงบทบาทบีบน้ำตาออกมาในผลงานชิ้นแรก
โหมโรงกันมาตั้งแต่ปลายปี 2009 ในที่สุดภาพยนตร์ไทยทุนสร้าง 40 ล้านบาท "บางระจัน 2" โดยผู้กำกับมือดี "ปื๊ด" ธนิตย์ จิตนุกูล และร่วมแสดงโดย ภราดร ศรีชาพันธุ์ ในบทบาทหัวหน้าชุมเขานางบวชผู้รักชาติ ลงโรงฉายทั่วประเทศไปแล้ว ซึ่งล่าสุด "เจ้าบอล" ประเมินผลงานของตนเอง
ภราดร วัย 30 ปี ที่เหมาโรงภาพยนตร์ สยาม พารากอน เชิญญาติสนิทมิตรสหายเข้าไปชมผลงานของตนเองตั้งแต่วันประเดิมฉาย พฤหัสบดีที่ 25 มีนาคม เผยว่า "การเล่นภาพยนตร์ครั้งนี้อาจให้คะแนนเป็นตัวเลขลำบาก แต่เท่าที่ประเมิน ผมให้ตนเองผ่าน เพราะตีความบทนายมั่นได้ดี คิดว่าต่อไปหากมีโอกาสเล่นบทบู๊ที่เน้นแสดงอารมณ์ทางหน้าตาเช่นนี้ก็น่าจะทำได้ในมาตรฐานเดิม แต่ใจจริงด้วยความเป็นนักแสดงก็อยากเล่นได้ทุกบทบาท"
ด้าน "เจ้าปิ๊ก" ดนัย อุดมโชค มือ 1 ของไทยที่กำลังรักษาตัวจากการผ่าตัดหัวไหล่และมีโอกาสเข้าชม "บางระจัน 2" กล่าวว่า "ผมแปลกใจเมื่อเห็นนายมั่นที่แสดงโดยพี่บอลร้องไห้ออกมาในช่วงท้ายเรื่อง เพราะทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้เขามีเวลาเตรียมตัวน้อย ไปนัดแนะกับกองถ่าย 1-2 ชั่วโมงแล้วลงมือถ่ายทำทันที ดังนั้นถ้าหากการบีบน้ำตานี้ทำได้ด้วยตนเองก็นับว่ามีพรสวรรค์ทางการแสดงเป็นอย่างยิ่ง"
หลังฟังทัศนะจากรุ่นน้องคนสนิท ผู้สื่อข่าว MGR Sport ได้สอบถาม ภราดร ถึงเบื้องหน้าเบื้องหลังฉากร้องไห้ ได้คำตอบว่า "ฉากนั้นผมร้องไห้เอง โดยใช้ความสามารถทางการแสดงที่ฝึกฝนมา เน้นการรวบรวมสมาธิคล้ายกับตอนเล่นเทนนิสและพยายามเข้าให้ถึงนายมั่น ผู้มีความรักชาติ จนในที่สุดน้ำตาก็หลั่งไหลออกมาเอง"
ทั้งนี้ ซูเปอร์บอล ซึ่งห่างหายจากวงการสักหลาดไปตั้งแต่ปี 2007 เนื่องจากบาดเจ็บข้อมือขวา ยังคงยืนยันว่าพร้อมกลับสู่วงการเทนนิสอาชีพทันทีที่ร่างกายมีสภาพความฟิตสมบูรณ์ ซึ่งคาดว่าการคืนสนามจะเกิดขึ้นภายในฤดูกาล 2010