คอลัมน์ ON TRACK โดย เด็กปั๊ม
ในสภาวะบ้านเมืองเต็มไปด้วยม็อบ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ โดยเฉพาะการเดินทาง ที่ต้องฝ่าการจราจรจากย่านรามอินทรา ไปยังฐานบัญชาการบ้านพระอาทิตย์ บนถนนพระอาทิตย์ ทำให้ขณะที่กระหน่ำคอลัมน์ "ON TRACK" อยู่นี้ผมเองได้รับไฟเขียวจากบก.ใหญ่ ให้ทำงานจากที่บ้านได้ แหมอินเตอร์เนตมันดีอย่างนี้นี่เองครับ
ที่จั่วหัวว่า "เต่า" เพ่นพ่าน ไม่ได้จะโยงไปถึงเรื่องราวทางการเมืองอันร้อนระอุไม่แพ้อากาศของบ้านเราแต่อย่างใดครับ แต่จะพูดถึงศึกฟอร์มูลา วัน 2010 ที่เปิดฉากสนามแรกกันไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาที่บาห์เรน ซึ่งก็คงจะทราบกันไปแล้วว่าเฟอร์รารี กลับมาครั้งนี้เอาจริงแน่นอน เพราะเล่นคว้าชัยแบบวัน -ทู ทั้งที่ปี 2009 ต้องรอถึงสนามที่ 4 กว่าจะได้แต้มแรกของปี
พูดการเปิดฉากเอฟวัน 2010 ประเด็นที่ผมอยากจะนำมาพูดคุยกันวันนี้อยู่ที่ผลงานของ 3 ทีมน้องใหม่ ซึ่งตามสายตา "เด็กปั๊ม" ต้องบอกตามตรงว่าไม่ผ่าน แต่ขณะเดียวกันก็เห็นใจทีมแข่งเหล่านี้ควบคู่กันไป เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทีมที่ไม่มีประสบการณ์ในเอฟวันเลย จะเปรี้ยงปร้างขึ้นมาทำผลงานเทียบกับทีมแข่งเขี้ยวลากดินอย่าง เฟอร์รารี หรือแม็คลาเรน
ผลงานของ 3 ทีมน้องใหม่ทั้งเวอร์จิน ,ฮิสปาเนีย และโลตัส มีเพียงทีมหลังสุดที่พูดได้ว่าแข่งจบ หลังฮิคกิ โควาไลเนน และยาร์โน ทรูลลีย์ จบที่ 15 และ 17 แต่ก็บอกว่าจบคือการจบด้วยการถูกเฟร์นานโด อลอนโซ แชมป์สนามน็อครอบไปถึง 2 และ 3 รอบตามลำดับ ส่วนรถอีก 4 คัน ของ เวอร์จิน และ ฮิสปาเนีย ต้องโบกมือลาไปตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะ การุณ จันโธก นักซิ่งอินเดียบ๊ายบายไปตั้งแต่รอบแรก
ยิ่งไปกว่านั้น หากไปเช็คเวลาต่อรอบ ทีมเหล่านี้มีเวลาตามหลังทีมหัวแถวรอบละกว่า 10 วินาที ซึ่งถือว่าช้ามากสำหรับกีฬาที่เร็วที่สุดในโลกเช่นนี้ และก็ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นรถกลุ่มนำไล่น็อครอบรถช้าคันแล้วคันเล่า และยิ่งปีนี้มีเอฟวันแบนการเติมน้ำมัน ทำให้รถเสียเวลาในพิตน้อยลง จึงเห็นรถช้าราวกับมี "เต่า" คลานเพ่นเพ่านเต็มแทร็กเพิ่มขึ้นมาอีก 6 ตัว
ความห่างชั้นตรงนี้ ทำให้สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เตรียมปัดฝุ่น "กฎ 107 เปอร์เซนต์" กลับมาใช้อีกครั้ง เนื่องจากเป็นกฎที่จะพิจารณาเวลาควอลิฟายของเจ้าของโพลโพซิชัน กับนักขับกลุ่มท้ายแถวไม่ให้มีเวลาห่างกันเกินไป ซึ่งตามกฎหากใครทำเวลาไม่ผ่านเกณฑ์ 107 เปอร์เซนต์ ก็จะไม่ได้ลงแข่งในวันชิงชนะเลิศ แต่ดูแนวโน้มแล้วเอฟไอเอคงยังไมนำมาใช้ในปีนี้แน่ เพราะหากคิดกันจริงๆ เวลาของ 3 ทีมน้องใหม่ ไม่เฉียดกับการผ่านเกณฑ์นี้เลย
ก่อนหน้านี้โตโยตา ที่เข้ามาเปิดซิงเอฟวันครั้งแรกในปี 2002 ด้วยผลงานสุด "เต่า" เก็บได้ 2 แต้มเมื่อจบซีซัน ทว่าก็สามารถยกระดับตัวเองจนมีโพเดียมครั้งแรกได้สำเร็จในปี 2005 แต่ก็อย่าลืมว่าโตโยตาทุ่มเงินไปมหาศาลนะครับ แต่กับ 3 ทีมน้องใหม่ที่ไม่ได้ทุนหนาอะไรมากมาย ถือเป็นการบ้านชิ้นสำคัญของเหล่าผู้บริหารทีมจริงๆครับ เฮ้อ เหนื่อยแทน!
ในสภาวะบ้านเมืองเต็มไปด้วยม็อบ ผมเองเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ โดยเฉพาะการเดินทาง ที่ต้องฝ่าการจราจรจากย่านรามอินทรา ไปยังฐานบัญชาการบ้านพระอาทิตย์ บนถนนพระอาทิตย์ ทำให้ขณะที่กระหน่ำคอลัมน์ "ON TRACK" อยู่นี้ผมเองได้รับไฟเขียวจากบก.ใหญ่ ให้ทำงานจากที่บ้านได้ แหมอินเตอร์เนตมันดีอย่างนี้นี่เองครับ
ที่จั่วหัวว่า "เต่า" เพ่นพ่าน ไม่ได้จะโยงไปถึงเรื่องราวทางการเมืองอันร้อนระอุไม่แพ้อากาศของบ้านเราแต่อย่างใดครับ แต่จะพูดถึงศึกฟอร์มูลา วัน 2010 ที่เปิดฉากสนามแรกกันไปแล้วเมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 มีนาคมที่ผ่านมาที่บาห์เรน ซึ่งก็คงจะทราบกันไปแล้วว่าเฟอร์รารี กลับมาครั้งนี้เอาจริงแน่นอน เพราะเล่นคว้าชัยแบบวัน -ทู ทั้งที่ปี 2009 ต้องรอถึงสนามที่ 4 กว่าจะได้แต้มแรกของปี
พูดการเปิดฉากเอฟวัน 2010 ประเด็นที่ผมอยากจะนำมาพูดคุยกันวันนี้อยู่ที่ผลงานของ 3 ทีมน้องใหม่ ซึ่งตามสายตา "เด็กปั๊ม" ต้องบอกตามตรงว่าไม่ผ่าน แต่ขณะเดียวกันก็เห็นใจทีมแข่งเหล่านี้ควบคู่กันไป เพราะไม่ใช่เรื่องง่ายที่ทีมที่ไม่มีประสบการณ์ในเอฟวันเลย จะเปรี้ยงปร้างขึ้นมาทำผลงานเทียบกับทีมแข่งเขี้ยวลากดินอย่าง เฟอร์รารี หรือแม็คลาเรน
ผลงานของ 3 ทีมน้องใหม่ทั้งเวอร์จิน ,ฮิสปาเนีย และโลตัส มีเพียงทีมหลังสุดที่พูดได้ว่าแข่งจบ หลังฮิคกิ โควาไลเนน และยาร์โน ทรูลลีย์ จบที่ 15 และ 17 แต่ก็บอกว่าจบคือการจบด้วยการถูกเฟร์นานโด อลอนโซ แชมป์สนามน็อครอบไปถึง 2 และ 3 รอบตามลำดับ ส่วนรถอีก 4 คัน ของ เวอร์จิน และ ฮิสปาเนีย ต้องโบกมือลาไปตั้งแต่หัววัน โดยเฉพาะ การุณ จันโธก นักซิ่งอินเดียบ๊ายบายไปตั้งแต่รอบแรก
ยิ่งไปกว่านั้น หากไปเช็คเวลาต่อรอบ ทีมเหล่านี้มีเวลาตามหลังทีมหัวแถวรอบละกว่า 10 วินาที ซึ่งถือว่าช้ามากสำหรับกีฬาที่เร็วที่สุดในโลกเช่นนี้ และก็ไม่แปลกใจเลยที่จะเห็นรถกลุ่มนำไล่น็อครอบรถช้าคันแล้วคันเล่า และยิ่งปีนี้มีเอฟวันแบนการเติมน้ำมัน ทำให้รถเสียเวลาในพิตน้อยลง จึงเห็นรถช้าราวกับมี "เต่า" คลานเพ่นเพ่านเต็มแทร็กเพิ่มขึ้นมาอีก 6 ตัว
ความห่างชั้นตรงนี้ ทำให้สหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เตรียมปัดฝุ่น "กฎ 107 เปอร์เซนต์" กลับมาใช้อีกครั้ง เนื่องจากเป็นกฎที่จะพิจารณาเวลาควอลิฟายของเจ้าของโพลโพซิชัน กับนักขับกลุ่มท้ายแถวไม่ให้มีเวลาห่างกันเกินไป ซึ่งตามกฎหากใครทำเวลาไม่ผ่านเกณฑ์ 107 เปอร์เซนต์ ก็จะไม่ได้ลงแข่งในวันชิงชนะเลิศ แต่ดูแนวโน้มแล้วเอฟไอเอคงยังไมนำมาใช้ในปีนี้แน่ เพราะหากคิดกันจริงๆ เวลาของ 3 ทีมน้องใหม่ ไม่เฉียดกับการผ่านเกณฑ์นี้เลย
ก่อนหน้านี้โตโยตา ที่เข้ามาเปิดซิงเอฟวันครั้งแรกในปี 2002 ด้วยผลงานสุด "เต่า" เก็บได้ 2 แต้มเมื่อจบซีซัน ทว่าก็สามารถยกระดับตัวเองจนมีโพเดียมครั้งแรกได้สำเร็จในปี 2005 แต่ก็อย่าลืมว่าโตโยตาทุ่มเงินไปมหาศาลนะครับ แต่กับ 3 ทีมน้องใหม่ที่ไม่ได้ทุนหนาอะไรมากมาย ถือเป็นการบ้านชิ้นสำคัญของเหล่าผู้บริหารทีมจริงๆครับ เฮ้อ เหนื่อยแทน!